luscious,
12
แกล้ง
จอมพล
พอเห็นหน้ากันก็ไล่ให้กลับแบบไม่ต้องคิดเลยครับ…
เฮ้อ!
ปล่อยไปก่อนผมขอเล่าเรื่องราวก่อนหน้านี้ดีกว่าครับ
เพราะก่อนที่ผมจะมายืนอยู่ตรงนี้ก็ส่งเซย์มาดูแล้วพอหมอนั่นกลับไปถึงบ้านก็เล่าสิ่งที่เห็นให้ผมฟังจนเห็นภาพซะ
ที่รู้ตอนแรกก็โกรธจนแทบอยากจะพุ่งไปที่คอนโดเดือนสิบสองทันที
แต่เสียใจผมไม่ได้ไปเพราะมีโทรศัพท์เข้ามาซะก่อน
!!!
“หืม!
นายจะบอกว่าเป็นเพื่อนของจาและก็เป็นญาติกับเดือนสิบสองงั้นเหรอ?”
ผมทวนคำพูดที่ได้ยินมาจากปลายสาย
“ครับ!
ผมชื่อไทเปถ้าคนที่คุณส่งมากลับไปรายงานแล้วนะครับ”
“งั้นนายก็อยู่กับเมียฉันที่คอนโด”
“ครับ!
แต่หายห่วงได้เพราะผมกับไอ้คุณหนูเป็นญาติกัน
แต่ผมมีเรื่องอยากจะถามหน่อย”
“ถาม!”
“คุณรู้หรือเปล่าว่าเดือนสิบสองท้อง!!!”
ตึกๆ
ตักๆ
ให้ตายสินี้มันเรื่องโกหกใช่ไหม?
เดือนสิบสองท้องงั้นเหรอ…ผู้ชายเนี่ยนะ!
แปลกใจแต่ลึกๆ
กลับรู้สึกดีใจไม่งั้นหัวใจผมคงไม่เต้นแรงขนาดนี้หรอกครับ
“…”
“ผมอยากให้คุณมาดูแลไอ้คุณหนูนี่หน่อย
จะดีหน่อยถ้าคุณจะพามันกลับไปดูแลและดัดนิสัยเสียๆ ให้ดีขึ้น”
“หึ!
ถึงไม่บอกฉันก็ตั้งจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำบอกเล่าที่ว่าเดือนสิบสองท้อง”
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ
ผมแค่สมเพชไอ้คุณหนูปากแข็งนี่นะครับ”
!!!
หลังจากที่วางสายไปผมก็ยิ้มจนแก้มปริเลยทีเดียวดีใจจนแทบจะกระโดดไอ้บ้านพังแนะครับ…
เดือนสิบสองท้อง!!!
…เช้ามาผมก็รีบไปที่คอนโดเดือนสิบสองทันทีที่เข้าห้องได้สะดวกเพราะมีคนเปิดทางให้
เราคุยกันเล็กน้อยพอเป็นพิธีหลังจากนั้นผมก็ได้อยู่กับเดือนสิบสองตามลำพัง
แต่เศร้าไปนิดที่ผมทำกับข้าวเสียงดังไปหน่อยเด็กดื้อก็เลยตื่นแต่ที่น่าจับมาตีก้นให้เข็ดก็เพราะคำพูดจาที่หยาบคายละมั้งครับ
พอเห็นหน้าผมแทนที่จะดีใจกลับไล่แถมยังพูดจาไม่น่าฟังอีก
ที่หนักไปกว่านั้นร้องไห้ด้วยครับ…ผมนับครั้งไม่ถ้วนแล้วด้วยซ้ำที่ทำให้เดือนสิบสองต้องร้องไห้
ไม่ได้ตั้งใจนะครับแต่เชื่อเถอะยอมแล้ว
ยอมจริงๆ
เคลียร์กันกำลังจะลงตัวเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นมาซะก่อน…
ขัดใจมาก!
