luscious, 17
ตัวแปรของหัวใจ
เดือนสิบสอง
เช้านี้อากาศดีมากๆ
เลยละครับตั้งแต่ที่ผมหายป่วยและได้ถอดสายน้ำเกลือเหมือนสวรรค์เลยทีเดียวเพราะรู้สึกว่าช่วงที่ตัวเองไม่สบายจะทำอะไรลำบากมากๆ
แต่ดีอยู่อย่างหนึ่งคือพ่อเลี้ยงดูแลผมไม่ห่างเลยทีเดียวแถมไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ผมด้วย
หรือกลัวผมจะแพร่เชื้อโรคก็ไม่รู้สิครับ…
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ดูมีความสุขแต่เงียบสงบสำหรับผมเพราะไม่ได้ทะเลาะกับไอ้จา
ผมเคยถามพ่อเลี้ยงแต่เค้าก็ไม่ยอมบอกรายละเอียดอะไรมากมายนักบอกแค่ว่ามันต้องไปอยู่กับคนอื่น
แล้วคนอื่นที่ว่าคือใครแต่ก็ช่างเถอะสักวันผมก็รู้เองแหละ…ว่ามะ
ผมตื่นมาเดินรับลมยามเช้าพร้อมๆ
กับบรรยากาศโคตรสบาย
วันนี้ผมต้องเป็นงานวันเกิดของพ่อคุณป้าสร้อยฟ้าซึ่งไม่อยากไปหรอกครับแต่เพราะรับปากไปแล้วผมเลยต้องไป
นี่สิประเด็น
“พี่แหวนพ่อเลี้ยงละ”
ผมเดินกลับเข้าบ้านก็เห็นพี่แหวนกำลังปัดกวาดเช็ดถูอยู่
ร้องถามออกไปเพราะเมื่อเช้าที่ตื่นขึ้นมาพ่อเลี้ยงก็ไม่ได้อยู่ที่ห้องแล้ว
แถมปกติเวลานี้เค้าจะทำอาหารมาให้ผมกินพร้อมกับยาแต่นี่ดันหายไปไหนก็ไม่รู้
“เคลียร์เอกสารอยู่ในห้องทำงานค่ะ
หิวหรือเปล่าเดี๋ยวพี่ไปทำอะไรให้กินรองท้องก่อนจะได้กินยาไงค่ะ” พี่แหวนบอกอย่างอารมณ์ดีเพราะตั้งแต่ที่มาอยู่ก็นับครั้งได้มั้งที่ทำอะไรให้ผมกินเหมือนจะไม่ถูกปากเท่าฝีมือของพ่อเลี้ยงเลยล่ะครับ
“ไม่เป็นไรครับ กลัวอ้วกอีก” ผมบอกยิ้มๆ
ก่อนจะเดินไปหาพ่อเลี้ยงที่ห้องทำงานเคาะประตูพอเป็นพิธีเดี๋ยวเค้าจะหาว่าผมไม่มีมารยาทอีก
พอเดินเข้าไปเหมือนเค้าจะไม่สนใจผมเลยครับทำยังกับไม่เห็นว่าผมอยู่ในห้อง
แฮ่ม,
ผมกระแฮ่มออกมาเพื่อให้เค้ารู้ว่าผมอยู่ด้วยแต่ดูเหมือนจะไม่สนใจเลยแฮะหรือต้องบอกทักทายเป็นคำพูด
"พ่อเลี้ยง! เค้าหิวข้าวแล้ว..."
เปล่งเสียงออดอ้อนออกไปเหมือนอย่างทุกครั้งแต่ปฏิกิริยาที่เห็นกลับขัดหูขัดตาผมมากๆ
พ่อเลี้ยงดูไม่ค่อยสนใจผมเลยครับ
"หิวก็ไปบอกแหวนหาอะไรให้กินก่อนสิ
เค้าไม่ว่างกำลังตรวจเอกสารอยู่"
กว่าจะตอบได้ทำเอาผมเกือบปรี๊ดแตกเลยทีเดียว
แถมเวลาตอบก็ไม่ยอมมองหน้าผมอีกครับ
"ไม่เอา! นะๆ
ไปทำให้เค้ากินหน่อย" อ้อนต่อครับเพราะผมอยากกินข้าวฝีมือของเค้าและคงไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่อยากเพราะลูกก็ด้วย
"เดือนสิบสอง อย่าดื้อ...
