luscious,
11
ยิ้มค่อยๆ
OMG!
เรื่องโกหกชัดๆ
หมอนี่มาได้ยังไง? แล้วกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทั้งๆ ที่หายหน้าหายตาไปนานหลายปี
อย่าแปลกใจที่ผมจำมันได้ก็เพราะมันเป็นอีกคนที่กล้าคบผมเป็นเพื่อนพอๆ
กับไอ้จานั่นแหละครับ
“ไทเป!!!!!!”
อย่าถามว่าเป็นใคร
ถ้าให้ตอบก็เป็นทั้งเพื่อนและก็ญาติในเวลาเดียวกัน
“ฉันเพิ่งรู้เรื่องครอบครัวนายเลยขอพ่อบินมาไทย
แต่ไม่ยักจะรู้ว่าไอ้คุณหนูเดือนสิบสองจะตกอับขนาดนี้”
“ปากเหรอ?
มึงทำกูตกใจนะไทเป” ผมว่าก่อนจะปาร่มที่ถือติดมือมาเพื่อป้องกันตัวใส่ไทเปทันที
ทำให้ตกใจกลัวไปได้ตั้งนานที่ไหนได้ดันโผล่มาไม่บอกไม่กล่าวกันก่อน
“โทษทีๆ
ตอนแรกกะจะโทรหาแต่ไม่ดีกว่า”
“ตลก!
ถ้ากูถือปืนอยู่มึงคงตายไปแล้ว”
ผมหันกลับไปยู่หน้าใส่มันก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟา “แล้วเมื่อกี้หาอะไร
ถ้ามาแล้วทำไมไม่ไปปลุกกูในห้อง”
“ปลุกแล้วแต่มึงไม่ตื่น
ฝันร้ายเหรอ?”
ตอนแรกผมคิดว่าน้ำเสียงอบอุ่นที่เรียกชื่อของผมจะเป็นใครอีกคน
แต่ที่ไหนได้กลับไม่ใช่…แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะผมเองก็ไม่อยากนึกถึงอีกแล้ว
“ไม่รู้!
แล้วนี่กินอะไรมายัง”
“เที่ยงคืนเนี่ยนะ
ไม่อะ?” เดินกลับมานั่งข้างๆ ผมไอ้หมอนี่จัดได้ว่าเป็นผู้ชายที่หล่อมากๆ
ถ้าไม่ติดที่ว่าเป็นญาติผมงาบมันไปแล้ว
อันนี้คือความคิดเมื่อก่อนแต่อย่างน้อยเราก็คิดเหมือนกันเพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่ผมเมาก็เกือบถูกไอ้เวรนี่งาบดีนะที่ตอนนั้นไอ้จามาช่วยไว้ได้ทันไม่งั้น…หน้ามันผมยังไม่อยากมอง
“เฮ้ย!
เดือนสิบสองมึงสวยขึ้นหรือเปล่า”
“ไปตายซะไทเปกูต้องหล่อสิ”
ผมหันไปค้อนใส่มันบ่งบอกทางสีหน้าทันทีว่ากำลังโกรธ ชมมาได้ว่าสวย…
-_-!
“ฮาๆ
ก็มันจริงนี่ ผิวมึงก็ดูผ่องผิดปกติ”
“กูไปอยู่ตรังมาดำตั้งเยอะมึงดันบอกว่าผ่อง”
“กูพูดตามที่เห็นหรือว่าไม่เจอมึงซะนาน”
“คงอย่างหลัง
คุยกับมึงแล้วเหนื่อยงั้นกูไปนอนต่อละกัน” ผมบอกก่อนจะเดินไปกระชากประตูห้องแล้วเข้าไปทันที
ผมเลี่ยงที่จะปะทะกับไทเปเพราะหมอนี่ช่างสังเกตเหลือเกิน…มีหวังถ้าคุยกันไปนานๆ ผมอาจจะซวยได้
เข้ามาในห้องก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูมีสายไม่ได้รับเพียบเลยครับ
ลืมไปว่าผมปิดเสียงเอาไว้โทรมาก็ไม่ได้ยินหรอก…ข้อความก็มีแต่ดูไปดูมาจะมีแต่ของไอ้จาคนเดียวเท่านั้น
นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงสักพักเสียงกริ๊งหน้าห้องก็ดังขึ้นมา
ผมเด้งตัวลุกขึ้นขมวดคิ้วสงสัย…เที่ยงคืนแบบนี้ใครกันจะโผล่มาหาผมและอีกอย่างมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าผมอยู่กรุงเทพฯ
แล้ว
ผมเดินออกจากห้องก็เห็นว่าไทเปยืนอยู่หน้าประตูแล้วท่าทางของหมอนี่เหมือนกำลังยืนคุยกับใครสักคนอยู่ผมเลยเดินเข้าไปหาก่อนจะหยุดยืนอยู่ด้านหลังไทเปซึ่งไม่ไกลจากหมอนี่นัก
“ใครมานะ”
ผมเอ่ยถามขึ้น
“อ๋อ!
