วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บทส่งท้าย




บทส่งท้าย


            3 ปีต่อมา
เวลาผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว?
แต่ที่แน่ๆ ความสุขไม่เคยหายไปไหนเลยละครับ
ผมมีทุกอย่างครอบครัวและลูกๆ สองจอมแสบที่น่าตีก้นให้ลายทุกวันเพราะช่วงนี้พวกเด็กๆ ซนมากแถมอายุก็ปาเข้าไปสามขวบกันแล้ว คำพูดคำจาก็แจ๋วกันเชียวครับและที่สำคัญขี้อ้อนมากๆ จนพ่อเลี้ยงน้อยใจอยู่เรื่อยเลยว่าผมสนใจแต่ลูก อิอิ J
“แม่!” เสียงเล็กๆ ที่ฟังไม่ค่อยถนัดแต่ความหมายชัดเจนว่าลูกต้องเรียกแม่แน่นอนพร้อมกับร่างเล็กบอบบางที่กำลังเดินตรงมาหาผมท่าทางการเดินก็ไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่จนผมต้องนั่งยองๆ เพื่อรอรับ
“จอมขวัญ” สาวน้อยอีกคนของบ้านและเป็นหัวแก้วหัวแหวนคนสำคัญที่พ่อเลี้ยงหวงมากๆ เลยทีเดียวครับเพราะมีลูกสาวคนเดียวแต่ผมจะว่าไปสองคนซะมากกว่าเพราะเจ้าจอมยิ่งโตยิ่งสวยส่วนจอมทัพนะเหรอหล่อเข้มเหมือนพ่อไม่มีผิดนี่ขนาดเป็นแฝดกันนะครับแต่ดูท่าทางจะต่างกัน
“ฮาๆๆๆ แม่คร้าบ แม่ๆ แม่เดือนสิบสอง” มาแล้วครับเสียงของสองจอมแสบที่กำลังวิ่งเข้ามาหาผมส่วนจอมขวัญก็ยังเดินมาไม่ถึงจนผมกลัวว่าจะวิ่งชนน้องเข้านะสิ
“นี่สองจอมแสบระวังวิ่งชนน้องนะลูก” พ่อเลี้ยงตะโกนตามหลังลูกๆ มาก่อนจะรีบวิ่งตามมาคว้าเอวหิ้วปีกสองจอมแสบจนตัวลอยขึ้นมาเด็กๆ ก็เหมือนจะชอบใจกอดแขนพ่อเลี้ยงซะแน่น อีกเดี๋ยวพ่อเลี้ยงคงต้องอุ้มแล้วพาวิ่งวนรอบๆ แน่นอน
ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆ
“วิ่งฮะ วิ่งๆ” เจ้าจอมตะโกนออกมาก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ
“ใช่ๆ พ่อวิ่งสิครับ” นั่นไงผมทายไม่มีผิดจริงๆ ว่าพ่อเลี้ยงต้องเหนื่อยแน่นอนเลยครับ
“สงสารคนแก่บ้างนะลูก” ผมแทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียวพอพ่อเลี้ยงตอบสองจอมแสบออกไปแบบนี้ ก็แน่ละสิเพราะตาลุงอายุเยอะกว่าผมแต่หน้าตาไม่เห็นจะแก่แต่ถึงแก่ก็ยังมีคนจ้องจะตะคลุบเยอะเชียวครับ
“แม่อุ้มนะครับ” ผมยื่นมือไปหาจอมขวัญที่กำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ก่อนจะอ้มลูกขึ้นมาแล้วลุกยืนมองภาพของพ่อเลี้ยงที่กำลังคุยแต่ผมว่ากำลังตกลงกันอยู่มากกว่าครับ
“พาเด็กๆ ไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้านกันนะครับ” ผมเอ่ยปากพูดกับพ่อเลี้ยงก่อนจะอุ้มจอขวัญเดินออกมาก่อน
“พ่ออุ้มๆ แม่ยังอุ้มน้องเลย”
“ไม่สงสารพ่อเลยเหรอครับ”
“อุ้มๆ พ่ออุ้มเจ้าจอม ส่วนจอมทัพเดินเองสิ” ขนาดว่าเดินออกมาแล้วนะครับแต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงของสองจอมแสบอยู่ดี ท่าทางงานนี้พ่อเลี้ยงจะเจอศึกหนักแล้ว
“ไม่เอา!” จอมทัพก็ไม่ยอมส่วนเจ้าจอมนะเหรอ
“ฮือๆๆ จอมทัพไม่รักเค้าเหรอ? พ่ออุ้มเค้าจอมทัพเดินเองสิ” ฮาๆๆๆๆ ยกนิ้วครับลูกแม่ใช้น้ำตาเรียกคะแนนสงสารซะจริงๆ เลยและขอบอกว่ามันได้ผลดีเยี่ยมมากๆ เพราะจอมทัพหวงและห่วงเจ้าจอมสุดๆ รวมไปถึงแพ้น้ำตาของจอมดื้อด้วย
อยากเกิดมาหน้าตาเหมือนกันทำไม? เกี่ยวนะครับ
“อย่าร้องสิพี่ยอมแล้ว” ผมหยุดเดินก่อนจะหันกลับไปมองก็เห็นว่าเจ้าจอมร้องไห้งอแงจริงๆ นั่นแหละครับ ส่วนจอมทัพก็ขยับเข้าไปหาน้องก่อนจะค่อยๆ เกลี่ยน้ำตาให้ทำให้คนเป็นแม่อย่างผมดีใจมากๆ ที่ลูกๆ รักกันแบบนี้
“จอมทัพ เจ้าจอมมาหาพ่อสิลูก” พ่อเลี้ยงนั่งยองๆ ก่อนจะเรียกลูกให้เข้าไปหาส่วนผมก็อยากยืนมองภาพนี้จนไม่กล้าอุ้มจอมขวัญเดินออกไปเลยทีเดียวครับ
“ฮะ”
“จำไว้นะจอมทัพเราเป็นพี่ต่อไปต้องดูแลน้องๆ ส่วนเจ้าจอมเราเองก็เป็นพี่ของจอมขวัญและเป็นน้องของจอมทัพพ่ออยากให้ลูกๆ รักกันและช่วยเหลือกันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม สองจอมแสบสัญญากับพ่อได้ไหมว่าจะรักและดูแลซึ่งกันและกันแบบนี้ตลอดไป” คำสอนของพ่อเลี้ยงที่บอกกับสองจอมแสบออกไปผมเองก็รับรู้ได้ว่าลูกคงจะเข้าใจ ส่วนจอมขวัญคงต้องรอให้โตกว่านี้แล้วค่อยสอนใหม่จะดีกว่าครับ
“ครับจอมทัพสัญญาว่าจะดูแลน้องๆ ให้ดีที่สุด” หนักแน่นมากลูกแม่
“เจ้าจอมละครับ”
“เจ้าจอมสัญญาว่าจะดูแลน้องจอมขวัญและจะเชื่อฟังพี่จอมทัพครับแต่เกิดเป็นลูกแม่เดือนสิบสองต้องดื้อเหวี่ยงวีนและอ้อนเก่งเป็นลูกพ่อเลี้ยงต้องเข้มแข็งและอดทนใช่มั้ยฮะ”
อ๊ากกกกกกกก!
ลูกใครเนี่ยพูดเก่งแถมยังรู้จักใช้ตั้งแต่เด็กๆ เลยทีเดียว ไม่เสียแรงที่พูดให้ฟังทุกวันจำได้ซะละเอียดเชียว ฮาๆๆๆๆ อุ๊ยตาย! สายตาสามีที่มองมาดูแล้วหน้าดุจนผมต้องหุบยิ้มเลยทีเดียว