เค้าทำงานอยู่!!!" พ่อเลี้ยงเริ่มขึ้นเสียงครับแต่ไม่ดังมากเท่าไหร่ผมก็พอเข้าใจ
แต่งานอะไรจะสำคัญขนาดนั้นทั้งๆ ที่เคยรับปากไว้เองแท้ๆ ว่าจะทำอาหารให้ผมกินทุกมื้อ
“…”
ผมเงียบไปสักพักเพราะกำลังประมวลผลอยู่และรอว่าพ่อเลี้ยงจะพูดอะไรแต่หรือเปล่า
แต่ไม่เลยเค้าไม่ปริปากพูดสักคำแถมยังเงียบเอาแต่ก้มหน้าทำงานไม่สนใจผม
"งาน งาน งาน
ไม่ทำสักวันจะตายไหม? สนใจกันบ้างสิ!!!"
สุดท้ายเป็นไงละครับอารมณ์เหวี่ยงวีนแบบเดิมๆ
ก็กลับมาอีกจนได้ พอเลี้ยงหยุดปากกาที่กำลังเขียนอยู่ในมือลงก่อนจะค่อยๆ
เงยหน้าขึ้นมาสบตาผมสีหน้าของเค้าเครียดพอใช้ได้แต่ผมก็ไม่รู้ว่ากำลังเครียดเรื่องอะไรกันแน่
"อย่างอแงได้ไหม?"
น้ำเสียงที่ตอบกลับมาไม่มีคำว่าอ่อนโยนมีแค่ความรู้สึกที่บอกว่าผมกำลังงี่เง่าและทำตัวเหมือนเดิมใส่เค้า
ทั้งๆ ที่เค้าก็บอกอยู่แล้วว่าทำงาน
"..." ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
เพราะน้ำตากำลังไหลอยู่…
ผมได้แต่เงียบจ้องหน้าเข้าเม้มปากเข้าหากันพร้อมทั้งสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อระงับอารมณ์แต่น้ำตากลับไหลออกมาและดูเหมือนว่าผมจะหยุดไม่ได้แล้วสิครับ
"เดือนสิบสอง" พอเห็นว่าผมร้องไห้พ่อเลี้ยงก็เอ่ยเรียกชื่อผมอย่างแผ่วเบาแต่จะมาเรียกตอนนี้มันไม่สายไปหน่อยเหรอ
ในเมื่อผมร้องไห้ไปแล้ว
ผมรู้ว่าตัวเองแย่แค่ไหนที่เอาแต่ใจตัวเองและอยากให้เค้าสนใจ
แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าการอยู่คนเดียวมันเหงาแค่ไหน…ผมเคยรับรู้แค่การมีชีวิตอยู่ของตัวเองไปวันๆ
มองดูพ่อกับแม่เอาแต่ทำงานและละเลยที่จะดูแลสนใจจนสุดท้ายผมก็ต้องทำตัวแย่ๆ
เพื่อเรียกร้องความสนใจจากพวกท่าน มันควรจะได้ผลแต่ยิ่งดูแย่เพราะความห่างเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จนผมได้เจอเค้า…พ่อเลี้ยงจอมพล
"ผมแค่อยากให้พ่อเลี้ยงสนใจ
อยากกินอาหารที่พ่อเลี้ยงทำให้ทุกวันๆ แค่นี้ผิดเหรอ
ถ้าลำบากมากนักก็เชิญก้มหน้าอยู่กับงานต่อไปละกัน" ผมยกยิ้มที่มุมปากปาดน้ำตาทิ้งไปก่อนจะเดินถอยหลังออกมา
"เดือน..."
"แค่อยากถูกเอาใจใส่ไม่ใช่ละเลย
พออยากเมื่อไหร่ก็มาอ้อนสินะ..."
TwT มันคือประโยคที่ฟังดูแย่มากสำหรับผม
แต่มันจะไม่แย่ไปมากกว่านี้ถ้าผมจะรีบเดินออกมาจากห้องซะ
ปัง!