“นัดใครไว้อีกละ?”
ผมเริ่มเปิดประเด็นแต่ก็ไม่ยอมปล่อยแขนทั้งสองข้างที่กอดเดือนสิบสองอยู่ออก
“เรื่องของ…”
“ถ้าตอบแบบไม่น่าฟังฉันจะจูบ!” ไม่พูดเปล่าผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะกดจูบเบาๆ
ที่ริมฝีปากหรืออีกนัยหนึ่งก็แค่แตะปากลงไปเท่านั้น
เดือนสิบสองอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะดิ้นในอ้อมแขนของผมสีหน้าโกรธมากๆ
แต่ทำไมหน้าแดงละครับ
>///////////////////<
“ปล่อยนะ
ไอ้คนฉวยโอกาส”
“กับเมียคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง”
ก๊อก
ก๊อก…
เรายังคงเถียงกันอยู่ในขณะที่เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะอยู่อย่างนั้น
ผมเองก็ไม่สนใจซะด้วยสิเพราะการได้ยั่วโมโหเดือนสิบสองในตอนนี้เป็นอะไรที่สนุกมากๆ
เลยทีเดียว
“บอกว่าไม่ใช่ยังไงละ?”
“ตรงไหนที่ไม่ใช่
มีอะไรก็ทำมาแล้วแถมทำจนท้องอีกด้วย…สงสัยน้ำฉันจะดีจริงๆ”
“ไอ้แก่บ้า!
>//////////////////<”
เขินครับ!
หน้าแดงกว่าเก่าแถมยังไม่ยอมสบตาผมเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่างหาก
ผมยิ้มขำกับท่าทางของเดือนสิบสองก่อนจะยอมปล่อยเด็กดื้อให้หลุดออกจากอ้อมกอดจนเจ้าตัวเกือบตั้งหลักไม่ทัน
“จะไปไหน”
“หืม!
ที่ถามนี่เพราะกลัวฉันไม่กลับมาอีกเหรอ…ไม่ต้องห่วงหรอกแค่จะไปเปิดประตู”
พอเห็นว่าเดือนสิบสองจะร้องเถียงผมก็พูดขัดขึ้นมาต่อ
“อย่าเปิดนะ”
ร่างเล็กวิ่งเข้ามาหาก่อนจะรั้งแขนผมเอาไว้
“ทำไม”
ผมถามอย่างสงสัยแต่เดือนสิบสองกลับหลบสายตาและรีบปล่อยมือออกไปจากแขนของผม การกระทำของเดือนสิบสองทำให้ผมยิ่งอยากจะเปิดประตูห้องมากขึ้นกว่าเดิมแล้วสิครับ
“ก็…”
“ก็อะไร?”
“ทำไมต้องขึ้นเสียงด้วยเล่า!
จะก็อะไรก็ช่างเถอะ…ผมว่าเรามาตกลงกันดีกว่าว่าคุณจะเอายังไงกันแน่”
เปลี่ยนเรื่องได้เร็วทันใจมากๆ
ผมถอนหายใจก่อนจะยอมแพ้แล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเดือนสิบสองเองก็เดือนมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเหมือนกัน
ส่วนเสียงเคาะประตูก็หายไปแล้วด้วยคงเพราะไม่มีใครไปเปิดให้ละมั้งถึงได้ยอมแพ้และเดินจากไป
“ฉันจะยอมคุยต่อเมื่อนายยอมกินข้าว”
“ไม่กิน!”
“อย่ามาดื้อ!
กินซะไม่งั้นก็ไม่ต้องคุยกัน”
“อย่ามาบังคับ!!!”
เถียงเสียงแข็งไม่ลดละความดื้อลงเลยสักนิดเดียวจนผมชักจะหนักใจแล้วสิครับ
นี่ถ้ายอมให้มากๆ มีหวังเดือนสิบสองได้ใจแน่นอน
-_-!