“เค้าไม่เกี่ยวสักหน่อยเจ้าจอมพูดเอง” ผมพูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะหันหลังให้แต่ก็ไม่ได้เดินลงไปด้านล่างเลยแต่ที่จริงผมแอบเสี้ยมลูกทุกวัน
“แต่ถ้าเราไม่สอนลูกจะพูดได้ยังไง”
“ใครบอกสอนแค่พูดให้ฟังเอง”
“หัดให้ลูกมีนิสัยแบบตัวเองตั้งแต่เด็กงั้นเหรอ” พ่อเลี้ยงอุ้มเจ้าจอมเดินเข้ามาหาผมส่วนมืออีกข้างก็จับฝ่ามือเล็กของจอมทัพเอาไว้ด้วย
“เปล่าหัดแต่เชื้อไม่ทิ้งแถว แล้วนิสัยแบบเค้ามันทำไมไม่ทราบไม่ชอบก็
“ใช่! ไม่ชอบ!!” ผมหันกลับมาจิกตาใส่พ่อเลี้ยงทันทีพร้อมทั้งแบนปากใส่เค้าด้วย ถึงลูกสามก็ไม่เลิกหรอกนิสัยงอนสามีแบบนี้นะ “เพราะพี่รักไปตั้งนานแล้ว”
โอ๊ย!!!! มุขเสี่ยวเหอะครับสามีชอบแกล้งอยู่เรื่อยเลย
“แต่ขอละกันให้เจ้าจอมได้นิสัยเดือนสิบสองมาสักครึ่งก็ยังดีเพราะพี่ขี้เกียจตามหวงลูก” พ่อเลี้ยงยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหาผมแล้วเดินลงไปด้านล่างพร้อมกัน
ตอนนี้สองจอมแสบก็กำลังวิ่งเล่นกันอยู่เลยครับท่าทางน่าสนุกเชียว ส่วนจอมขวัญก็อยากจะลงเดินเพราะเวลาที่ผมอุ้มก็เอาแต่ดิ้นไปมา
“ดูเด็กๆ จะสนุกเชียวครับ” ผมหันไปยิ้มกับพ่อเลี้ยงแล้วหันกลับมามองลูกๆ ที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกเชียว
“จอมทัพเค้าเจ็บ ฮือๆ” เสียงจอมดื้อดังขึ้นมาแล้วครับแถมยังเรียกความสนใจของผมอีกต่างหากเพราะเด็กดื้อลงไปนั่งกองกับพื้นร้องไห้งอแงออกมาด้วยทำเอาจอมทัพที่ยืนมองอยู่หน้าเหว่อไปเลยทีเดียว ส่วนจอมขวัญพอเห็นว่าพี่ๆ นั่งกันอยู่ก็เดินเข้าไปหาท่าทางไม่มั่นคงนักแต่ก็พยายามจนสามารถเดินไปถึงสองจอมแสบจนได้
“อย่างอแงสิครับเดี๋ยวจอมขวัญก็ร้องไห้ตามหรอก” จอมทัพกำลังปลอบเจ้าจอมอยู่ในขณะที่จอมขวัญก็ยืนมองว่าพวกพี่ๆ กำลังทำอะไรกันอยู่
“เจ็บ ฮือๆ”
“โอ๋เอ๋ๆ อย่าร้องนะครับ” จอมทัพส่ายมือไปมาแต่ดูเหมือนเจ้าจอมจะไม่ทนครับ ฮาๆๆๆ
“พ่อเลี้ยงไปดูลูกหน่อยสิครับ” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนข้างๆ ที่ยืนมองภาพนี้อยู่ด้วยกัน
“พี่อยากรู้ว่าจอมทัพจะทำยังไง”
“ตลอดเดี๋ยวลูกก็งอแงพร้อมกันหรอก”
“รอดูไปสิ” ผมละเชื่อพ่อเลี้ยงเลยครับ แต่ก็นะเพราะผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจอมทัพจะปราบเจ้าจอมอยู่หรือเปล่า
“นี่ๆ” เสียงของจอมขวัญดังขึ้นมาเหมือนอยากจะพูดมากกว่านี้แต่ได้แค่เรียกเท่านั้นก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าจอมเรื่อยๆ
“ยิ้มๆ ยิ้ม” จอมขวัญบอกกับเจ้าจอมก่อนที่ปลายนิ้วเล็กๆ จะยื่นไปตรงหน้าของจอมดื้อแล้วค่อยๆ ปาดน้ำตาให้อย่างทุลักทุเลเชียวครับ
“เห็นไหมครับขนาดน้องยังไม่งอแงเลย”
“เค้าเจ็บ” เจ้าจอมจ้องหน้าผมก่อนจะก้มลงไปมองฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเองดูท่าว่าจะวิ่งหกล้มแน่ๆ เลยครับ
“เพี้ยง! หายนะครับ”
“เพี้ยง!” พอเห็นว่าจอมทัพเป่าฝ่ามือให้กับเจ้าจอมจอมขวัญก็ก้มลงไปทำตามบ้าง ทำเอาผมน้ำตาร่วงเลยทีเดียวเมื่อเห็นว่าลูกๆ รักกันแบบนี้
“เพี้ยง!” พ่อเลี้ยงเอ่ยออกมาเป่ารดหัวผมเหมือนที่จอมทัพทำให้เจ้าจอมก่อนจะยื่นมือมาโอบไหลผมเอาไว้ “อย่างอแงสิครับ”
“บ้าเหรอ? มาพงมาเพี้ยงไม่ได้เจ็บสักหน่อยแค่ดีใจที่ลูกๆ รักกัน”
“ฮาๆ เห็นจอมทัพใช้ได้ผลก็อยากลองบ้างเผื่อเดือนสิบสองจะหยุดร้อง”
“จอมพล” ผมตีเข้าไปที่หน้าอกของพ่อเลี้ยงทีนึงก่อนจะผละตัวออกห่าง
“อะไรละครับ”
“ไม่รู้ไม่ชี้”
“ฮาๆๆๆ เดือนสิบสองตอนนี้ลูกก็โตแล้ว พี่ว่าเรา” ผมรู้ว่าพ่อเลี้ยงจะพูดอะไรก็เลยอยากจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจก่อนจะหันไปมองลูกๆ
“เจ้าจอมมาให้แม่ดูแผลให้นะครับ” และแน่นอนว่าทำเป็นสนใจลูกก่อนจะเดินเข้าไปหาทำเอาพ่อเลี้ยงเหว่อไปเลยครับ “เจ็บไหมครับ”
“เจ็บครับแต่หายแล้ว จอมทัพบอกว่าเป็นลูกพ่อเลี้ยงต้องอดทน” เจ้าจอมบอกกับผมก่อนจะปาดน้ำตาของตัวเอง “ไม่ร้องแล้วฮะ”
“เดือนสิบสองอย่าเปลี่ยนเรื่อง” พ่อเลี้ยงเดินตามหลังผมมาก่อนจะพูดเสียงดุๆ
“พ่ออย่าดุแม่สิครับ” จอมทัพเดินเข้าไปหาพ่อเลี้ยงก่อนจะเอ่ยออกมา ส่วนพ่อเลี้ยงก็นั่งยองๆ จ้องหน้าลูกแถมจอมขวัญยังเดินเข้าไปหาพ่อเลี้ยงอีกต่างหากดีอย่างที่เจ้าจอมอยู่กับผม
สองต่อสามเลยนะเนี่ย? ท่าทางงานนี้จอมขวัญจะได้เลือดพ่อ
“นี่จอมทัพพ่อจะขอแม่เค้าแต่งงานแต่แม่เค้าไม่ยอม ว่าแต่อยากได้แม่ใหม่มั้ยเพราะพ่อขี้เกียจรอแล้ว”
เฮ้ย!
กล้าพูดนะครับว่าจะหาแม่ใหม่ให้ลูกๆ
“เจ้าจอมละ ลูกอยากได้พ่อใหม่ไหมครับ” ใครจะไปยอมงานนี้ต้องประชดกลับ ส่วนจอมขวัญก็ได้แต่ยืนมองเพราะฟังไม่ทัน
“งั้นไปหาใหม่กันดีกว่าจอมทัพ”
“ไปเถอะเจ้าจอม”