ไม่รู้สิแต่เค้าบอกว่ามาหามึง”
ไทเปหันมาบอกกับผมซึ่งคำตอบของหมอนี่สร้างความสงสัยให้ผมเป็นอย่างมาก
“งั้นเข้ามาก่อนสิ”
ไทเปเอ่ยขึ้นคนด้านนอกยังกับตัวเองเป็นเจ้าของห้องซะเองก่อนที่ประตูจะถูกเปิดกว้างเผยให้เห็นร่างเล็กของผู้ชายที่กำลังเดินเข้ามาและนั่นก็สร้างความประหลาดใจให้ผมอีกจนได้
“คุณ!” ผมอุทานอย่างแปลกใจก่อนจะชี้ไปยังร่างตรงหน้า
ผมจำผู้ชายคนนี้ได้ดีเพราะเราเคยเจอกันครั้งหนึ่งตอนที่ผมยังอยู่ตรังและตอนนั้นเค้าเองก็เป็นคนที่ทำแผลให้พ่อเลี้ยงบ้านั่นด้วย
รู้สึกไม่ชอบใจยังไงก็ไม่รู้สิครับ
L
“สวัสดี
ได้เจอกันอีกแล้วนะเดือนสิบสอง” เค้าเอ่ยทักทายผมอย่างเป็นมิตรแถมยังรู้จักชื่อของผมเป็นอย่างดีท่าทางจะรู้มาจากคนฝั่งโน่นแน่นอน
“มาทำไม”
ผมถามน้ำเสียงหวนๆ แสดงสีหน้าให้เห็นว่าไม่เต็มใจจะต้อนรับแขกอย่างมาก
แถมยังมาตอนเที่ยงคืนกว่าๆ แบบนี้มันใช่เรื่องเหรอ
“คนเค้าอุตส่าห์มาหามึงก็พูดจาดีๆ
หน่อยสิ”
ไทเปเดินเข้ามาหาผมก่อนจะขยี้หัวเล่นซึ่งมันเป็นปกติอยู่แล้วเวลาที่หมอนี่ต้องการจะระงับอารมณ์ขุ่นมัวของผม
“คุยกันไปนะกูไปนอนก่อนละกัน”
พูดจบก็เดินหายเข้าไปในของผมทั้งๆ ที่ห้องนอนของหมอนั่นคืออีกห้องหนึ่ง ส่วนผมก็ยืนมองหน้าคนที่ยืนจ้องผมตาเขม็งพร้อมๆ
กับสายตาที่มองไปทางไทเปอย่างสงสัยด้วย
“ไม่ยักจะรู้ว่านายสองคน…” ไม่พูดต่อแต่ผมก็เดาได้ว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่
“เรื่องของผม”
“ก็นะ…ว่าแต่พ่อเลี้ยงรู้หรือยังละว่านายพาคนอื่นเข้ามาอยู่ในห้องด้วยแบบนี้”
เค้ายิ้มให้กับผมท่าทางไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยด้วยซ้ำไปแถมน้ำเสียงเหมือนกำลังสะใจอะไรบางอย่างอยู่ด้วยสิครับ
ผมไม่ชอบผู้ชายคนนี้เอาซะเลย!!!
L
ตาแก่บ้าจะส่งมาตอกย้ำหรือยังไงกัน?