“ฉันไม่ได้บังคับ
แต่ลูกคงหิว”
เอาลูกมาอ้างซะงั้นก็แม่ของลูกดันดื้อใส่ซะนี่…เดือนสิบสองนิ่งไปชั่วขณะมองหน้าผมก่อนจะเม้มริมฝีปากเข้าหากันเหมือนกำลังทบทวนคำพูดของผม
“ฉันไม่ได้ทำให้นายกินแต่ตั้งใจทำให้ลูก”
คำพูดทำร้ายจิตใจเดือนสิบสองมากๆ
แต่เชื่อเถอะว่ายิ่งพูดแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เด็กดื้อต่อต้านและยอมกินอย่างว่าง่ายเพราะต้องการจะประชดผม
“ก็ได้!
ถ้าผมกินเสร็จคุณต้องสัญญาว่าจะยอมคุยจริงๆ ห้ามมีข้อแม้อีก”
“ตกลง”
น้ำเสียงเศร้าไปนะ
ก็บอกแล้วนี่ว่าที่ยอมกินเพราะต้องการประชดผม… ตอนนี้ปล่อยให้งอนไปก่อนเพราะเวลาง้อมีอีกเยอะ
อุตส่าห์ตามมาถึงที่นี่ก็เพื่อจะมาง้อนี่ครับ J
กินข้าวเสร็จผมก็บอกให้กินยาแต่อิดออดมากครับไม่ยอมกินง่ายๆ
ดูก็รู้ว่าไม่ชอบกินยาแน่นอนแต่เพราะเป็นผมที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
ถึงยอมกินเพื่อกลบเกลื่อน
ผมเพิ่งสังเกตว่าเดือนสิบสองดูมีน้ำมีนวลขึ้นแม้ว่าผิวจะคล้ำไปนิดหน่อยต่างจากตอนแรกที่เจอกันก็ตาม
ผมนั่งจ้องหน้าเดือนสิบสองอยู่สักพักจนมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีจึงเป็นคนเริ่มพูดก่อน
“ว่ามาสิอยากคุยอะไร?”
เดือนสิบสองเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมก่อนจะเสมองไปทางอื่น
ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่มันขัดใจผมจัง
“พ่อแม่ผมยังติดหนี้คุณอยู่เท่าไหร่?”
“หืม!!!”
ผมแทบจะอุทานออกมาทันทีหลังจากที่เดือนสิบสองถามขึ้น
ผมบอกให้เซย์มาจัดการแล้วหมอนี่มันจัดการยังไงหรือว่ามาโกหกเดือนสิบสองเอาไว้อีกเด็กดื้อถึงถามผมแบบนี้
หนี้สินอะไรผมยกให้ไปหมดแล้วแถมยังจะคืนทุกอย่างให้อีกด้วย
แต่อย่าถามว่าทำไมเพราะถึงยังไงผมก็ได้ลูกเค้ามาแล้วนี่
จะพูดให้ถูกก็เหมือนรับผิดชอบนั่นแหละครับ
เพราะมันเป็นเรื่องที่เดือนสิบสองเรียกร้องมาในตอนแรก…แม้ตอนนั้นจะทำไปเพราะอยากเอาชนะก็ตามแต่ตอนนี้ผมก็เต็มใจยกให้แล้วครับ J
“อยากรู้ไปทำไม?”
แถไปนั่นนะไอ้พ่อเลี้ยงเพราะตามจริงไม่มีอะไรเลย…
“ผมจะใช้หนี้แทนพ่อกับแม่เอง”
เป็นคำตอบที่น่าฟังมากๆ แต่อยากจะรู้จริงๆ ว่าจะใช้หนี้ยังไง
“แค่ตัวเองยังเอาไม่รอดคิดเหรอว่าจะหาเงินจำนวนมากมาใช้หนี้ได้
ฉันว่านายทำตัวเป็นเด็กดีว่าง่ายๆ
ยังจะดีกว่านะเพราะบางทีฉันอาจจะลดหนี้หรือไม่ก็ผ่อนผันกันได้”
ผมยกยิ้มที่มุมปากแสดงใบหน้าที่เจ้าเล่ห์ออกไป
โดนด่าไปซะขนาดนี้เชื่อเถอะว่าเดี๋ยวต้องวีนเหรือไม่ก็อาละวาดใส่ผมแน่นอน
“ผมรู้!