ฮืออออออออออออ!
อ้าวกรรม! อยู่ๆ สองจอมแสบก็ร้องไห้ออกมาซะงั้น รวมไปถึงจอมขวัญด้วยครับคงเห็นพวกพี่ๆ ร้องไห้กันเลยอยากร้องตามถือว่าสามัคคีกันดีมากเลยทีเดียวครับลูกๆ
“เห็นมั้ยลูกร้องเลย” ผมเงยหน้าไปสบตากับพ่อเลี้ยง
“ใครเริ่มก่อน อยากหนีทำไม”
“ก็แค่อยากแกล้งมันผิดเหรอ”
“ผิดสิก็ลูกร้องแล้วเนี่ย”
“ฮือๆ พ่อเลี้ยงบ้า อะอึก” สุดท้ายเป็นไงผมร้องไห้ตามซะเลย ทำเอาพ่อเลี้ยงเหว่อไปสิครับแถมลูกๆ ก็ยังร้องไห้กันใหญ่เลย
“ฮือๆๆๆๆ”
“โอ๊ย! กรรมทั้งเมียทั้งลูกหรือจะลูกทั้งสี่คนดี” พ่อเลี้ยงอุทานออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาหาผม
“พ่อยอมแล้วครับ เด็กๆ เลิกร้องไห้นะ ส่วนเดือนสิบสองด้วยพี่ขอโทษ”
“อะอึก ทำไมพ่อเลี้ยงต้องขอโทษก่อนเสมอ”
“ก็เพราะพี่ยอม ไม่ว่าพี่จะผิดหรือถูกและไม่ว่าเดือนสิบสองจะผิดมากแค่ไหนพี่ก็จะเป็นฝ่ายยอมแล้วพูดว่าขอโทษ”
“แบบนี้เดือนสิบสองก็งี่เง่าสิ”
“ก็มีเมียเด็กนี่ต้องทำใจ” พ่อเลี้ยงขยี้หัวผมก่อนจะเกลี่ยน้ำตาให้พร้อมทั้งก้มลงมาจูบที่เปลือกตาทั้งสองข้างของผม
“หอมบ้างๆ” เสียงลูกๆ ดังขึ้นมาบ้างแล้วครับ
“ครับๆ หอม”
เป็นไงได้ถ้วยรางวัลมั้ยครับ? ฮาๆ ก็พ่อเลี้ยงยอมอยู่เสมอนี่ผมก็เลยต้องใช้มุขนี้บ้าง น้ำตาสยบทุกอย่างเพราะจอมทัพกับพ่อเลี้ยงแพ้น้ำตา
“แม่แต่ง แต่ง” เจ้าจอมเดินเข้ามาหาผมเขย่าแขนไปมาก่อนจะบอกให้ผมแต่งถ้าทำความเข้าใจให้ดีๆ เจ้าจอมคงบอกให้ผมแต่งงานกับพ่อเลี้ยง
“แต่งนะครับแม่” จอมทัพก็เดินมาบอกผมอีกคน
“จอมขวัญว่าไงครับ” ผมเอ่ยถามลูกทันทีเพราะรู้แน่นอนว่าจอมขวัญต้องไม่เข้าใจแถมพ่อเลี้ยงจอมทัพและเจ้าจอมก็รอลุ้นกันเลยว่าจอมขวัญจะพูดยังไง
“แต่งค่ะ”
ห๊ะ! อะไรเนี่ย? พูดชัดเจนเลยทีเดียวทำเอาผมงง แต่ที่แน่ๆ สามพ่อลูกกระโดดดีใจกันเชียวครับ

“ครับแต่งก็แต่ง”


