luscious,
16
ระยะเวลาพิสูจน์ใจ
เดือนสิบสอง
ผมนั่งกินอาหารที่พี่หวานทำให้กินอย่างมีความสุข
อาการแพ้ท้องก็เข้ามาเรื่อยๆ แต่ไม่มากสักเท่าไหร่หรือง่ายๆ จะมาเป็นพักๆ
ไม่ให้ตั้งตัวสักเท่าไหร่ แต่พอเห็นว่าพี่เทพ(อุ๊ต๊ะ!
สามีผมคงไม่ว่าหรอกครับ)เดินกลับมาคนเดียวก็นึกสงสัยว่าตาแก่หายไปไหนพอถามก็เฉไฉเหมือนไม่อยากจะตอบผมเลยต้องเป็นฝ่ายเดินไปดูเอง
ไม่ได้หึงนะครับ
แต่คนนี้ของผมใครก็ห้ามยุ่ง!!! ชิส์…
“เดือนสิบสอง”
สองพ่อเลี้ยงยังคงดังขึ้นมาเรื่อยๆ ในขณะที่ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินหนีออกมา
หมั่นไส้ เจ็บใจ…
ให้ตายสิทำไมถึงรู้สึกไม่ชอบใจแบบนี้เลยนะเนี่ย
แทบจะทึ่งหัวของตัวเองทิ้งกับความคิดมากมายที่ก้าวเข้ามา
ผมไม่ได้หึงนะ…จริงๆ TwT
“…”
“เดือนสิบสอง”
เรียกอยู่ได้ให้ตายสิ อยากจะบ้าตาย… คนกำลังสับสนอยู่ระหว่างคำว่าหึงกับไม่พอใจ
“นี่พ่อเลี้ยง”
ผมหยุดเดินก่อนจะหันกลับมามองคนที่เดินตามอยู่พร้อมทั้งเรียกชื่อของเค้าเอาไว้
พ่อเลี้ยงหยุดเดินมองหน้าผมแบบสำนึกผิดมากๆ เลยละครับ
“ครับ”
เชื่องเชียวนะ…
“เราอยู่ห่างกันสักสองวันดีไหม?”
“เฮ้ย!
ไม่ดี” พ่อเลี้ยงแทบจะพุ่งเข้ามาหาผมเลยทีเดียวพอได้ยินคำพูดของผมเมื่อกี้
แต่เสียใจผมรีบถอยห่างออกมาซะก่อน
“เดือนสิบสอง”
“ขอร้อง!!!
L”
ผมแทบอยากจะร้องไห้ ที่บอกเค้าไปเมื่อกี้ก็เพื่อจะลองใจตัวเองก็เท่านั้นเอง
“ผมจะไปนอนห้องจา ถึงยังไงเราสองคนก็อยู่บ้านเดียวกันแค่ไม่ได้นอนด้วยกัน…ได้ไหม?”
ผมไม่ได้โกรธเค้าหรอกครับ
แต่ผมอยากพิสูจน์ความรู้สึกของตัวเองให้มากกว่านี้ก็เท่านั้นเอง
“ตอบว่าไม่ได้…ได้ไหม?” น้ำเสียงของเค้าน่าสงสารมากๆ จนผมแทบทรุดหัวใจก็เต้นแรงเรื่อยๆ
แต่ไม่ละ? ผมจะต้องไม่ใจอ่อน
“แค่สองวัน” ผมบอกเสียงแผ่ว
อย่าหาว่าผมไม่รู้สึกแค่อยากใจแข็ง L
“เหมือนสองปี” พ่อเลี้ยงตอบสีหน้าเศร้ามากๆ
“พ่อเลี้ยง…
เค้าขอ!!!” ในเมื่อไม้แข็งใช้ไม่ได้ผล ผมก็ต้องใช้ไม้อ่อนคือพูดจาอ้อนเค้า…อย่างน้อยก็น่าจะได้ผลบ้าง
“เฮ้อ!