แต่ก็ยังดีกว่าเป็นหนี้คุณไปตลอด…บอกมาสิว่าจะให้เวลาเท่าไหร่?”
บ้าชะมัด!
เดือนสิบสองทำให้ผมอารมณ์เสียขึ้นมาเองจนได้สิ
ทำไมนิสัยเสียๆ แบบเดิมถึงได้หายไปนะ…ไม่อยากจะเชื่อ!
“เป็นหนี้ฉันมันลำบากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไม่ลำบากหรอกครับแค่ไม่อยากเห็นหน้าคุณก็เท่านั้นเอง!” ตอบได้หน้านิ่งมากและสามารถทำให้ผมเดือดเองไปเลยทีเดียว
“หึ!
เลี่ยงไม่ได้หรอกนะถ้าลูกของฉันยังอยู่ในท้องของนาย…เลิกพูดเรื่องหนี้สินกันได้แล้วเพราะวันนี้ฉันจะพานายไปตรวจที่โรงพยาบาล”
ฝ่ายที่ถูกปั่นหัวและหัวใจกลับเป็นผมจนต้องชวนเปลี่ยนเรื่องโดยทันที
ถ้าขืนคุยกันไปนานกว่านี้มีหวังผมต้องอาละวาดแทนเดือนสิบสองแน่นอนครับ
“ผมไปเองได้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ”
“ใครบอกฉันห่วงนาย
ฉันห่วงลูก!!!!”
“เข้าใจแล้วครับ
งั้นรอผมสักครู่ก็แล้วกัน” เดินหายเข้าไปในห้อง อะไรกันเนี่ยทำไมเดือนสิบสองถึงไม่อาละวาดหรือดื้อใส่ผมเหมือนก่อนหน้านี้ละครับ
“เข้าใจบ้าอะไรกันเล่า…โธ่โว้ย! ขัดใจจริงๆ เลยเด็กบ้า”
อาละวาดกับตัวเองซะงั้นก็เดือนสิบสองดันเปลี่ยนไปจนท่าทางมันขัดหูขัดตาผมเอามากๆ
เลยทีเดียว…ถ้าจะไม่ดื้อหรือแม้แต่อาละวาดละก็
มันไม่ใช่!
ยืนหัวเสียอยู่ได้สักพักร่างเล็กก็เดินออกมาพร้อมกับเสื้อตัวใหม่ที่กลับไปเปลี่ยนเพราะตอนแรกเป็นแขนสั้นแต่ตอนนี้กลายเป็นแขนยาวซะงั้น…ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมียคุณหนูของผมใส่เสื้อผ้าแพงๆ อีกตามเคย
ตลอดทางที่ลงลิฟต์มาด้วยกันไม่มีใครพูดอะไรสักคำมีแค่ความเงียบเท่านั้นเอง
เงียบให้ได้ตลอดละกัน…เดินมาถึงหน้าคอนโดผมก็บอกให้ยืนรอก่อนจะเดินไปขับรถมารับ
เงียบอีกแล้วครับเงียบจนผมชักจะสงสัยแล้วว่าที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนนี้ใช่เดือนสิบสองตัวจริงหรือเปล่า
โรงพยาบาล…
เมียท้องทั้งทีก็มีอยู่แผนกเดียวนี่แหละครับที่ต้องไปแม้ว่าจะเป็นผู้ชายก็ตาม
ผมเป็นฝ่ายเดินนำก่อนจะจับมือเดือนสิบสองให้เดินตามไป…จัดแจงทุกอย่างให้อย่างเรียบร้อยรอก็แต่หมอเรียกให้เข้าไปพบเท่านั้นเอง
วันนี้คนไม่เยอะแถมคิวก็ไม่ยาวเท่าไหร่รอสักพักเดือนสิบสองก็ถูกเรียกให้เข้าไปพบหมอผมก็เลยเดินตามเข้าไปด้วย
“หมอนนท์”
เดือนสิบสองเอ่ยเรียกผู้ชายตรงหน้าอย่างคุ้นเคยผมมองหน้าทั้งสองคนสลับกันไปมาก่อนจะเป็นฝ่ายบีบมือเล็กที่จับอยู่จนเดือนสิบสองได้สติแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ส่วนผมก็เดินตามไปนั่งข้างๆ
ด้วย
กล้าสลัดมือผมทิ้งเหรอ…รับรองเจอดี!!!