จอมพล
ถึงเดือนสิบสองจะยอมตกลงแต่งงานกับผมก็จริงแต่ก็ไม่ได้แต่งในเร็ววันซะหน่อยเพราะต้องรอให้ทุกอย่างพร้อมและลงตัวกว่านี้ ที่สำคัญต้องรอผู้ใหญ่ใจดีอีกสองท่านนั่นก็คือพ่อกับแม่ของเดือนสิบสองที่ไปเที่ยวต่างประเทศกัน พอเดือนสิบสองตอบตกลงผมก็รีบโทรไปบอกพวกท่านทันทีเลยครับแต่ติดอยู่ที่ว่าพวกท่านยังสนุกกับการเที่ยวอยู่ผมก็เลยต้องรอครับ
แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะผมจะได้เคลียร์งานและเคลียร์สถานที่ด้วย
เฮ้อ! แต่วันนี้และวินาทีนี้มันไม่ดีเลยครับเพราะผมกำลังถูกเมียปฏิวัติอยู่เนื่องจากหล่อจนเป็นเหตุให้เมียต้องหึง เกี่ยวนะครับ (-_-)
“ต่อไปนี้พ่อเลี้ยงจะต้องทำตามกฎของเมีย 3 ข้อห้ามขัดแต่ถ้าเมียจะเพิ่มโดยไม่ได้บอกกล่าวก็ย่อมได้” ผมกลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ทันเมื่อเดือนสิบสองพูดออกมาแบบนี้ ให้ตายสิแค่คิดว่าจะขัดยังทำไม่ได้เลยครับ
“ครับ” กลายเป็นหมาเชื่องๆ ไปเลยทีเดียวไอ้พ่อเลี้ยง (-_-‘)
“ข้อแรก เมียคือเมีย!!!” ข้อนี้ไม่น่าจะมีปัญหาสักเท่าไหร่เพราะผมรู้ว่าเมียคือเมีย
“ครับ” ยิ้มกริ่มเพราะข้อนี้ไม่น่าเป็นผลอะไรกับผมมากนัก เดือนสิบสองเองก็ยิ้มก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินไปที่ระเบียงด้านหน้าส่วนผมก็เดินตามไปติดๆ ส่วนพวกเด็กๆ นะเหรอหลับกันทั้งสามจอมแสบเลยละครับ
“ข้อสอง ห้ามขัดใจเมียไม่ว่าเมียจะทำอะไรผิดก็ตาม!!!” สะอึกไปสิครับกับข้อสองท่าทางจะไม่ใช่หมูๆ แล้วสิ ขัดใจเมียมันก็ต้องมีบ้างแต่ขัดใจเมียอย่างเดือนสิบสองท่าทางต้องคิดหนักครับ
“คะครับ” เสียงตอบกลับไม่ค่อยจะออก เดือนสิบสองหันกลับมามองหน้าผมก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“ข้อสุดท้าย ต้องรักเมียแค่คนเดียวห้ามคิดนอกใจเมียไม่งั้นตาย!!!
หมับ!
จุกไปสิก็มือของเดือนสิบสองกลับจับเข้าให้ที่เป้าของผมอย่างจังแค่นี้ก็ไม่กล้าแล้วละครับแค่คิดยังสยองเลย
“ครับเมีย! แล้วกฎของสามีละครับ” ถามออกมาเสียงแผ่วน้ำตาแทบไหลเพราะจุก
“หึ! คุณสามีก็ลองกลับไปทวนข้อแรกสิครับ”
“เมียคือเมีย” ผมทวนคำตอบสายตาแทบอยากร้องไห้เพราะกฎของเมีย
“แล้วถ้าเมียนอกใจ คือสมมุติครับ” พอเจอสายตาพิฆาตของเดือนสิบสองเข้าหน่อยผมก็หง่อยพูดแก้ต่างทันที
“กฎข้อสองว่ายังไงครับสามี”
“ห้ามขัดใจเมียไม่ว่าเมียจะทำอะไรผิดก็ตาม TwT” น้ำตาไหลในอกจุกไปทุกส่วนของร่างกายแล้วละครับ
“แล้ว
“ถ้ายังสงสัยอีกก็นึกถึงข้อสุดท้าย แล้วย้อนกลับไปข้อแรกกับข้อสองใหม่ทำได้ไหมครับสามีของเดือนสิบสอง” มือเล็กทั้งสองข้างหยิกแก้มของผมก่อนจะส่ายไปมาอย่างมีความสุข
จำไว้พ่อเลี้ยงแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข เมียคือเมียแค่ข้อนี้ก็เกินพอแล้วมั้งครับ ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นปัญหาแต่ตอนนี้มันคือปัญหาระดับชาติสำหรับผู้ชายที่กลัวเมียอย่างผมเลยทีเดียว
ไม่ครับ ไม่ใช่กลัวเมียต้องพูดใหม่เผื่อตัวเองจะดูดีคือรักเมียถึงได้ยอมเมียจบนะครับ!!!

รอวันที่สามีอย่างพ่อเลี้ยงจอมพลเป็นใหญ่บ้างนะไม่มีทาง!!


จบปิ้ง!!!


ครบแล้วนะคะ บทส่งท้าย
นิดเดียวแต่ให้รอกันเนอะๆ นิสัยไม่ดีเลยแป้ง ฮาาาาาาาาาา
รอดูก่อนว่าจะเพิ่มให้อีกมั้ย?
แต่ตอนนี้ขอไปแก้เนื้อหาก่อนๆ กับแต่งตอนพิเศษก่อนนะคะ ^^

หายตัวยาววววววววววววววว

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

luscious, 31




luscious, 31
รวมพล ณ ไร่จอมพล

เดือนสิบสอง
หลังจากที่เมื่อวานหนีไอ้จากับสามีมันไปเดินเล่นพอกลับเข้าบ้านก็ถูกมันวีนใส่ซะยกใหญ่แถมยังบ่นอีกว่าสองจอมแสบเลี้ยงยากมากๆ เอาแต่งอแงแถมยังดื้อร้ายสุดๆ ไม่ต่างไปจากแม่(ข้อนี้มันแอบด่าผมซึ้งๆ หน้าเลยทีเดียวครับ) แถมประเด็นหลักๆ ที่ทำให้ไอ้จาวีนก็เพราะจอมทัพทั้งฉี่และก็อึใส่มันไปหลายรอบเลยทีเดียว ส่วนเจ้าจอมนะเหรอท่าทางแสบเล็กจะชอบคนหล่ออย่างคุณอาวุธครับเพราะนิ่งตลอดแถมไม่งอแงเหมือนจอมทัพเลยทีเดียว(อันนี้แอบขำไอ้จามันครับเพราะหลานทำแสบ)
แต่พอตื่นเช้ามามันก็ยังมาช่วยผมเลี้ยงอยู่ดีจะเพราะอะไรซะอีกละครับถ้าไม่ใช่เพราะมันเห่อหลานถึงปากจะบ่นแต่มือนี่ไม่วางจากขวดนมสองจอมแสบเลยทีเดียว แถมยังช่วยเช็ดตัวและเปลี่ยนผ้าอ้อมอยู่ตลอดเวลาที่ฉี่อีกต่างหาก
“ไอ้จาทำอะไรลูกกูเนี่ย” ผมตะโกนใส่มันทันทีเผลอไม่ได้พอหันหลังไอ้จาเป็นอันต้องจับขวดนมจุกปากจอมทัพทันที

“กินนม”

“เดี๋ยวลูกกูก็เป็นช้างกันพอดี พอแล้วเดี๋ยวท้องแตก”