ผมปิดประตูห้องด้วยแรงที่มากโขก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่ห้องไม่ใช่ห้องของจาวาหรอกครับ…ผมก็แค่อยากรู้ว่าพ่อเลี้ยงจะทำยังไงต่อไปก็เท่านั้นเอง
แอด,
ผมกลับเข้าห้องมาได้ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงห่วงใยของพี่แหวน
“ทะเลาะกันเหรอค่ะ”
“เค้าไม่สนใจผมเลยเอาแต่ทำงาน”
ผมนั่งชันเข่าก้มหน้าฟุบลงไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
รู้สึกแย่จังเลยครับที่เจอแบบนี้…
“โธ่! อย่าร้องไห้สิค่ะ”
พี่แหวนเดินเข้ามาก่อนจะเอื้อมมือมาแตะที่ฝ่ามือ
ผมเอียงคอก้มลงไปมองเพราะพี่แหวนนั่งยองๆ อยู่ข้างขอบเตียง
น้ำตาที่แอบแก้มทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของผมดูพล่ามัวไปหมดเลยครับ
“ฮือๆ ผะ…ผมทำตัวแย่อีกแล้ว
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ผมก็เอาแต่ใจตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทำไมนิสัยแย่ๆ
แบบนี้ถึงไม่หายไปสักที” ผมผละออกจากการกอดเข่าตัวเองเป็นก้มลงไปกอดพี่แหวนแทน
ผมรู้ว่าตัวเองผิดแต่ด้วยนิสัยเดิมๆ
กลับทำให้ผมไม่อยากยอมรับความจริงเลย
!!!
“พี่แหวนมันเหม็น” หลังจากที่ผมร้องไห้ไปซะยกใหญ่งอแงกับนิสัยของตัวเองอยู่สักพักก็บอกให้พี่แหวนไปทำอะไรมาให้กินเพราะรู้สึกว่าไม่ใช่แค่ผมแล้วมั้งที่หิวลืมไปว่าตัวเองไม่ได้มีอยู่คนเดียวแล้ว
“ทนกินหน่อยนะคะ”
ผมยู่หน้าใส่ข้าวต้มกุ้งตรงหน้าเพราะรู้สึกไม่ค่อยชอบกลิ่นของมันเลย
ถึงพี่แหวนจะไม่ใส่ผักมาด้วยก็ตาม
“อยากอ้วก”
เงยหน้าขึ้นไปสบตาพี่แหวนแทบอยากจะร้องไห้เพราะผมรู้สึกว่ามันเหม็นจริงๆ
“แต่พะ…เอ่อ
พี่แหวนตั้งใจทำเต็มที่เลยนะคะเนี่ย”
“ไม่เอา ไม่กินแล้ว” เลื่อนถ้วยข้าวต้มกุ้งไปไกลๆ
เพราะความรู้สึกมันบอกว่าหากอยู่ใกล้กว่านี้ผมต้องอ้วกแตกแน่ๆ
“โธ่! กินสักนิดนะคะจะได้กินยานี่ก็เลยเวลามานานแล้ว”
“สองคำพอมั้ย”
ผมขวดคิ้วพร้อมกับชูสองนิ้วให้พี่แหวน อย่าว่าแต่สองเลยแค่คำเดียวก็จะอ้วกแล้วครับ
TwT
“ก็ยังดีค่ะ ถ้าเยอะกว่านั้นได้ยิ่งดี” ผมพยักหน้าก่อนจะยอมกินแต่ขอบอกกว่าจะกลืนเข้าไปได้นี่ลำบากสุดๆ
ไปเลย ผมห่างหายจากการแพ้ท้องมานานพอสมควรแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะกลับมาอีก…
“พี่แหวนผม…”
อะ อ้วกก กก แค่กๆ
ดีนะที่อุดปากตัวเองไว้ทันไม่งั้นเต็มห้องแน่นอนคำแรกที่ว่ายากพอเจอคำที่สองเข้าไปผมเกือบไม่รอดต้องวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีเลยครับ
ให้ตายสิทำไมร่างกายมันถึงไม่ตอบรับเลยหรือว่าลูกจะไม่ชอบข้าวต้มกุ้งแล้วลูกจะไปรู้ได้ยังไงละในเมื่อผมท้องแค่สามเดือนเอง
วุ้ย ! เลิกสงสัยดีกว่าครับ
“ไม่ไหว ไม่เอาไม่กินแล้ว ฮือๆ”
“ค่ะๆ ไม่กินก็ไม่กิน งั้นกินนมแทนได้ไหมค่ะ”
“ครับ”
ผมพยักหน้าก่อนที่พี่แหวนจะช่วยพยุงไปนั่งที่เตียงเหมือนเดิม
พี่แหวนถือถ้วยข้าวต้มกุ้งออกไปด้วยส่วนผมก็รอว่าเมื่อไหร่พี่แกจะเอานมมาให้กิน
อย่างน้อยกินนมก็ไม่อ้วก
ผมนอนรออยู่ตั้งนานแนะพี่แหวนก็ยังไม่เข้ามาสักทีแต่พอจะเดินออกไปตามประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา
“ขอโทษค่ะที่ให้รอ พอดีพี่เตรียมยามาด้วย”
ผมยิ้ก่อนจะเอื้อมมือไปรับแก้วนมที่พี่แหวนถืออยู่มาดื่มจนหมดแก้วภายในพริบตาเดียว
อิ่มแปร่เลยคราวนี้…
“กินยาต่อนะคะ”
ผมพยักหน้าอย่างว่าง่ายก่อนจะรับยามากิน
ถ้าไม่ท้องอย่าหวังว่ายาพวกนี้จะตกถึงท้องผมเลยครับ…ไม่มีทาง!!!
“ผมนอนพักนะครับ”
“เย็นนี้คุณหนูต้องไปงานกับพ่อเลี้ยงนะคะ”
ไม่ตอบแต่พยักหน้าไปงั้นแหละครับเพราะถึงยังไงผมก็รับปากเค้าไปแล้วนี่
ถึงจะโกรธกันแต่อย่างน้อยก็ควรทำตามคำพูดของตัวเองเค้าจะได้ไม่ว่าผมอีก
ชิส์!
ตาแก่บ้า!!!!
จอมพล
ประสาทจะกิน
จะมีวันไหนบ้างไหมที่ผมจะไม่ทะเลาะกับเดือนสิบสอง…แต่จะว่าไปผมก็มีส่วนผิดที่ไม่ค่อยสนใจเค้าเอาแต่ทำงานมั้ง
แต่งานที่ทำในตอนนี้มันก็สำคัญจนผมไม่อยากวางมือเลยก็ว่าได้เพราะรายจ่ายของสองเดือนที่ผ่านมาดูจะเยอะกว่ารายได้
ช่วงหลังๆ มานี่ผมมัวแต่สนใจและตามง้อเดือนสิบสองจนเรื่องที่สวนปาล์มละเลยไป
แต่ก็น่ะจบงานวันเกิดคุณอรุณผมคงต้องจัดการอะไรบ้างแล้วไม่งั้นระบบที่น่าเชื่อถืออาจจะสั่นลงได้
ปล่อยเรื่องงานไปก่อนละกันตอนนี้เข้าเรื่องเมียดีกว่า
จะง้อยังไงดูท่าจะโกรธหนักแถมร้องไห้อีกต่างหากพยายามแล้วนะที่จะไม่ทำให้ร้องไห้แต่ที่ไหนได้ความพยายามกลับไม่เป็นผล
ผมเดินออกมาจากห้องทำงานหลังจากที่เดือนสิบสองวิ่งร้องไห้กลับห้องไป
เดินวนไปเวียนมาอยู่หน้าห้องนั่นแหละครับเพราะส่งแหวนเข้าไปคุยแล้วระหว่างที่รอผมก็เข้าครัวไปทำข้าวต้มกุ้งไว้ให้พอแหวนออกมาผมก็จัดฉากซะเพราะไม่อยากให้เดือนสิบสองรู้ว่าข้าวต้มนี้ผมเป็นคนทำ
“จะดีเหรอค่ะพ่อเลี้ยง”
“ดีสิ! โกรธฉันอยู่แบบนี้ถ้าบอกไม่ตรงๆ
ไม่มีทางกินหรอก” ผมยื่นข้าวต้มกุ้งให้แหวนไปก่อนที่เจ้าตัวจะรับเอาไว้แล้วพาเข้าไปในห้องส่วนผมก็นั่งรออยู่ด้านนอก
แต่ทว่าแหวนเข้าไปในห้องแค่ไม่นานก็ถือข้าวต้มออกมาผมยิ้มแก้มปริเลยละครับแต่ที่ไหนได้ข้าวต้มที่แหวนถือกลับมาเหมือนเดือนสิบสองจะไม่แตะเลย
“มีอะไร ไม่กินเหรอ?”