“มันไม่เกี่ยวกับเค้านี่”
เรายืนคุยกันอยู่อย่างนี้สายตาที่มองหากันก็ไม่ลดละให้กันสักนิดเดียว
“แน่ใจเหรอเด็กน้อย
ว่าแต่ฉันจะรายงานหมอนั่นว่ายังไงดีละเนี่ย”
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
ผมขึ้นเสียงทันทีเมื่อคำพูดประโยคเมื่อกี้จบลง
เค้ามาที่นี่ทำไมแล้วคำพูดพวกนั้นต้องการจะสื่ออะไรกับผมกันแน่
“ก็หมายความอย่างที่พูด…ถึงจะหนีมาแบบนี้แต่ก็อย่าลืมนะว่ายังอยู่ในฐานะลูกหนี้
บางทีคอนโดนี้อาจจะช่วยผ่อนผันดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ได้บ้าง”
คำพูดของคนตรงหน้าทำให้ผมอึ้งไปทันที
คิดจะส่งเค้ามาเพื่อบอกกับผมแค่นี้หรือยังไงกัน
“ได้ทุกอย่างไปหมดแล้ว…ยังจะต้องการอะไรอีก!”
ผมกำมือเข้าหากันจนแน่นรู้สึกเจ็บใจเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมาให้ได้แต่ก็พยายามฝืนทำใจแข็ง
จนบางครั้งกลับรู้สึกเกลียดแววตาของคนตรงหน้าที่มองผมอย่างดูถูกเหยียดหยามหรือบางครั้งก็เหมือนเค้ากำลังมองผมด้วยสายตาที่สนุกสนาน
“แย่จังที่คนตอบคำถามไม่ใช่ฉัน
รอพ่อเลี้ยงมาค่อยถามละกัน”
“…” ผมเถียงไม่ออกได้แต่ยืนกำมือแน่นมองหน้าเค้า
“อย่าคิดต่อต้านอีกเลยเดือนสิบสอง…เพราะมันไม่สำเร็จเลิกปากแข็งแล้วยอมรับความจริงสักที ฉันไปก่อนนะ…หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก”
J
ยิ้มงั้นเหรอ?
ทำไมรอยยิ้มนี้ผมถึงรู้สึกได้ว่ามันจริงใจมากกว่าจะเหยียดหยามหรือสื่ออะไรก็ตามละ…บางทีผมก็ไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เหมือนกันและยิ่งไม่อยากเข้าใจว่าเค้าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรทั้งๆ
ที่น่าจะดีใจที่ผมออกมาจากที่นั่นได้
ปัง!
เสียงประตูห้องถูกปิดลงพร้อมๆ
กับความเงียบของผม… พูดราวกับว่าเค้ากำลังจะมาที่นี่
“ใครคือพ่อเลี้ยง!!!”
ตึกๆ
ตักๆ
เสียงของไทเปทำให้หัวใจของผมเต้นแรงอีกครั้ง
จะว่าไปมันเต้นทุกครั้งที่คำพูดหรือคำถามมากมายกล่าวถึงใครคนนั้น
ผมเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่…ทำไมผมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย
“ตอบ!”
“อย่ามาขู่นะไทเป”
ผมหันขวับไปทางหมอนี่ไทเปเองก็ด้วยยืนมองหน้าผมแววตาแสดงถึงความโกรธจนผมชักจะหวั่นใจแล้วสิว่าทำไมหมอนี่ถึงต้องแสดงสีหน้าแบบนี้
“ผู้ชายคนนั้นใช่คนเดียวกับที่เป็นพ่อเด็กในท้องของมึงด้วยหรือเปล่าละเดือนสิบสอง!!!!!!”