“ไอ้บ้า! ก็จอมทัพมันร้อง”
แอ้ๆๆๆ
“นั่นไงพูดขาดคำซะเมื่อไหร่ สงสัยจะหิว” ไอ้จาว่าแล้วหันกลับไปมองหน้าจอมทัพพร้อมกับขวดนมที่ถืออยู่ในมือที่กำลังจะจุกปากจอมทัพต่อ

“ไอ้บ้าพอเลย ไม่ดูเหรอว่าจอมทัพฉี่อีกแล้ว” ผมว่าชี้ไปที่ผ้าอ้อมที่ดูก็รู้ว่ามันเปียกและที่จอมทัพร้องไห้งอแงคงเพราะไม่ชอบอะไรชื้นๆ แน่นอน

“อ้าวกรรม! เออๆ กูไม่ทันได้ดูก็ลูกมึงฉี่และอึตลอดเวลาที่กินเสร็จนี่”

“เหรอครับ ใครใช้ให้มึงเสือกป้อนทั้งนมและน้ำตลอดเวลาละ”

“เด็กมันร้อง”

“เด็กมันร้องหรือมึงไม่มีอะไรทำจนอยากแกล้งลูกกู”

“ลูกมึงนั่นแหละแกล้งกูก่อน” มีเถียงครับจนผมไม่รู้จะพูดอะไรดีแล้วเพราะไอ้จาถ้าดื้อแล้วไม่ยอมใครพอๆ กับผมนั่นแหละครับ

“ไอ้นี่แค้นแม้กระทั่งเด็ก รีบเปลี่ยนเลยเพราะเดี๋ยวกูจะพาสองจอมแสบไปหาหมออีก”

“อ้าววันนี้หมอนัดเหรอ?”

“อืม! ตรวจสุขภาพกับฉีควัคซีนนะ” ผมว่าแล้วเตรียมของสำหรับเด็กๆ ต่อ ส่วนไอ้จานะเหรอบ่นไปเปลี่ยนผ้าอ้อมให้จอมทัพไป ส่วนเจ้าจอมก็หลับสบายเชียวลูกอย่าติดนิสัยขี้เกียจแบบแม่มาสิ

“ไปไม่ได้!!!” อย่าถามว่าเสียงนี้ดังแค่ไหนแต่ที่แน่ๆ ผมกำลังไม่พอใจเพราะเมื่อคืนผมก็คุยกับเค้าไปแล้ว แต่พอเช้ามาพ่อเลี้ยงกลับบอกว่าไปไม่ได้
“อะไรจะสำคัญกว่าลูก”

“เดือนสิบสอง”

“หรือผมพูดผิด”

“อาละวาดอีกแล้วนะ” พ่อเลี้ยงพยายามพูดให้ผมใจเย็นลงแต่วินาทีนี้เย็นไม่ลงแล้วครับเพราะอารมณ์กำลังเดือดสุดๆ ไปเลย

“จะทำไม ก็เป็นอยู่แบบนี้! ตอบมาสิ” ผมกับพ่อเลี้ยงยืนเถียงกันอยู่ในห้องส่วนสองจอมแสบก็ถูกไอ้จากับสามีมันอุ้มออกไปด้านนอกเรียบร้อยแล้ว

“มีงานด่วนเข้ามา ไม่มีอะไรสำคัญกว่าลูกกับเมียหรอกครับแต่เพราะสิ่งๆ นี้ก็สำคัญไม่ต่างกัน” พ่อเลี้ยงตอบผมด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็นสุดๆ ต่างจากผมที่อารมณ์เดือดสุดๆ ไปเลยทีเดียวครับ


“อย่างอแงได้ไหม? เดี๋ยวให้จากับอาวุธพาไป”


“เดือนสิบสอง”

“ผมเลือกได้เหรอครับ” ผมตอบออกไปก่อนจะหันหลังให้พ่อเลี้ยงแล้วเดินออกจากห้อง เลือกไม่ได้ก็ต้องทำตามที่เค้าบอกนั่นแหละทั้งๆ ที่ใจจริงอยากจะให้พ่อเลี้ยงไปด้วยแต่ในเมื่อไปไม่ได้ก็คงต้องไปกับไอ้จาและสามีมันแทน
L


บนรถ
ตลอดทางที่ออกมาจากบ้านผมก็เอาแต่เงียบโดยที่บนตักมีเจ้าจอมนอนหลับอยู่ส่วนจอมทัพไอ้จามันเป็นคนอุ้มเพราะแสบใหญ่ไม่ยอมหลับเอาแต่ร้องแอ้ๆ เหมือนอยากจะพูดอยู่ตลอดเวลา(เจ้าจอมนี่ขี้เกียจได้แม่จริงๆเลยครับ)
“นี่เดือนสิบสองไม่พาปากมาเหรอเพื่อน” เสียงไอ้จาร้องทักผมพร้อมกับเสนอหน้ามามอง

“เออ”

“แป๋ว! งอนพ่อกูอะดิ”

“จา!!!” เสียงคุณอาวุธดังขึ้นมาทันทีที่ไอ้จามันพูดคำหยาบ ลืมไปว่าสามีมันกับผมก็นิสัยเหมือนกันคือไม่ชอบให้พูดจาหยาบคายแต่หารู้ไหมว่าลับหลังผมกับมันก็คุยกันเป็นปกติแบบเมื่อก่อนนั่นแหละ

“นิดหน่อยเองขับรถไปเหอะ” เห็นไอ้จากับสามีมันหยอกล้อกันละปวดจิต คอยดูนะกลับบ้านไปจะไม่พูดด้วยเลยและจะปล่อยให้เลี้ยงลูกคนเดียวด้วย
อีตาพ่อเลี้ยงบ้า!!!
L
ผมปล่อยให้ทุกอย่างเงียบไปโดยปริยายเมื่อไม่พูดตอบไอ้จาออกไปเหมือนมันจะรู้ว่าผมอยู่ในอารมณ์ไหนถึงได้ไม่ถามหรือพูดอะไรต่อ ตลอดทางผมก็เงียบมากๆ สักพักรถที่นั่งกันมาก็แล่นเข้ามาจอดที่โรงพยาบาลผมกับไอ้จาก็ลงจากรถพร้อมทั้งอุ้มสองจอมแสบเข้าไปด้านในส่วนคุณอาวุธก็เอารถไปจอด
ตลอดทางที่เดินเข้าไปก็มีคนมองและทักทายตามประสาคนรู้จัก แต่ไม่ได้ทักผมหรอกทักไอ้จาซะมากกว่าเพราะผมไม่รู้จักพวกเค้านี่ถ้าพ่อเลี้ยงมาด้วยมีหวังถูกทักตลอดทาง

“เด็กๆ แข็งแรงทั้งคู่นะครับ” เสียงของคุณหมอเอ่ยออกมาหลังจากที่ผมพาพวกเด็กๆ มาตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน “แล้วนี่พ่อเลี้ยงไม่มาด้วยเหรอครับ”