ก็ได้…แต่แค่สองวันเท่านั้นนะอีกอย่างวันอาทิตย์เราก็ต้องไปงานวันเกิดคุณอรุณด้วยกัน
ห้ามปฏิเสธถือว่าเค้าขอ”
ผมพยักหน้าให้เค้าก่อนจะส่งยิ้มจางๆ
ไปให้ วันอาทิตย์ก็ครบสองวันพอดี คราวนี้แหละผมจะได้รู้สักทีว่าจะควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้มากแค่ไหน
ผมอยากปรับตัวและไม่อยากทำตัวเหมือนเด็กๆ อีกต่อไปแล้ว…
ผมโตจนจะมีลูกมาเรียกแม่แล้ว
เพราะฉะนั้นนิสัยเสียๆ ของผมก็ควรจะโยนทิ้งไปบ้าง
ห้ามวีนเกินวันละสามครั้งหรือแม้แต่เหวี่ยงมากจนเกินไป หึงก็ด้วยห้ามเกินขีดจำกัด…เดี๋ยวจะเครียดแล้วลูกจะพลอยแย่ไปด้วย
“งั้นเค้ากลับบ้านก่อนนะ”
เรามองหน้ากันอยู่นานแต่ไม่มีใครพูดอะไรผมเลยเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
“ครับ”
หลังจากที่แยกกับพ่อเลี้ยงผมก็กลับมาที่บ้าน…ขึ้นมาด้านบนก็เจอพี่แหวนยืนรออยู่ ผมมองหน้าเค้าก่อนจะยิ้มจางๆ
ไปให้รู้สึกเหนื่อยจังเลยครับ
“ไม่สบายหรือเปล่าค่ะ”
“รู้สึกเหนื่อยๆ
ครับ งั้นผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
แยกทางกับพี่แหวนผมก็เดินหายเข้าไปในห้องของไอ้จาทันที
รู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้สิครับ
ก่อนหน้านี้ก็เคยอยู่ห่างกันมาแล้วแต่ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าตัวเองรักพ่อเลี้ยงแถมยังไม่รู้ด้วยว่าตอนนั้นกำลังท้อง
แต่พอมารู้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป…
“เฮ้อ!
จะไหวไหมเนี่ยเดือนสิบสอง” ล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง รู้สึกเหนื่อยๆ
ทั้งๆ ที่ผมเพิ่งจะตื่นเองหรือนี่เป็นอาการช่วงแรกๆ
ของคนท้องที่มักจะง่วงและเพลียได้ตลอดเวลา
นึกสภาพไม่ออกเลยครับถ้าผมท้องโตมากกว่านี้จะเป็นยังไง (- -)!!!
“อดทน อดทน
อดทน ฮือ…
อดทน!!! ไม่ไหวๆ เดือนสิบสองอด ไม่ทนแล้วสิ”
ทั้งๆ
ที่เป็นคนบอกกับเค้าไปเองแท้ๆ
ว่าอยากจะห่างกันสักสองวันแต่นี่อะไรผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงผมก็แทบขาดใจแล้ว TwT
จอมพล
ผมฟังผิดหรือเปล่าที่เดือนสิบสองให้เราห่างกันสองวัน
อยากให้สิ่งที่ได้ยินไม่ใช่เรื่องจริงเพราะผมทนไม่ได้หรอก…กว่าจะตามกลับมาตรังได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แล้วนี่อะไรจู่ๆ
ก็ต้องห่างกันอีกทั้งๆ ที่เราอยู่บ้านเดียวกัน
“แหวนเดือนสิบสองละ”
ผมร้องถามเมื่อเดินกลับมาที่บ้าน บอกตามตรงตอนนี้ไม่มีกระจิตกระใจจะทำงานแล้วครับ
“อยู่ในห้องค่ะ”
ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปที่ห้องแต่พอมาถึงหน้าห้องของตัวเองก็ต้องชะงักเพราะนึกถึงคำพูดของเดือนสิบสอง่าจะไปนอนห้องของจาวา
แบบนี้ถึงเปิดประตูเข้าไปในห้องผมก็ไม่เจอหรอกครับ
ขอแหกกฎหน่อยละกัน…
บอกกับตัวเองในใจก่อนจะเดินไปที่ห้องของจาวา เปิดเข้าไปก็เห็นว่าเด็กดื้อกำลังนอนหลับอยู่เลยครับ
ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ
เตียงก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ
ทำทุกอย่างให้เบาที่สุดเพราะกลัวว่าเดือนสิบสองจะตื่น
ผมยื่นมือข้างหนึ่งไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าเดือนสิบสองออกไป
ใบหน้าเรียวเล็กดูซีดจนผิดปกติ
“ไม่สบายหรือเปล่าเนี่ย”
พูดไม่ทันขาดคำผมก็ยื่นมือไปแตะที่หน้าผากและบริเวณลำคอรู้สึกได้ทันทีว่าคนตรงหน้าตัวร้อนจี๋เลยทีเดียว
“ให้ตายสิ!