“เมียจ๋ารู้จักคุณหมอด้วยเหรอครับ”
กวนไปซะถือว่าหายกันแต่จะพูดให้ถูกผมหวงมากกว่า
ขนาดเมื่อก่อนเดือนสิบสองยังเคยสลัดคุณสร้อยฟ้าให้ออกไปห่างๆ
ผมเลยแล้วทำไมตอนนี้ผมจะทำบ้างไม่ได้…ไอ้คุณหมอก็มองหน้าผมยิ้มๆ
“ยอมมาตรวจจนได้นะครับ…ว่าแต่เมื่อเช้าผมไปที่ห้องคุณยังไม่ตื่นเหรอครับ”
คุยกันท่าทางสนุกเชียวทำเหมือนผมไม่มีตัวตนเลยครับ…
และอีกอย่างผมก็หายสงสัยทันทีว่าเสียงเคาะประตูเมื่อเช้าเกิดจากใคร?
ฮึย!!!
ครืด
ครืด
กำลังจะอ้าปากพูดแทรกกลางแต่ที่ไหนได้เสียงโทรศัพท์ของผมกลับดังขึ้นมาซะก่อน
เดือนสิบสองหันมามองหน้าผมเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปสนใจคุณหมอต่อผมเลยต้องเป็นฝ่ายลุกขึ้นและเดินออกมาจากห้องซะเองก่อนจะกดรับสาย
“ว่าไง?”
“หายไปเลยนะไอ้พ่อเลี้ยง
แล้วเรื่องหุ้น บริษัทและบ้านละ”
ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าใครก็ไอ้ตัวปัญหาที่ทำให้เดือนสิบสองทำหน้าซึนใส่ผมนี่แหละครับ
“สบายดี
พอดีกระผมพาเมียมาหาหมอครับ”
“ตอบได้เต็มปากเชียวนะครับคุณพ่อเลี้ยงจอมพล”
ถูกยั่วประสาทอีกแล้วครับแต่เพราะวันนี้อารมณ์ดีผมเลยไม่คิดอะไรมาก
“โอนทุกอย่างกลับไปเป็นชื่อเดือนสิบสองให้หมดเพราะเรื่องนี้ฉันตกลงกับคุณสินธุไปแล้ว”
“ตกลงตอนไหนของนายเนี่ย?”
“ก็ตอนที่นายไม่รู้
ว่าแต่ทำไมต้องไปโกหกเดือนสิบสองว่าพ่อเค้าติดหนี้ฉันทั้งๆ ที่มันไม่ใช่”
ได้ทีถามเลยครับเพราะช่วงนี้ผมยุ่งๆ
จะหาเวลาไปคุยกับหมอนี่ก็คงไม่ได้เพราะฉะนั้นก็ถามมันผ่านทางโทรศัพท์นี่แหละ
“ก็เด็กมันอยากปากแข็งก่อนทำไม
ท่าทางก็ขัดใจฉันพอๆ กับนายนั่นแหละ”
“ถ้าเดือนสิบสองรู้ความจริงแล้วโกรธฉันรับรองเราได้เห็นดีกันเซย์!” คาดโทษไว้ก่อนครับแต่อย่าหวังว่าหมอนี่จะกลัว ไม่มีทาง
“กล้าเหรออย่าลืมสิว่าฉันมีประโยชน์กับนายทุกด้าน”
“ครับๆ
ผมทราบแล้ว”
หยอกล้อกันไปมาอยู่สักพักผมก็วางสายก่อนจะเดินกลับมาแต่สายตากลับเหลือบไปเห็นเดือนสิบสองนั่งรออยู่ด้านนอกแล้ว
เร็วไปนะหรือว่าผมคุยโทรศัพท์นานไปกันแน่เนี่ย?