ตึกๆๆ
ตักๆๆ
หัวใจผมมันเต้นแรงมากกว่าเดิมอีกครับ
มากกว่าตอนที่หมอนี่ถามว่าพ่อเลี้ยงคือใครซะอีก…ผมไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าไทเปด้วยซ้ำก่อนจะหลบสายตาแต่กลับกลั้นน้ำตาตัวเองเอาไว้ไม่ได้
L
“อะ…อึก ฮือๆ” สุดท้ายก็ร้องอีกแล้ว ผมยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองก่อนจะคุกเข่านั่งลงกับพื้นห้อง
ทุกอย่างสำหรับผมเหมือนจะเจอแต่ทางตันทั้งนั้นเลยครับ ทำไมเรื่องร้ายๆ
แบบนี้ถึงไม่หายไปจากผมสักที
มันไม่ได้เลวร้ายหรอก
แต่มันทำให้ผมรู้สึกเหนื่อย
“ไม่ตอบแถมยังร้องไห้…มึงรักเค้าแล้วใช่ไหมเดือนสิบสอง”
“อะ…อึก ไม่ใช่ ไม่ได้รัก”
“โกหกไม่เก่ง
เพราะมึงไม่เคยหลบสายตาเวลาพูดความจริง” ไทเปเดินตรงเข้ามาหาผมก่อนจะนั่งยองๆ
ลงตรงหน้า หมอนี่รั้งใบหน้าผมเอาไว้ก่อนจะปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
“นิสัยปากแข็งเลิกได้แล้ว”
“ฮือๆ
กูไม่ได้รักนะ” สุดท้ายผมก็ยังปากแข็งเหมือนเดิมเอาแต่พูดว่าไม่ได้รักแล้วก็ร้องไห้อยู่อย่างนี้
ไทเปเงียบไปสักพักเหมือนอยากให้ผมร้องไห้ให้พอก่อนจะช่วยพยุงผมกลับไปนั่งที่โซฟา
“เฮ้อ!
ทำไมมึงไม่บอกอะไรกูเลยนะ…ถึงยังไงเราสองคนก็เป็นญาติกันนะ”
“กูกลัว…”
“กลัวหรืออาย”
“ทำไมต้องอาย!” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับไทเป หมอนี่กลับยิ้มให้แล้วขยี้หัวผมไปมา
“เพราะมึงเป็นผู้ชายและคุณหนูอย่างมึงก็ไม่เคยยอมรับความจริงอะไรเลย
รู้ไหมว่าตัวมึงเองเปลี่ยนไปนะ…” ผมกระพริบตาถี่ๆ
มองหน้าไทเป
“…”
“มึงไม่เคยยอมใครหรือแม้แต่ยอมรับความจริงอะไรเลย…ไปอยู่ตรังมานานเท่าไหร่แล้วละ? แต่ที่แน่ๆ
กูอยากยกนิ้วให้ผู้ชายคนนั้นวะเพราะทำให้มึงเปลี่ยนไป ฮาๆ”
“ไอ้สัด!”
“แต่ปากดีนี่ไม่ยักจะเปลี่ยน”
“อยากตายเหรอ?”
“ฮาๆ
หายเครียดแล้วใช่ไหม? กูว่ามึงควรจะบอกเค้านะ…”
ไทเปยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาป้องกันฝ่ามือของผมที่ยื่นไปตรงหน้าหมอนี่เพื่อจะฟาดเข้าให้ข้อหาปากดีใส่
แต่คำพูดที่ออกมาคงเพราะอยากให้ผมหายเครียดและใจเย็นลงสินะ
“ไม่!”
“นิสัยนี้ก็ด้วย
เลิกใช้ไปซะ”
“เค้าเป็นของกู…”
“ถามหน่อยพร้อมจะเป็นแม่คนแล้วเหรอ
ถ้าพร้อมมึงก็ต้องหาพ่อให้ลูกด้วย” คำถามของไทเปเหมือนผมเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตและพยายามทำทุกอย่างเพื่ออยากเอาชนะโดยไม่สนใจอะไรเลย
“มึงอยู่คนเดียวไม่ได้หรอกนะและกูก็ดูแลมึงไม่ได้ตลอดเวลาด้วย”
“กูอยู่คนเดียวได้และมั่นใจด้วยว่าจะเลี้ยงเค้าได้”
“เฮ้อ!”
“ถอนหายใจทำไม”
“หนักใจแทนผัวมึง!!!!!”
“ไอ้สัด!