เดือนสิบสองตื่นสิ”
ผมเขย่าคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องให้ตื่นขึ้นมา
แต่เปล่าประโยชน์เพราะไม่มีวี่แววว่าเดือนสิบสองจะตื่นเลยครับและนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเลย
“แหวน
แหวนอยู่ไหนเนี่ย แหวน”
“ค่ะพ่อเลี้ยง”
“โทรตามหมอให้หน่อยเดือนสิบสองไม่สบาย
เบอร์แปะอยู่ใกล้ๆ กับโทรศัพท์บ้าน”
“ค่ะๆ”
แหวนรับคำผมก่อนจะวิ่งไปโทรศัพท์ส่วนผมก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
หยิบผ้าผืนเล็กชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดตัวให้คนที่นอนหลับอยู่เพื่อช่วยเบาเทาความร้อนที่ร่างกายกำลังสะสมอยู่ในตอนนี้
หมอมาถึงได้สักพักแล้วและกำลังตรวจอาการของเดือนสิบสองอยู่ส่วนผมก็ยืนรออย่างใจจดใจจ่อมากๆ
เลยทีเดียวครับ รอว่าเมื่อไหร่หมอจะตรวจเสร็จสักทีคนมันใจร้อนเนี่ย…
แอด///
หมอเดินออกมาแล้วผมยิ้มดีใจมากๆ
ที่ผมออกมารอข้างนอกเพราะกลัวว่าจะอาละวาดใส่หมอที่ไปแตะต้องเมียผม
คือแบบคนมันหวงเลยหึงมากไม่แคร์โลกเลยละครับ…เชื่อสิ!
“หมอเมียผมละ”
“เป็นไข้หวัดธรรมดานะครับ
แต่ร่างกายเหมือนจะอ่อนเพลียมากหมอเลยฉีดยากับให้น้ำเกลือไว้แล้วครับ”
ฉีดยา!
เดี๋ยวนะแล้วหมอไปฉีดตรงไหนของร่างกายเมียผมเนี่ย
ยืนจ้องหน้าหมอแบบสงบนิ่งมากๆ เพราะต้องควบคุมอารมณ์ตัวเอง
“แต่ภรรยาคุณตั้งครรภ์”
“ครับผมรู้”
“หมอยินดีด้วยนะครับ
น้อยคนมากที่จะเจอตุการณ์แบบนี้
ถ้างั้นหมอขอตัวก่อนละกันส่วนยาสำหรับคนไข้หมอให้พยาบาลจัดให้แล้วครับ”
“เทพไปส่งหมอด้วย”
หมอกลับไปแล้วรวมถึงคนอื่นๆ ก็ด้วยสรุปที่ตรงนี้เหลือก็แต่ผมคนเดียว ถอนสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างช้าๆ
ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนมันออกมาแล้วเดินเข้าไปหาเดือนสิบสองที่นอนหลับอยู่
ที่แขนด้านซ้ายมีสายน้ำเกลือโยงอยู่ผมรู้สึกแย่มากๆ
ผมไม่รู้ว่าที่เดือนสิบสองไม่สบายจะเพราะเครียดหรือเปล่าแต่ที่แน่ๆ
น่าเป็นห่วงที่สุดเลย
!!!