“ไม่ครับ” ผมตอบเบาๆ ก่อนจะอุ้มเจ้าจอมขึ้นมาส่วนไอ้จาก็เดินไปอุ้มจอมทัพ “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกลับก่อนนะครับ”

“ครับ เดือนหน้าก็มาตามที่หมอนัดนะครับ”

“ครับ”

“เฮ้ย! เดือนสิบสองพาวิญญาณมาด้วยปะเนี่ย” ไอ้จาอุ้มจอมทัพเดินตามหลังผมมาพร้อมกับเสียงตะโกนที่ดังสนั่นเชียว
แอ้ๆๆ
นั่นไงเจ้าจอมงอแงใส่ผมเฉยเลย
“ขนาดลูกมึงยังร้องประท้วง”

“พอเลยมึงเดี๋ยวจอมทัพก็ร้องอีกคนหรอก”

“ก็มึงเงียบ กูเหงาปาก”

“เหรอ? ไอ้ตอแหล”

“อ้าวไอ้นี่! แต่ก็ดีแล้วที่มึงพูดบ้างไม่ใช่เอาแต่เงียบจนกูสยอง” ไอ้จาเดินเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ผม ไอ้นี่ก็แปลกคน! ทำยังกับไม่เคยเห็นผมเงียบแต่จะว่าไปวันนี้ผมเงียบจริงๆ นั่นแหละครับ จะเพราะอะไรซะอีกละถ้าไม่ใช่เพราะว่ากำลังน้อยใจพ่อเลี้ยงอยู่

“เสร็จกันแล้วเหรอ” เสียงคุณอาวุธดังขึ้นมา

“ใช่! ไปหาที่จอดรถนานไปนะหรือไปแอบคุยกับใครมา”

“อย่าอาละวาดสินี่มันโรงพยาบาลนะ”

“ก็อยากช้าทำไม?” ไอ้จาบอกกับสามีมันครับแต่น้ำเสียงชัดเจนเลยว่าแอบงอนแต่กำลังหาเรื่อง
เห็นสองคนนี้รักกันแล้วผมอิจฉา!!!

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วทำไมผมถึงรู้สึกใจไม่ดีแบบนี้ ผมไม่ชอบเลยเวลาที่ต้องผิดใจกับพ่อเลี้ยงผมรู้ว่าเค้าไม่คิดอะไรเป็นผมเองซะมากกว่าที่เอาแต่งอแงและใช้นิสัยแบบเด็กๆ แต่เค้ากลับไม่เคยโกรธมีแต่ยอมและง้อตลอดจนบางครั้งผมก็ละอายใจแต่จะทำยังไงได้ในเมื่อนิสัยมันเป็นแบบนี้นี่ครับ
“เดือนสิบสอง นี่! ตื่นสิ”
อื้อ
ผมครางออกมาก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตา นี่ผมหลับไปงั้นเหรอ? แล้วหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันละ
“ถึงบ้านแล้ว” ไอ้จาบอกกับผมก่อนจะลงจากรถไปเท่าที่สังเกตก็เหลือแต่ผมคนเดียวนี่แหละครับที่ยังไม่ได้ลงไปจากรถก็มัวแต่นอนหลับอยู่

“ลูกกูละ”

“อาวุธกับพี่แหวนอุ้มไปแล้ว” ไอ้จามองหน้าผมยิ้มๆ “รีบไปกัน” ก่อนจะหันมารั้งข้อมือของผมให้เดินตามมันไป บรรยากาศวันนี้มันดูหนาวๆ ยังไงก็ไม่รู้สิครับแถมท้องฟ้าก็เริ่มจะเปลี่ยนสีแล้วด้วย

“กูหลับไปได้ยังไง”

“มึงคงง่วง อย่าถามมากเลยรีบไปกันเถอะ”

“เดี๋ยว! ไปไหน” ผมไม่ยอมเดินตามไอ้จาได้แต่หยุดนิ่งอยู่กับที่แล้วรั้งมันเอาไว้แทน ไอ้จามองหน้าผมขัดๆ เหมือนคนไม่สบอารมณ์ก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ

“ถามมากจัง! เดินตามมาเดี๋ยวก็รู้”

“คนเยอะ!” ผมอุทานออกมาหลังจากที่ไอ้จาพูดจบแต่จะว่าไปก็เป็นพวกคนงานของพ่อเลี้ยงทั้งนั้น

“มึงเพี้ยนปะเนี่ยก็คนงานพ่อกูทั้งนั้น”

“แต่งตัวดูดีกันจัง วันนี้พ่อเลี้ยงให้เลิกงานเร็วเหรอ”

“นี่อีคุณหนูถ้ามึงจะถามเยอะขนาดนี้นะกูว่ารีบเดินตามมาเลยจะดีกว่าจะได้เลิกสงสัยสักที! กูลุ้นนะ!!!

“ลุ้นอะไรของมึง”


“โอ๊ย! บทจะซึนก็ทำเอากูปวดตับเลยนะครับเพื่อน”

“อะไรของมึง”

“เดี๋ยวแมร่งก็ตีหัวแตกแล้วลากไปหรอก พอๆ เลิกถามสักทีกูลุ้นจนฉี่จะแตกแล้วเนี่ย” ไอ้จาโหวกเหวงโวยวายใหญ่เลยครับก่อนจะออกแรงลากผมให้เดินตามมันไป ไอ้ผมก็อยากถามต่อนะครับแต่ท่าทางของมันเหมือนคนอารมณ์แล้วอยากฆ่าผมแนะเพราะฉะนั้นเดินตามไปแต่โดยดีน่าจะดีกว่า
ตลอดแนวทางเดินของวันนี้ทำไมถึงเปลี่ยนไป ไอ้จาไม่ได้ลากผมกลับขึ้นไปบนบ้านแต่ดันลากให้เดินอ้อมมาจากสวนด้านหลังของบ้านแทนบรรยากาศที่เปลี่ยนไปกับพวกคนงานที่เดินกันให้วุ่นราวกับว่ากำลังมีงานเลี้ยงอะไรสักอย่าง ผมรู้สึกเกร็งนิดหน่อยแต่ก็ยอมเดินตามมันไปอย่างว่าง่าย
เดินไปได้สักพักรอบๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะแนวทางเดินมีแสงไฟสลัวที่ถูกจุดเอาไว้อย่างสวยงามที่นี่กำลังจะมีงานอะไรงั้นเหรอ?
ตึกๆ ตักๆ
เริ่มไม่ดีแล้วสิครับเพราะตลอดแนวทางเดินมีแต่คนมองผมกันเป็นตาเดียวเลยส่วนไอ้จาก็เอาแต่ลากผมไปอยู่นั่นแหละ
“เฮ้ย! เดี๋ยว!” จนสุดท้ายความอยากรู้ก็เอาชนะจนต้องรั้งมือตัวเองกลับมาแล้วตะโกนออกไปจนไอ้จาต้องหยุดเดินแล้วหันกลับมามองหน้าผม

“เรื่องเยอะจังมึง”

“งานอะไร?”