ไปไกลๆ เลย” ผมปาหมอนใบเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้มือใส่ไทเป
หมอนี่ยิ้มขำก่อนจะวิ่งออกไปส่วนผมก็นั่งมึนกับตัวเองอีกครั้งหลังจากที่เวลาผ่านไป…
ผมไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนแล้ว
แต่เวลากลับผ่านไปมากแล้วสิครับ…
ผมนั่งมองถุงยาที่ไทเปถือติดมือมาแล้ววางไว้ใกล้ๆ
ตอนที่กำลังปลอบผม
ยานี้หมอนนท์เป็นคนจัดการหามาให้แม้ผมจะไม่ยอมไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจแต่คนเป็นหมอก็น่าจะรู้ดีกว่าใครๆ
อยู่แล้วนี่…
“ฉันจะทำยังไง”
ก้มลงมองหน้าท้องของตัวเองก่อนจะลูบมันไปมา รู้สึกขัดๆ
ยังไงก็ไม่รู้สิครับแทนตัวเองว่าฉันเนี่ยนะ
“แม่งั้นเหรอ?
แปลกพิลึก งื้อ…”
ส่ายหัวตัวเองไปมาเพื่อเลิกคิดก่อนจะหยิบถุงยาขึ้นมาถือเอาไว้แล้วเดินเข้าห้องไป
พรุ่งนี้อาจจะดีกว่าเดิมก็ได้!!!
L
เช้า…
ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพราะเสียงดังเอะอะด้านนอกท่าทางไทเปจะพังครัวผมแล้วมั้งเนี่ย
หมอนี่เป็นคนที่รักสุขภาพมากๆ
เช้ามาต้องกินอาหารตรงต่อเวลาจนผมชักจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าตกลงมันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่
-_-!
ผมเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทำธุระส่วนตัวจนเสร็จก็ออกมาแต่งตัว…ผมเองก็ต้องกินข้าวเช้าเพราะต้องกินยาเหมือนกัน
ในเมื่อไทเปรู้แล้วผมก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรอีกเดินถือถุงยาออกไปด้วยเลยครับเสียเวลาเดินไปมา
“ไทเปมึงทำอะไรเยอะแยะเนี่ย”
แปลกใจนิดหน่อยหน้าอย่างมันเนี่ยนะทำอาหารที่น่ากินได้เยอะแยะแบบนี้
ไม่มีทางเพราะอย่างมากที่ทำได้ดีก็คือข้าวต้ม
“…” เงียบครับแถมยังยืนหันหลังให้ผมทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้
ว่าแต่ทำไมไทเปถึงตัวสูงขึ้นหรือผมคิดไปเอง
“นี่กูถามไม่ได้ยินเหรอ?”
“บอกกี่ครั้งแล้วเดือนสิบสองว่าห้ามพูดจาหยาบคาย!”
พรึบ!
ตุบ!
คำพูดที่เอ่ยออกมาไม่เท่าไหร่
แต่พอหันหน้ากลับมาเท่านั้นแหละครับถุงยาที่ผมถืออยู่ในมือก็หล่นลงไปบนพื้นทันที
ผมยืนอึ้งกระพริบตาถี่ๆ มองหน้าเค้าทันที…
มาได้ยังไง?
แล้วมาทำไมอีก…
“ออกไป!” ผมกดเสียงต่ำเรียกสติของตัวเองกลับมาอีกครั้ง
กลั้นสะอื้นที่จุกอยู่ในอกเอาไว้
“ไม่!”
“นี่!”
“อย่าลืมว่าฉันเป็นเจ้าหนี้
เป็นสามีแล้วก็เป็นพ่อของเด็กในท้อง…”
คนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าว่าก่อนจะค่อยๆ
เดินตรงมาหาผม
ร่างสูงหยุดยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะก้มลงไปหยิบถุงยาที่ผมทำตกไว้ขึ้นมาปลายนิ้วเรียวชี้มายังหน้าท้องของผม
ปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายบอกให้ผมรีบถอยหนีทันที
“เจ้าหนี้นะใช่!
แต่สามีกับพ่อของลูกไม่ใช่…”
“หึ!