“ทำให้เป็นห่วงจนได้สินะเด็กดื้อ”
จุ๊บ
>//////////<
ผมกดจูบลงที่หน้าผากของคนตัวเล็กก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ
โอบกอดเอาไว้อย่างทะนุถนอม… ต่อไปนี้ผมจะเป็นพ่อเลี้ยงที่ดื้อบ้างแล้ว
ไม่ว่าจะขอร้องหรืออ้อนวอนมากแค่ไหนผมจะไม่ยอมทำตามเด็ดขาด
ก็ดูสิพอทำตามแล้วเป็นแบบนี้
มันน่านัก!!!
…ผมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ตื่นมาอีกทีท้องฟ้าก็ดูจะมืดสนิทไปซะหมด
ผมแทบไม่อยากลุกขึ้นเลยด้วยซ้ำไปอย่าว่าแต่เดือนสิบสองที่เหนื่อยเลยครับขนาดผมเองยังเหนื่อยเลย
จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าอดหลับอดนอนแบบนี้มากี่คืน ร่างกายอ่อนล้าชะมัด!
ว่าแต่เดือนสิบสองละเท่าที่จำได้ผมยังนอนกอดเค้าอยู่เลยนี่ครับ
แต่ทำไมรู้สึกเหมือนผมนอนอยู่บนเตียงคนเดียว
“พ่อเลี้ยงผิดสัญญา”
ขวับ! พอได้ยินแบบนั้นผมก็รีบหันไปมองทันทีเห็นเดือนสิบสองกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ใกล้ๆ
กับหน้าต่างห้องราวกับว่านั่งมองผมอยู่นานแล้ว ผมค่อยๆ
ขยับตัวเองให้ลุงขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองสบตากับเดือนสิบสองผ่านทางแสงสว่างด้านนอก
วันนี้พระจันทร์เต็มดวงด้านนอกถึงดูสว่างผิดปกติ
แต่มันกลับทำให้ผมมองหน้าเดือนสิบสองไม่ถนัดจนต้องเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงแต่กลับถูกร้องห้าม
“อย่าเปิดไฟนะ”
“ทำไมละ?”
ผมร้องถาม
ผมอาจจะมองหน้าเดือนสิบสองถนัดแต่เจ้าตัวอาจจะมองผมไม่เห็นก็ได้เพราะฝั่งที่ผมนั่งมันดูจะมืดสนิทเชียว
“ทำไมพ่อเลี้ยงผิดสัญญา”
ไม่ตอบคำถามผมครับแต่กลับเป็นฝ่ายตั้งคำถามมาซะเอง ผมนั่งเงียบไม่ตอบ…จะให้ตอบอะไรละ? ในเมื่อผมไม่อยากทำตาม
“พ่อเลี้ยงนิสัยไม่ดี”
“เดือนสิบสอง”
“ห้ามพูด
ฟังอย่างเดียว!”