“ออกมานานแล้วเหรอ”
“ครับ”
หน้าตาซึนอีกแระคนแก่ป่วยจิตจริงๆ เลยทำไมถึงได้ว่าง่ายแบบนี้นะเนี่ย…ถ้าเป็นแบบนี้ไปนานๆ ผมคงต้องหาตัวช่วยแล้วละครับ
พากลับบ้านซะเลย
เงียบได้ก็เงียบไป!!!
“นี่ไม่ใช่ทางกลับคอนโดนี่”
นั่นไงนึกว่าจะเป็นใบ้ไปซะแล้ว
พอรู้ว่าผมไม่ได้พากลับคอนโดก็ถามขึ้นมาทันทีสีหน้าตกใจเชียวครับ
“แล้วใครบอกว่าฉันจะพากลับคอนโด”
“แล้วจะพาไปไหน?”
“กลับบ้าน!”
“ไม่ไป!” ตอบทันทีเลยนะครับเนี่ย
ผมหันไปมองหน้าเดือนสิบสองก่อนจะแสยะยิ้มแระส่ายหัวไปมา “ยิ้มอะไร?”
ไม่ตอบครับเพราะผมชอบเวลาที่เดือนสิบสองโกรธหรือทำนิสัยแบบเด็กๆ
ใส่มากกว่าหน้าตานิ่งไร้ความรู้สึกเหมือนก่อนหน้านี้
เดี๋ยวก็รู้ครับว่าที่ไหน?
คงคิดสินะว่าผมจะพากลับตรัง…
“…”
“ถ้าไม่ยอมจอดรถผมจะกระโดด”
“จะทำอะไรก็ห่วงลูกฉันบ้างอย่าใช้แต่อารมณ์”
เป็นห่วงแม่ของลูกแต่ดันเอาลูกมาอ้างแล้วพูดจาทำร้ายจิตใจแม่ของลูกซะเองแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกันล่ะพ่อเลี้ยงจอมพล
ปากไม่ได้แข็งครับแต่หมั่นไส้เด็กดื้อใจแข็ง
“หึ!
เด็กคนนี้ลูกของผมคนเดียว”
“แต่ถ้าไม่มีฉันก็ไม่ท้องหรอกนะ”
“อย่าได้ใจไปหน่อยเลยถึงไม่มีคุณผมก็ท้องได้ถ้าไปนอนกับคนอื่น”
เอี๊ยด!!
โอ๊ย!!!
ผมเบรกรถเข้าข้างทางอย่างกะทันหันจนหน้าผากของเดือนสิบสองกระแทรกเข้ากับหน้ารถโดยทันที
ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมมือเล็กจับที่หน้าผากตัวเองขยี้ไปมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บเอาไว้…ไม่ได้ตั้งใจแต่เพราะคำพูดเมื่อกี้มันทำให้ผมหึง
“คิดแบบนี้อยู่ตลอดเวลาสินะ”
“ใช่!
แล้วคุณจะมาแคร์ทำไมในเมื่อคุณเองก็ต้องการแค่ลูกอยู่แล้วนี่…ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็ลูก ลูกแล้วก็ลูกทั้งนั้น!”