คิดจะปิดบังฉันเหรอ
แต่ขอโทษทีนะครับเมียพอดีสามีฉลาดและเก่งพอจะสืบ”
“ไอ้คนเจ้าเล่ห์!
ถ้าไม่ออกไป…ผมไปเอง!”
ผมว่าก่อนจะสะบัดตัวหนีแต่กลับถูกคนตรงหน้ากระชากให้หันกลับไปมองก่อนที่มือหนาจะรั้งเอวของผมเอาไว้แล้วดึงเข้าไปหาตัวอีกจนใกล้กันนิดเดียว
“คิดจะหนีไปถึงเมื่อไหร่”
“แล้วต้องการอะไรกันแน่
ในเมื่อได้ไปหมดทุกอย่างแล้วนี่หรือต้องให้ตายกันไปข้างหนึ่งก่อนถึงจะยอมปล่อยไปสักที”
ผมเงยหน้าขึ้นไปจ้องหน้าเค้าสัมผัสได้ทันทีว่าดวงตาทั้งสองข้างของตัวเองมันแดงกร่ำไปซะหมดจนน้ำตาอยากจะไหลออกมา
“ตอนนี้อยากได้ทุกอย่างเลยแหละ”
“เกลียด…”
“แต่ฉันไม่คิดแบบนั่นนะสิ
ทำไมไม่ยอมฟังให้จบก่อน…ทำไมถึงไม่ยอมรอฉัน!”
“แล้วทำไมต้องรอ!!!” เราสองคนจ้องหน้ากันอยู่อย่างนี้
ผมมองหน้าเค้าแล้วร้องไห้ออกมาแต่สายตาเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้ากลับยิ้มหน้าบานอย่างมีความสุขที่ทำให้ผมร้องไห้
“ทำไมนะเหรอ
ก็เพราะฉัน…”
ก๊อก
ก๊อก!!!
____________________________________
#ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
นางคุณหนูของเจ้ซวยแว้ววววววววววววววว...
ขอบอกว่าเรื่องนี้ผู้ชายพร้อมที่จะโผล่มาเยอะมาก มันเป็นอะไรที่ดีเพราะพ่อเลี้ยงจะได้หึงบ่อยๆ
ครบ 100%
หุหุ...
มีให้ลุ้นได้ตลอดเวลา ไม่งั้นไม่สนุกกกกกกกกกกกกกก
เม้น เม้น เม้น
จุ๊บๆๆๆๆๆ
อยากอ่านเม้นต่อ ตอนนี้ที่รอคอยยยยยยยยยยยย ฮาๆๆๆๆๆๆๆ
อยากอ่านเม้นต่อ ตอนนี้ที่รอคอยยยยยยยยยยยย ฮาๆๆๆๆๆๆๆ
มาต่อเรวๆๆๆๆ
ตอบลบเอาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบผู้ชายที่สองของคุณหนู แอบชอบไทเปนะ อุอิ
ไอพ้อเลี้ยงรีบๆมาเถอะ เอาเมียแกไปเก็บได้ละะ
อ้าว!!! หนุ่มนิรนาม นามว่า 'ไทเป' เองเหรอ ที่แท้อดีตกิ๊ก เอ๊ย! ญาติคุณหนูนี่เอง
ตอบลบรอลุ้นต่อไปว่า หนุ่มคนต่อไปเป็นใคร อิ อิ
ไรต์ที่เลิฟ ... ขอบคุณค่ะที่อุตส่าห์ พยายามหาทางอัพให้อ่าน แบบพลีชีพ 555 ขอบคุณค๊าาาา
ค้างอะขอที่เหลือด่วนคะ
ตอบลบค้างอะขอที่เหลือด่วนคะ
ตอบลบมาต่อเรวๆน๊ค๊ จะรอออออ
ตอบลบสนุกค่ะ รีบอัพไวไวนะค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบค้างอ่ะมาอัพไวๆนะ
ตอบลบชอบจังค่ะมีเรื่องตื่นเต้นตลอด มาต่อไวๆๆนะค่ะ
ตอบลบค้างงงงงงงงงงง
ตอบลบอัพต่อ อัพต่อ อัพต่อ
ค้างมากกกกกกก รีบมาต่อเร็วเลยนะคะๆๆๆ #อยากให้ไทเปคู่กับเซย์จังเลยอ่า