“ครับๆ”
น้ำเสียงงอแงจนผมต้องยอมเลยทีเดียว
ผมนั่งเงียบได้แต่ผ่อนลมหายใจเข้าออกอยู่อย่างนี้ฟังทุกคำพูดของเดือนสิบสองโดยไม่โตแย้งอะไรอีก
“รู้ไหมเค้าต้องพยายามแค่ไหนที่จะปรับตัวเอง
อยากเป็นแม่ที่ดีของลูก อยากเป็นเมียที่ดีของพ่อเลี้ยง อะ…อึก ตะ…แต่ทำไมมันยากจัง”
“…” เดือนสิบสองไม่รู้หรอกว่าผมอยากจะโต้แย้งมากแค่ไหน
ไม่ใช่แค่เค้าที่รู้สึกแบบนี้แต่ผมก็ด้วย ผมอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว…ขนาดตอนนั้นที่เดือนสิบสองนิ่งและทำตัวเองเงียบๆ
ผมกลับรู้สึกราวกับว่าคนที่อยู่ตรงหน้าผมไม่ใช่เดือนสิบสองแนะครับ
“แค่สองวัน
อย่าว่าแต่สองวันเลยขนาดวินาทีแรกแค่เดินออกมาเค้ายังทรมาน ฮือๆ เหนื่อยจัง”
เดือนสิบสองพูดของมาทั้งน้ำตา ผมเองก็ทรมานไม่ต่างกันหรอกครับ
“ถ้าเหนื่อยก็หยุดฝืนสิครับ”
“บอกแล้วห้ามพูด”
เสียงสะอื้นพูดออกมาอย่างแผ่วเบา ผมพยุงตัวเองแล้วค่อยๆ
ขยับลงจากเตียงเดินผ่านความมืดไปหาคนที่นั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้า
แววตาคู่เล็กมองสบตาผมผ่านแสงสว่างของดวงจันทร์ในยามค่ำคืน
แม้ว่าจะไม่สว่างเหมือนตอนเปิดไฟ
แต่ถ้าคนตรงหน้าคือคนเดียวที่อยู่ในสายตาเราตลอดเวลา
ทำไมจะมองไม่ออกว่าน้ำตาที่เปื้อนอยู่บนแก้มมันมากแค่ไหน?
“เค้าจะไม่อดทน
จะไม่ทำตามและจะต่อต้าน เพราะถ้าเค้าทำตามก็เหมือนว่าทุกอย่างเค้ายอม…” ผมนั่งยองๆ ลงตรงหน้าเดือนสิบสองจับมือเล็กทั้งสองข้างเอาไว้ประสานเข้ากับมือของผมอย่างอ่อนโยน
“และนั่นก็ไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงเหมือนเราต่างฝ่าย
ต่างฝืนเข้าหากัน”
“พ่อเลี้ยงจะทนได้เหรอ?
นิสัยเค้ามันแย่มากๆ เลยนะ” เดือนสิบสองบีบมือผมแน่นขึ้นจากที่เมื่อกี้ผมแค่ประสานมือกับเค้าเท่านั้นเอง
“รู้อะไรไหม?
ถ้าไม่ใช่เด็กนิสัยแย่ๆ คนนั้นที่ชอบทำตัวเองให้มีปัญหาไปวันๆ
หรือแม้แต่เด็กที่ชื่อแปลกๆ อย่างเดือนสิบสอง คงไม่ทำให้พ่อเลี้ยงคนนี้รักได้หรอกครับ”
ผมกดจูบเบาๆ ที่ฝ่ามือเล็กก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตา
“…”
“อย่าพยายามเปลี่ยนตัวเอง
แค่เราสองคนปรับตัวให้เข้าหากันก็พอแล้ว ยิ่งเราทำตัวออกห่างกัน…ต่างฝ่ายก็ต่างรู้สึกแย่กันเปล่าๆ สู้เราช่วยกันปรับไม่ดีกว่าเหรอ”
“ดีจริงๆ เหรอ?
แต่เค้ากลัวจะทำนิสัยแย่ๆ เหมือนเมื่อก่อน”
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่เดือนสิบสองก็ยังกังวลอยู่ดีแถมยังมากกว่าเมื่อก่อนอีกครับ
ยิ่งผมได้เห็นมุมมองนี้ของเดือนสิบสองกลับทำให้ผมรู้สึกมีความสุขเพราะนี่แหละครับคือสิ่งที่เด็กดื้อเปลี่ยนไปแต่มันเปลี่ยนไปในทางที่ดีนะครับ
“เค้าว่า…”
“ไม่ต้องว่าแล้ว
แค่พยายามเปลี่ยนและควบคุมตัวเองแบบนี้แหละดีแล้ว รู้ไหมว่ามันน่ารักมากแค่ไหน
นี่แนะๆ” ผมจับปลายจมูกเล็กส่ายไปมารู้สึกมันเขี้ยวอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ
ความน่ารักแบบนี้ทำให้ผมอยากจะขังเดือนสิบสองไว้ดูคนเดียวชะมัด
หึหึ!!!