โกรธ
น้อยใจหรืองอน บอกให้มั่นใจสักอย่างสิว่าสิ่งที่พยายามพูดเพื่อทำร้ายจิตใจกันมันได้ผล
“คลอดเมื่อไหร่ผมจะยกให้
คุณจะได้ไม่เอาลูกมาเป็นข้ออ้างอีก!!!!!!”
คำพูดประโยคยาวๆ
ก่อนหน้านี้อาจจะทำให้ผมรู้สึกดีแต่พอเจอประโยคถัดไปเท่านั้นแหละครับ โกรธเข้าไปใหญ่สุดท้ายที่ทำไปทั้งหมดย้อนกลับมาหาตัวผมเองทั้งนั้นเลยจะไปโทษเดือนสิบสองก็ไม่ได้ด้วยสิเพราะผมทำตัวเอง
“…”
ผมจ้องหน้าเดือนสิบสองอยู่สักพักขบกรามเข้าหากันแน่นเพื่อระงับอารมณ์ทุกอย่าง
ใจเย็นไว้จอมพล…เย็นใจ
ผ่อนลมหายใจเข้าปอดก่อนจะกระทืบคันเร่งรถขับออกไปทันทีถ้าเถียงต่อมีหวังผมได้เห็นน้ำตาเดือนสิบสองแน่นอน
เอี๊ยด!!!
ขับมาอย่างรวดเร็วและก็ถึงอย่างรวดเร็วด้วยเหมือนกันครับ…เมียไม่ดี นิสัยเสีย ปากเสีย ปากแข็ง ที่ด่าเมียไปนะผมเองทั้งนั้น!!!
“ลงไปได้แล้ว”
ผมหันไปตะคอกใส่ เดือนสิบสองจ้องหน้าผมอึ้งๆ สลับกับบ้านหลังตรงหน้า
“มะ…หมายความว่ายังไง”
“บอกให้ลงไปไงเล่า!!!”
เดือนสิบสองถึงกับสะดุ้งพอเจอคำพูดตะคอกที่ดังกว่าเดิมอีกครั้งหนึ่งของผมไป
เจ้าตัวถึงกับนิ่งอึ้งแต่ก็ยอมลงไปจากรถแต่โดยทีทันทีส่วนผมพอเดือนสิบสองลงไปแล้วก็รีบขับรถออกมาทันที
ผลพวงทั้งหมดจะโทษใครไม่ได้เพราะผมก่อเอง…
_________________________
ครบ 100% ^^
เค้าก็ว๊อนนนนนนน อยากอ่านเม้นๆ นะคะ
มีต่อแบบจะดีกันได้หรือยัง???
ฮาๆๆๆๆๆๆๆ เค้าทะเลาะกันอะ?
ท่าทางจะทำตัวอึนกันทั้งคู่ ปากแข็งน่าตบ หุหุ
#นางคุณหนูตอนหน้าเจ้ขอนิสัยเดิมกลับมานะ แบบนี้มันไม่สะใจ
ฮาๆๆๆๆๆๆๆ เค้าทะเลาะกันอะ?
ท่าทางจะทำตัวอึนกันทั้งคู่ ปากแข็งน่าตบ หุหุ
#นางคุณหนูตอนหน้าเจ้ขอนิสัยเดิมกลับมานะ แบบนี้มันไม่สะใจ
อัพต่อออออ........