“กินได้แค่คำเดียวค่ะ ส่วนคำที่สองอ้วกออกหมดเลย
แถมยังบ่นว่าเหม็น…”
งานเข้า! ไม่กินไม่ว่าแต่ไอ้เหม็นนี่มันอะไรกันครับก็ไหนบอกว่าชอบอาหารที่ผมทำให้กินไง
“เดี๋ยวแหวนไปเตรียมนมกับยาให้เธอก่อนนะคะ”
ผมพยักหน้ารับก่อนจะนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟา
แหวนหายเข้าไปในครัวสักครู่ก็เดินกลับออกมาก่อนจะหายเข้าไปในห้องต่อไอ้ผมก็นั่งคิดสิครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ทำไมเดือนสิบสองถึงอ้วกพอกินข้าวต้มที่ผมทำ -_-!
นั่งคิดเท่าไหร่ก็ไม่ออกจนแหวนเดินกลับออกมาผมหันไปมองก็เห็นว่าแก้วนมที่ถือเข้าไปตอนแรกพอกลับออกมากลับว่างเปล่า
ให้ตายสิ!
“บอกไปหรือเปล่าว่าเย็นนี้ต้องไปงานกับฉัน”
โกรธครับ โกรธมากๆ ด้วย…
“บอกไปแล้วค่ะ เธอจะไป”
“ก็ดี!”
ว่าไปก่อนจะกระทืบเท้าเดินหายเข้าไปในห้องทำงานต่อ…
อารมณ์เสีย! เมียไม่ปลื้ม…
ตกเย็น
ผมไม่ได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องเพราะเดาอารมณ์ตัวเองไม่ถูกรวมไปถึงอารมณ์ของเดือนสิบสองด้วย…ผมเลยสั่งให้แหวนไปเตรียมเสื้อผ้ามาให้พี่ห้องของจา
ทำไมผมต้องหนีด้วยทั้งๆ
ที่ตัวเองไม่เคยเป็นแบบนี้แต่เพราะคนที่ต้องง้อคือเดือนสิบสองซึ่งเป็นคนเดียวที่ผมต้องยอม…
เกิดมาไม่เคยยอมใคร แต่กลับต้องมายอมเมีย!!! จบแล้วชีวิตพ่อเลี้ยงอำนาจที่สร้างมาพังเพราะคำว่า
‘เมีย’
“เทพเมื่อไหร่เดือนสิบสองจะมาไปตามสิ”
ผมยืนรออยู่ที่รถนานพอสมควรก็ไม่เห็นว่าเดือนสิบสองจะออกมาสักทีใจหนึ่งก็กลัวว่าเจ้าตัวจะดื้อไม่ยอมไป
เฮ้อ!
“มาแล้วค่ะ มาแล้ว”
เสียงของแหวนดังขึ้นมาแต่ใกล้ก่อนที่เดือนสิบสองจะเดินตามหลังมาเด็กดื้อในชุดสูทสีดำผูกโบว์เล็กๆ
ที่คอดูน่ารักน่านับกดมากๆ เลยครับ แต่หน้าตานี่สิชาเย็นซะเหลือเกิน
“มาแล้วก็ขึ้นรถ เสียเวลามานานแล้ว”
ผมทำเสียงดุไปงั้นก่อนที่เทพจะเดินมาเปิดประตูให้ผมขึ้นไปนั่งบนรถก็เห็นว่าเดินสิบสองอ้อมไปอีกทางแต่กลับไม่ยอมขึ้นมานั่งด้านหลังกับผมดันไปนั่งข้างๆ
คนขับทำเอาอารมณ์พ่อเลี้ยงฉุนไปกันใหญ่
ให้มันได้อย่างนี้สิ!!!