ตอบลบค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ตอบลบจิงๆนะ
รีบมาต่อเบยค่ะคุนน้อง พีค้างค่ะ
ตอบลบหึหึหึ พ่อเลี้ยงจะหึง
ตอบลบตอนแรกนึกว่าพ่อเลี้ยงอยู่ในห้องซะอีก ถถถ
ค้างอ่ะ T^Tกลับมาอัะต่อไวๆนะคะไรทืเตอร์ PLEASEEE
ตอบลบค้างงงมากกกกค๊า
ตอบลบค้างอ่ามาต่อเร็วๆนะคะ
ตอบลบค้างสิคร่าาาาาาาา ต่อไห้เค้าหน่อยน๊า ไม่ค่อยได้เข้ามาคอมเม้นต์เร่ย ขอโทดด้วยนร่
ตอบลบแอ๊กกกกกก ค้างงงงงงงงงงงงง ค๊า >,.<
ตอบลบอ๊ากกก ค้างงงงง ทำไมไรท์ทำแบบนี้ฮือๆๆ เเล้วใครมาเคาะประตูหว่า ไทเปหรือจะเปนหมอนนท์ เดือบสิบสองนี้เสน่ห์เเรงจิงไรจิงเเถมปากเเข็งพอๆกะพ่อเลี้ยง -3-
ตอบลบีรีบๆอัพต่อน้าา รออยู่ค้า
ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง
ตอบลบค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง
ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง
ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง
ต่อออออออออออออออออออออออออออออออ / ลุ้นค่ะไรท์ๆ
ตอบลบพ่อเลี้ยงมาตามแล้ว
ตอบลบกิกิ
อยากเห็นพ่อเลี้ยงหึง อร้ายยยยยย คงจะฟินน่าดู คึคึ
ตอบลบหมอนนท์ใช่หรือเปล่า ใช่หรือเปล่า?
ตอบลบโอโย่โย๊ ~ แบบอาราเล่
ตอบลบค้างมาก อาราเล่บ่องตรง
ตัดตอนแบบนี้ก็ค้างอ่ะจิ มาต่อไวนะค่ะ ชอบๆ
ตอบลบคุณหมอมาแน่ๆ
ตอบลบใครมาขัดขวางเวลาสวีท???ของคู่นี้กันนะ5555
ตอบลบรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ;)
ชอบอ่ะมาต่อเร็วๆนะ
ตอบลบรีบกลับมาต่อ เลยนะครับ
ตอบลบค้างๆๆๆๆๆ มาอัพเร็วๆนะ พลีสๆๆๆ
ตอบลบตัดฉับ ค้างมากกกกกกกก
ตอบลบอัพต่อด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ใครมาเคาะประตู ขัอจังหวะจริง 555
ตอบลบไทเปไปไหนอ่ะ หรือว่าเป็นใจให้พ่อเลี้ยงเข้ามา อิอิ ใครมาเนี่ยขัดจังหวะจิงๆเลยนะ
ตอบลบใครมาขัดจังหวะอืกแล้วเน ่ย
ตอบลบอย่ามาขัดจังหวะในการฟินน่ะ!!~
ตอบลบมาตอนเร็วๆอยากอ่านนนนน.....นจะแย่ :(
#สู้ๆ (รีบๆปั่นน่ะ คิคิ)
โหย พ่อเลี้ยงรู้แล้ว มันส์แน่ๆ
ตอบลบไรท์!!!!! ตัดฉับเลยนะ อ้ากกกกกกกกกกกกกกก
ตอบลบใครเคาะประตู -,.-
ตอบลบขัดจังหวะเลย ♥
อ้ากกกกกกกก อยากอ่านต่อแล้วงือออออออออ
ตอบลบใครๆขัดจังหวะ เดี้ยะๆๆๆๆๆ
สู้ๆนะคะ
T^T T^T T^T
ตอบลบเพราะฉันอารายยยยยยยย งืออออ ใครมาตอนนนี้
ตอบลบค้างเลยอ่าาาาาาาา
ตอบลบก็เพราะฉัน... อะไรอ่ะ