“บ้าเหรอ”
“รู้ไหมว่าเราสองคนนิสัยเหมือนกัน”
“ชิส์!
ตรงไหนไม่ทราบ”
“ก็ตรงนี้แหละ
พูดไม่ทันจบก็ตั้งคำถามเถียงมาซะแล้ว… เมียใครเนี่ยน่ารักเสมอเลย” ผมรั้งใบหน้าของเดือนสิบสองลงมาใกล้ๆ
พร้อมทั้งกดจูบที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา
“ข้อตกลงสองวันเป็นอันยกเลิกนะ”
“ได้ไง”
“หรือจะทนสองวันเลยนะ
ไม่ได้กอด ไม่ได้จูบ ไม่ได้หอมแก้มหรือแม้แต่… ก็ด้วย” ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะรั้งคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ให้ลุกตามและเป็นฝ่ายลงไปนั่งที่เก้าอี้เองพร้อมทั้งรั้งเอวของเดือนสิบสองเอาไว้จับร่างเล็กให้นั่งลงบนตักกอดไว้จนแน่น
“… บ้าเหรอพ่อเลี้ยงหื่น พูดเรื่องนี้ก็ดีแล้ว ต่อไปนี้ห้ามจับเค้ากดอีกนะ”
-_-! ใคร ใครเป็นคนผิด เริ่มเปิดประเด็นทำไมเนี่ยไอ้พ่อเลี้ยงอดกดเมียเลยแต่มีเหรอจะยอม
แค่เล้าโลมสักนิดก็ได้กินแล้วครับ
“ขอปฏิเสธ
แต่ตั้งข้อเสนอใหม่ถ้าทนได้เกินสิบวินาทีเค้าจะยอม”
“ฮึย!
แค่ห้าวินาทียังไม่รอดเลย ไม่เอาๆ ขี้โกงแล้วเนี่ย”
“นี่อย่าดิ้นสิอย่าลืมนะว่ามีสายน้ำเกลืออยู่ด้วย
คนป่วยอะไรฤทธิ์เยอะจัง” ถ้าฤทธิ์ไม่เยอะก็ไม่ใช่เมียผมนะสิ
เดือนสิบสองของผมต้องเหวี่ยงวีนแบบจัดเต็มถึงจะใช่และแน่นอนว่าทำให้ผมรักได้หัวปักหัวปำเลยทีเดียว
“พ่อเลี้ยงเค้าหิวอีกแล้ว
ลูกก็หิว”
“เที่ยงคืน…”
“เค้าหิวววว !!!” ทำหน้าตาออดอ้อนเชียวครับ เที่ยงคืนก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ บางทีผมคิดว่าเดือนสิบสองจะกลัวอ้วนบ้างแต่เปล่าเลยมาถึงขั้นนี้แล้วอย่าได้กลัวไปเลยครับ
สุดท้ายผมก็ยอมแพ้แล้วช่วยพยุงเดือนสิบสองลงไปด้านล่างก่อนจะให้นั่งรอที่โต๊ะแต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมตามผมไปนั่งรออยู่ในครัวด้วย
ส่วนผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองด้วยการทำอาหารให้เมียกินตอนเที่ยงคืน
“ไม่ยักจะรู้ว่าทำอาหารเป็นด้วย”
“ก็ทำกินเองออกบ่อย”
“ว่าแล้วทำไมไอ้จะ…
จาวาถึงทำเป็น”
พอเจอสายตาพิฆาตของผมเข้าหน่อยก็เปลี่ยนน้ำเสียงทันที
ผมไม่ค่อยชอบให้เดือนสิบสองพูดจาหยาบคายสักเท่าไหร่แต่พออยู่กับจาเข้าหน่อยไหลลื่นเลยละครับจนผมแทบห้ามไม่อยู่แนะ
“แค่คำเดียวทำดุ”
แอบบ่นครับ