งานเลี้ยงของคุณอรุณถูกจัดขึ้นที่บ้านพักริมชายหาดบรรยากาศดีมากครับเพราะได้ยินเสียงครื้นซัดเข้าฝังด้วย
รถคันที่ผมนั่งมาก็เข้ามาจอดยังสถานที่จัดงานเรียบร้อยแล้วเดือนสิบสองเดินลงจากรถโดยที่เทพไม่ทันวิ่งไปเปิดประตูให้ส่วนผมก็รีบเปิดตามลงมาทันที
หมับ
ผมรีบเดินอ้อมไปคว้าข้อมือเดือนสิบสองเอาไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวกำลังจะเดินเข้าไปในงาน
ทำเหมือนรู้จักคนอื่นๆ แนะครับทั้งๆ ที่ไม่รู้จักใครเลย
“ที่จับเพราะไม่อยากให้หลงเดี๋ยวจะลำบากคนอื่น”
ปากเหรอไอ้พ่อเลี้ยงเดี๋ยวเค้าก็โกรธไปกันใหญ่หรอก
ทำไมไม่พูดไปละว่าเป็นห่วงเค้านะ
“…”
ไม่ตอบครับแต่ยอมให้ผมจับมืออย่างว่าง่ายผมเลยแกล้งกระชากจนร่างเล็กเซมาชนอมยิ้มสะใจมีความสุขก่อนจะรีบเดินเข้าไปในงาน
หน้างานเจอคุณอรุณกับสร้อยฟ้ากำลังยืนรับแขกกันอยู่เลยครับ
“สวัสดีครับคุณอรุณ”
ผมปล่อยมือจากเดือนสิบสองก่อนจะยกมือไหว้ชายชราตรงหน้า
“นึกว่าหนูจา”
เสียงของคุณอรุณทักทายก่อนจะเสมองไปทางเดือนสิบสอง
พอถูกจับตามองเข้ามือเล็กก็ยกไหว้คนตรงหน้าทันที
“เปล่าครับ”
ผมยกยิ้มก่อนจะก้มลงไปมองสีหน้าเดือนสิบสองดูไม่ค่อยดีเลยครับแต่กลับฝืนยิ้มเมื่อถูกจ้องมองนานๆ
“เทพเอาของขวัญมา…สุขสันต์วันเกิดนะครับ”
เมื่อเทพยื่นกล้องของขวัญไปผมก็อวยพรท่านทันทีไม่อยากจะบอกว่าผมไม่ได้เป็นคนเลือกแต่ให้เทพจัดการทุกอย่างเพราะผมไม่ว่าง
“น่าจะเปลี่ยนจากของขวัญเป็นร่วมหุ้นกันดีกว่านะครับ”
“อย่าเลยครับ”
ปฏิเสธอย่างไม่เหลือเยื้อใยเลยทีเดียว
“ไม่ลองคิดดูหน่อยเหรอครับพ่อเลี้ยง”
เสียงของคุณอรุณยังคงดังขึ้นมาส่วนคนข้างๆ
ก็ขยับเข้ามาหาผมพร้อมทั้งจับมือเอาไว้ผมก้มหน้าลงไปมองก็เจอสายตาคู่เล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตา
“มึน…”
“ผมขอตัวสักครู่นะครับ”
พอได้ยินคำพูดของเดือนสิบสองผมก็รีบบอกปัดก่อนจะเดินออกมาทันที
ผมพาเดือนสิบสองมานั่งรับลมที่ชายหาดส่วนเทพก็ยืนคุ้มกันอยู่ไม่ไกลนัก
“ก่อนมาได้กินยามาหรือยัง” ผมยื่นน้ำที่ถือติดมือมาให้กับเดือนสิบสองเจ้าตัวรับไปดื่มก่อนจะพยักหน้าเสียงลมหายใจหอบถี่ๆ
เชียวครับ
“…”
“กลับบ้านไหมเดี๋ยวให้เทพไปส่ง”
เอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากคนตรงหน้าตัวก็ไม่ได้ร้อนแต่ทำไม่หน้าซีดก็ไม่รู้สิครับ
“ถ้ารู้ว่าไม่ไหวแล้วจะมาทำไม”
“ไม่อยากผิดสัญญา”
เหมือนถูกคำพูดของเมียตอกหน้าจังๆ