ตอบลบเห็นสปอย์เเล้ว ตอนที่นางเอกบอกว่า"คลอดเมื่อไรผมจะยกให้จะได้ไม่ต้องเอาลูกมาเป็น
ตอบลบข้ออ้าง"อันนี้ถูกต้องนะ ถ้าเราเปนนางก้พูดแบบนี้ก้ดูสิพระเอกปากเเข๊งเเข็ง กว่าจะสารภาพได้
T^T หมอนนท์น่ารักกว่าตั้งเยอะ -3- รีบๆอัพต่อน้าา รออยู่ค้าา
มันค้างอ่ะขอบอก
ตอบลบทนหน่อยนะพ่อเลี้บง คนท้องอารมณ์แปรปรวน อิอิ
ตอบลบค้างๆๆๆๆ พ่อเลี้ยงน่ารักมากอ่า -/////- มาอัพต่อเร็วๆนะ
ตอบลบT0T ตอนต่อไปจะมีตบจูบไหมนิ ทำไมดูดุเดือด
ตอบลบเฮ้อออ คุรแม่ดื้อจิงๆ
ตอบลบค้างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบรีบอัพเบยยยยยยจร้า
ตอบลบเดือนสิบสองถึงตอนที่สิบสองแล้ววววรีบมาอัพให้จบตอนที่สิบสองน่าา
ตอบลบปูเสือรอเลย..
หัดพูดดีๆกันมั่งสิ
ตอบลบอัพพพพพพพพพพพพพพพพ
ตอบลบกลับมาต่ออร็วๆนะคิดถึงเดือนสิบสอง เป็นกำลังใจให้ใจ
ตอบลบฆ่ากันเถอะแบบนี้!!!! ค้างอ่าาา
ตอบลบฆ่าไห้ตายดีกว่าถ้าปล่อยไห้ค้างแบบนี้!!!!
ตอบลบพ่อเลี้ยงปากแข็งอ่า
ตอบลบเมื่อไรจะพูดกันด้ๆไม่ประชดเสียที เดือนสิบสองเข้าใจผิดไปนอกโลกแล้วนะ
เริ่มสงสารน้องคงคิดว่าพ่อเลี้ยงไม่รักตัวแน่เลย
รอน่ะค่ะ
ตอบลบใจจะขาดรอนๆ ลุ้นมากกกกเลยยติดตามๆ
สู้น่ะค่ะ
รอออออออ
ตอบลบป๋าจอมพล ก็นะ! ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจนู๋เดือนสิบสองซะจริง
ตอบลบบอกรักเขาหน่อยไม่ได้เหรอ? จะปากเเข็งไปไหนกัน
ไรท์อย่าทำร้ายโดยการไม่อัพเลยนะ
ตอบลบสนุกมาก ๆ เลยจ้า
ตอบลบเอาแรงกว่านี้ แบบใกล้ตายเลยอีก
ตอบลบสนุกมากๆ มาต่อเร็วๆน๊
ตอบลบพ่อเลี้ยงปากแข็ง โป๊กๆๆ ค้างง่าา
ตอบลบมาอัพไวๆน๊าาา สู้ๆค่ะ
ไรท์ ทำมัยชอบทำให้ค้างเรึ่อยเลย
ตอบลบทำไมต้องปากแข็งด้วยกันทั้งสองคน มันขัดใจมาก
ตอบลบมาอัพต่อไวๆนะค่ะ
สนุกอ่ะ มาต่อไวๆนะคะ
ตอบลบเมื่อไหร่จะเลิกปากแข็งแล้วเคลียกันจริงๆซะทีเนี่ย
ตอบลบรอ ร๊อ รอ
ตอบลบมาอัพพเร็วๆนะค่ะ
ตอบลบอ้าวเห้ย ทำไมพระเอกทำกะนางเอกแบบนี้อ่าา ทำงร้ได้ไง ปล่อยนางเอกทิ้งไว้นิสัยไม่ดี -3-
ตอบลบรีบๆอัพต่อน้าา รออยู่ค้าา
ซึนนนนนนนนนนนนนนน อ่ะ ทั้งคูเรยยยยย งือออออออออ
ตอบลบโอ้ยปากแข็งทั้งคู่ พ่อเลี้ยงก็ปากหนักละเกินนนน
ตอบลบมาต่อเร็วๆน้าาาาา
ตอบลบพ่อเลี้ยงงงงง ใจร้ายยยปากแข็งไเถอะขอให้นางไม่หายโกรธชิช่ะ หมอนนท์
ตอบลบ