“…” ผมไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้มละส่ายหัวไปมากับท่าทางน่ารักๆ
ของเดือนสิบสองก่อนจะหันมาสนใจของในตู้เย็นต่อ คิดอยู่ครับว่าจะทำอะไรให้เด็กดื้อกินดี
“พ่อเลี้ยงเค้าอยากกินข้าวผัด
ไม่ใส่หมูแต่ใส่ผักเยอะๆ ลูกจะได้แข็งแรง” ผมค่อยๆ เงยหน้าไปมองคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
นึกสงสัยนิดหน่อยว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่า
เดือนสิบสองเนี่ยนะอยากกินข้าวผัดแถมไม่ใส่หมูแต่ใส่ผักเยอะๆ
“มองหน้าหาเรื่องเหรอ
เร็วๆ สิเค้าหิว”
“ครับๆ
รอสักครู่เมียที่เคารพรัก”
ผมใช่เวลาแค่ไม่นานก็สามารถทำข้าวผัดที่น่ากินที่สุดในโลกให้เดือนสิบสองกินได้
มีแค่จาคนเดียวเท่านั้นที่เคยกินฝีมือของผมส่วนคนอื่นๆ ไม่มีครับ
แต่ตอนนี้คงเปลี่ยนไปแล้วเพราะคนเดียวที่ผมจะทำให้กินคงมีแค่เดือนสิบสอง
“เหนื่อยไหม?
ตอนเค้าตื่นแล้วพ่อเลี้ยงยังหลับอยู่เค้านั่งมองตลอด…
ถ้าเหนื่อยก็พักผ่อนบ้างนะเค้าเป็นห่วง” แอบพูดให้ผมรู้สึกมีความสุขได้ตลอดเวลาจริงๆ
เลยละครับ ขนาดนั่งกินข้าวอยู่แท้ๆ
“แล้วรู้ไหมเวลาเดือนสิบสองหลับมันน่ารักแค่ไหน
คราวหลังถ้าหึงก็เหวี่ยงได้นะ อย่าเงียบ…”
“ทำไมละ?
เค้ากำลังปรับตัวอยู่นะ”
“ก็ถ้าไม่เหวี่ยง
เค้าจะไม่รู้นะสิว่าหึงมากแค่ไหนแล้วจะไม่รู้ด้วยว่ารัก”
“แค่นี้ก็รักจะบ้าอยู่แล้ว”
เดือนสิบสองก้มหน้าลงไปตักข้าวผัดกินพูดอู้อี้ในลำคอแต่ผมก็ได้ยิน
ท่าทางจะเขินครับถึงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเลย
“เค้าได้ยินนะ”
ผมยื่นมือข้างหนึ่งไปขยี้หัวคนตรงหน้า “รักเดือนสิบสองเหมือนกันครับ”
>////////////////////<
ให้ตาย!
เลี่ยนวะพ่อเลี้ยง… ตั้งแต่มีเมียเด็กผมมักจะทำตัวเด็กลงเสมอ
ว่ามะ…
___________________________________
ครบ %
#อย่าปล่อยให้บ้านหลังนี้เงียบบบบบบบบบบบบ...
อิตาพ่อเลี้ยงของเจ้ ทำคนแก่หัวใจเต้นแรง...
แกจะทำตัวเด็กไปไหน 30 แล้วนะที่ร๊ากกกก
ฮาาาาาาาาาาาาา
จงเม้น จงเม้น จงเม้น
ถ้าอ่านแล้วไม่เม้น ไม่อัพ #ขู่ นี่พูดเลย
ฮาาาาาาาาาาาาาาาา
(หัวเราะอย่างสะใจ บ้าาาาาา!)
แกจะทำตัวเด็กไปไหน 30 แล้วนะที่ร๊ากกกก
ฮาาาาาาาาาาาาา
จงเม้น จงเม้น จงเม้น
ถ้าอ่านแล้วไม่เม้น ไม่อัพ #ขู่ นี่พูดเลย
ฮาาาาาาาาาาาาาาาา
(หัวเราะอย่างสะใจ บ้าาาาาา!)