“เดี๋ยวก็รู้”

“แต่กูอยากรู้เลย”

“พอทีนี้ละใช้นิสัยเดิมเชียวนะอีคุณหนู!!!” ไอ้จากอดอกจ้องหน้าผมก่อนจะส่ายหัวไปมา แต่ท่าทางของมันไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย
“รอพ่อกูมาตอบละกัน” ไอ้จาไม่ตอบผมแต่กลับหันหลังให้ผมแล้วเดินตรงไปด้านหน้าต่อโดยไม่สนใจเลยว่าผมจะอยากรู้มากแค่ไหน? จนสุดท้ายผมก็ต้องเดินตามมันไปเพราะความสงสัยอยู่ดี
คนเยอะ! แถมทุกคนยังมองหน้าผมแบบแปลกๆ แล้วก็ยิ้มให้อีกต่างหากครับ
>///////////////< เริ่มใจไม่ดีแถมรู้สึกได้เลยว่าแก้มทั้งสองข้างของผมมันเปลี่ยนสี
ไอ้จาเดินหายเข้าไปในฝูงชนก่อนที่ผมจะหยุดเดินแล้วหันมองไปรอบๆ ตรงหน้าผมเป็นเวทีขนาดเล็กที่ถูกจัดขึ้นอย่างน่ารักประดับด้วยดอกไม้ที่หาได้ง่ายๆ ในสวนของที่นี่และที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือพ่อเลี้ยงเองก็กำลังเดินตรงมาหาผมก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้า เราสองคนสบตากันอย่างไม่ต้องสงสัยก่อนที่ใบหน้าหล่อคมเข้มจะระบายยิ้มที่อ่อนโยนมาให้กับผม
“ขอโทษนะครับที่ทำให้น้อยใจพี่รู้ว่าอาจจะทำตัวแย่ไปบ้าง แต่งานวันนี้พี่ตั้งใจจัดขึ้นมาเพื่อเดือนสิบสองโดยเฉพาะเลยนะ”

“งะงานอะไรครับ” อึ้งไปสิพ่อเลี้ยงทำซึ้งแถมน้ำตาก็เริ่มเอ่อล้นออกมาอีกต่างหาก

“มันไม่ใช่งานแต่งงานเพราะตอนนี้ลูกยังไม่โตและพี่เองก็อยากแต่งงานแล้วจับมือลูกๆ ไปด้วยเหมือนกันพี่อยากให้งานวันนี้เหมือนงานเลี้ยงธรรมดาที่พัดพาความสุขมาให้พวกเราและทุกๆ คน ณ ไร่แห่งนี้” พ่อเลี้ยงเอื้อมมือมาตรงหน้าของผมก่อนจะเกลี่ยน้ำตาที่ไหลอยู่ให้อย่างอ่อนโยน
“เดือนสิบสองคือรอยยิ้มและเสียงหัวเราะรวมไปถึงความสุขของทุกคนที่นี่ขอบคุณนะครับที่ก้าวเข้ามาในไร่จอมพลแห่งนี้”

“จอมพล”

“ขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตและเป็นทุกๆ อย่างของผู้ชายคนนี้ขอบคุณจริงๆ ที่มอบอีกสองชีวิตสำคัญมาให้” พ่อเลี้ยงรั้งใบหน้าของผมเอาไว้ก่อนจะก้มหน้าลงมากดจูบเบาๆ ที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนเรียกเสียงโห่ร้องดีใจของทุกคนที่นี่ได้อย่างมากมายเลยทีเดียวครับ
ผมรู้แล้วว่าทำไมวันนี้เค้าถึงปฏิเสธที่จะไปกับผมเพราะสิ่งที่เค้าโกหกและพยายามทำเพื่อผมมันยิ่งใหญ่เหลือเกิน

“ขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสคนๆ นี้และยอมเดือนสิบสองตลอด”

“คนนี้นะจอมพลยอมเสมอแหละครับ” พ่อเลี้ยงยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนจะรั้งผมเข้าไปกอดเอาไว้ท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ดีใจและความสุขของพวกเราทุกๆ คน

อะแฮ่มๆๆๆ
“มีความสุขจังเลยนะครับ ว่าแต่ช่วยอุ้มเจ้าสองแสบนี่หน่อยสิ” เสียงไอ้จาดังขึ้นมาพร้อมกับคุณอาวุธที่กำลังอุ้มลูกๆ ของผมอยู่

“ช่วยหน่อยสิถึงยังไงก็เป็นน้องมึงนะ” ผมว่าแต่กลับเจอสายตาดุๆ ของพ่อเลี้ยงซะงั้น “คนมันชินนี่ครับ” รีบแก้ตัวทันทีก็เมื่อกี้ผมดันพูดจาหยาบคายไปนี่ครับ

“เออๆ ยอมครับงั้นเป็นทุกอย่างเลยเพื่อสองจอมแสบนี่ทั้งพี่ ทั้งเพื่อน ทั้งอา ทั้งพ่อแล้วก็ทั้งแม่ด้วย ฮาๆๆๆ ดีมั้ยอาวุธ” พูดกับผมนะครับแต่กลับไปถามความเห็นจากสามีมันซะงั้น

“ครับ” คุณอาวุธเองก็เล่นด้วยครับพอเจอรอยยิ้มของไอ้จาไปก็ถึงกับยอมละสแถมยังขยี้หัวมันเล่นอย่างน่ารักเชียว
“งานคืนนี้ท่าทางอีกยาวครับ งั้นเชิญตามสบายวันนี้ผมจะเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นให้อีกคนเดี๋ยวเด็กๆ ก็คงอยากนอนกันแล้ว” เค้าว่าก่อนจะหันมองไปรอบๆ ผมว่าอีกไม่นานไอ้จาก็คงพบความสุขที่แท้จริง ถึงมันจะปากแข็งไปบ้างแต่เชื่อเถอะครับว่ามันนะรักใครรักจริงถ้าลองนอกใจละมีตาย

อีกด้านหนึ่งของความสุข
ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่รอคอยคืออะไร? ทุกคนล้วนแล้วแต่สามารถจะสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยตัวเองกันทั้งนั้น!!
เมื่อก่อนผมเคยเสเพลและไม่คิดจริงจังคิดแค่ว่าเงินจะสามารถบันดาลทุกอย่างได้ แต่สุดท้ายพอเจอกับผู้ชายคนนี้ จอมพลทุกอย่างกลับหายไปและแปลเปลี่ยนเป็นเรื่องดีๆ
เราสามารถพบเจอคนอื่นๆ ได้แม้ว่าจะไม่รู้จักกัน บางคนเดินผ่านไปโดยไม่หันกลับมามอง แต่บางคนกลับมองและยิ้มให้แม้จะไม่รู้จักกัน ทักทายราวกับว่าถูกชะตาและรู้จักกันมาเนิ่นนานทั้งๆ ที่เพิ่งเจอหน้ากันแท้ๆ ถ้าคนทุกคนล้วนแล้วแต่ยิ้มให้กันผมว่าโลกนี้คงมีแต่ความสุขแม้ว่าเบื้องหลังของรอยยิ้มอาจมีคราบน้ำตาอยู่ก็ตาม
จุ๊บ >//////////////////////<
คนทำลายบรรยากาศซึ้งๆ แถมชอบทำให้เขินตลอดเวลาดันมาจุ๊บปากผมซะงั้น!!!
“คิดอะไรอยู่ครับ”

“คิดถึงใครดีน้า”

“กล้าเหรอ?”

“รักเดียวครับ นี่ใครอย่าลืมนะมีที่เกาะดีขนาดนี้ใครจะไปกล้านอกใจ” ผมจ้องหน้าพ่อเลี้ยงยิ้มให้เค้าก่อนจะเอื้อมมือไปรั้งต้นคอของคนตรงหน้าเอาไว้ พ่อเลี้ยงสูงกว่าผมเยอะเพราะฉะนั้นได้แค่แตะละครับ

“เมียจอมพลสิครับ”

“ฮาๆๆๆ บ้า เราแอบหนีออกมาแบบนี้อีกแล้วนะเดี๋ยวไอ้จาก็บ่นอีกหรอก” ผมบอกพ่อเลี้ยงออกไปก่อนที่เค้าจะจ้องหน้าผมแล้วจับมือพาเดินไปนั่งที่สนามหญ้าใกล้ๆ กับงานเลี้ยงที่ทุกคนกำลังเต้นและร้องเพลงกันอย่างสนุก

“ป่านนี้คงพาสองจอมแสบไปนอนกันแล้วมั้ง”

“พ่อแม่นิสัยไม่ดีแอบอู้”

“นานๆ จะสวีทแบบนี้ทีเผื่อจะมีอารมณ์ผลิตทายาทเพิ่ม” พ่อเลี้ยงแหย่ผมก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ พร้อมทั้งริมฝีปากที่ประทับลงบนแก้ม

“เหรอครับ! หื่นๆ แบบสามีเดือนสิบสองเนี่ยต้องสร้างอารมณ์ด้วยเหรอ” ผมเองก็แอบแหย่กลับครับเพราะนิสัยพ่อเลี้ยงข้อนี้ใครๆ ก็น่าจะรู้ดี “และอีกอย่างแค่สองจอมแสบก็จะแย่แล้วครับสามี”

“แต่พี่อยากได้อีกจอมนี่ครับ”

“ไม่เอาแล้ว! กว่าจะโต กว่าจะคลอดเหนื่อยแถมยังอาละวาดไม่ได้เยอะอีกต่างหาก” ผมยู่หน้าใส่พ่อเลี้ยงก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกเค้าอุ้มให้ขึ้นไปนั่งบนตักโดยที่แผ่นหลังของผมพิงเข้ากับแผงอกกว้างของเค้า ได้ทีซบซะเลย
ท้องฟ้าคืนนี้สวยมากเลยครับหรือเพราะผมมีความสุขก็ไม่รู้สินะ

“เดี๋ยวก็รู้ใครจะแน่กว่ากัน”

“ห๊ะ! อ่ะ อื้อ” ไอ้ที่ตกใจก็เพราะถูกพ่อเลี้ยงรั้งใบหน้าให้หันไปหน้าก่อนที่ใบหน้าหล่อๆ ของเค้าจะก้มลงมาหาผมประทับริมฝีปากลงอย่างอ่อนโยน จูบนี้หวานล้ำอย่าบอกใครแต่ขอบอกว่างานนี้มียาวแน่ๆ
แอร๊ยยยย >////////////<
จอมพล จอมบงการ จอมหื่น จอมหึง จอมโหด ห้าจอมนี้ของเดือนสิบสองคนเดียว J

“รักนะครับคุณหนูเดือนสิบสอง”

“รักยิ่งกว่านะครับพ่อเลี้ยงจอมพล”
พ่อเลี้ยงละใบหน้าออกไปจากผมก่อนที่สองแขนแกร่งจะโอบกอดผมเอาไว้อย่างอบอุ่น อ้อมกอดที่คอยปกป้องผมและทุกๆ คนมาโดยตลอด ผมเชื่อเสมอว่าเค้าจะรักและภักดีกับผมแบบนี้ตลอดไป
“ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เราได้เจอกัน ขอบคุณที่วันนี้เรายังมีกันและอยู่ด้วยกันตลอดไป”

“เราจะสร้างมันไปด้วยกัน จะทำให้ไร่จอมพลเป็นไร่ที่มีแต่ความสุขและเสียงหัวเราะ

“ครับ อ่ะอุ๊บ!!!

“เดือนสิบสองเป็นอะไร?”

“พ่อเลี้ยง อุ๊บ” ไม่มีเวลาแล้วครับถ้ามัวแต่พูดมากมีหวังงานงอกได้อ้วกแตกใส่พ่อเลี้ยงแน่ๆ เลย ขอวิ่งก่อนละกันหามุมดีๆ ก่อนที่จะอ้วกออกมาซะงั้น
เฮ้ย! อาการแบบนี้ไม่ไหวนะครับ ได้โปรดอย่าเป็นอย่างที่คิด

“เดือนสิบสอง”


“ห้ามพูดนะ”

“จริงมั้ย!

“ม้ายยยยย! ไม่จริง ฮือๆ”

“ฮาๆๆๆ อะไรจะมีความสุขขนาดนี้ วู้ววววววววว! เมียจอมพลท้องอีกแล้ว จอมพลกำลังจะมีลูกคนที่สาม” พ่อเลี้ยงร้องตะโกนซะดังก่อนจะอุ้มผมขึ้นแล้วพาวิ่งวนไปอยู่ที่สนามหญ้าอย่างมีความสุข แต่ขอบอกว่าเดือนสิบสองอายมากกกกกกกก!!!
ผมว่าจบเถอะครับก่อนที่ลูกคนที่สี่จะโผล่ออกมาอีก ไม่ไหวนะครับถ้าเป็นแบบนี้จบนะครับ จบจริงๆ แล้วนะครับ จบปิ้งครับ
(T-T)( -_-)(_*_)
จบครับ จบ




THE END
29.09.57



จบแล้ว จบๆ จบจริงๆ นะคะ
เม้นให้ชื่นหัวใจหน่อยนะ...
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ขอบคุณกำลังใจดีๆ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ ^^

รอบทส่งท้ายหน่อยนะคะ 55555555555