เพราะผมไปสัญญาเอาไว้ว่าจะทำอาหารให้กินแต่เพราะมีงานที่ต้องเคลียร์ก็เลยผิดสัญญาไปแต่ผมก็แอบไปทำให้กินอยู่ดีแม้ว่าจะกินไม่ได้ก็ตาม
“เฮ้อ! ขอโทษ” ผมถอนหายใจก่อนจะนั่งลงที่โขดหินข้างๆ
กับเดือนสิบสองจับมือร่างเล็กเอาไว้
“ฉันสามารถพูดคำๆ
นี้ได้ทั้งชีวิตแม้ว่าตัวเองจะผิดหรือไม่ผิดก็ตาม
ฉันไม่อยากให้เราสองคนต้องโกรธกันเลยมันรู้สึกแย่ที่จู่ๆ
ก็ถูกสายตาคนที่เรารักมองกลับมาอย่างเย็นชา”
“…”
“ฉันไม่เบื่อหรอกนะถ้าต้องเจอนิสัยของเดือนสิบสองทุกวัน
เพราะฉันคิดในทางกลับกันเสมอหากไม่เจอฉันก็จะไม่รู้ว่ามันสำคัญมากแค่ไหน”
ผมพูดออกมาในขณะที่ร่างเล็กเอาแต่เงียบแต่มีบางอย่างทำให้ผมรับรู้ได้ว่าเดือนสิบสองกำลังฟังอยู่เพราะมือเล็กบีบมือผมจนแน่น
“จอมพล เดือนสิบสองขอโทษ”
ผมชอบจังเวลาที่เดือนสิบสองแทนตัวเองแบบนี้และเรียกชื่อผมถึงอายุเราจะห่างกันแต่มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ
ราวกับว่าแสงสว่างที่เติมเต็มหัวใจผมคือเดือนสิบสอง
“บอกแล้วว่าเราต้องค่อยๆ ปรับตัว
ถ้าเดือนสิบสองเป็นไฟ จอมพลจะเป็นน้ำ…”
“แล้วถ้าจอมพลเป็นไฟ เดือนสิบสองเป็นไฟละ?
ใครจะเป็นน้ำ”
“ก็เจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องนี่ไงเป็นน้ำ”
ผมก้มหน้าลงไปที่หน้าท้องของเดือนสิบสองก่อนจะกดจูบเบาๆ
อย่างน้อยก็ได้เคลียร์กันแล้วถึงแม้ว่าจะไม่ได้เคลียร์ที่บ้านก็เถอะ
นี่ถ้าเดือนสิบสองไม่ยอมมางานกับผมรับรองได้ว่าเราคงโกรธกันไปอีกหลายวัน
แต่เพราะนิสัยที่เปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัวของเดือนสิบสองนี่แหละครับ
เมื่อก่อนชอบเอาชนะ
แต่ในวันนี้มันไม่ใช่จะรู้บ้างไหมนะว่าการปรับตัวของตนเองมันเปลี่ยนไปตั้งเยอะแล้ว
“เค้าหายมึนแล้ว เราเข้าไปในงานกันเถอะ”
“ไม่ละ บรรยากาศข้างนอกสบายกว่าเยอะ”
ผมบอกปฏิเสธก่อนจะหันไปสบตากับเดือนสิบสอง
“หืม ?”
“ในงานมีแต่พวกที่ชอบใส่หน้ากากเข้าหากัน
ฉันเบื่อที่ต้องรับฟังคำว่า ‘มาร่วมหุ้นกับผมไหมครับ’ เต็มทน นี่ขนาดปฏิเสธไปเป็นร้อยๆ
ครั้งยังตามตื้อไม่เลิก” เดือนสิบสองยิ้มแก้มปริพอได้ยินน้ำเสียงของผมที่ล้อเลียนคำพูดของคนอื่น
“ทำไมพ่อเลี้ยงไม่ร่วมหุ้นไปละจะได้หมดเรื่อง”
“ฉันไม่อยากทำรีสอร์ทเพราะสวนปาล์มคือรากฐานที่มีมาแต่รุ่นทวด
เมื่อมันแก่ตัวและตายไปเราก็สามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้ด้วยการปลูกทดแทน
แต่สำหรับรีสอร์ทถ้าวันหนึ่งมันเกิดพังลงเราก็จะนึกเสียดายธรรมดาดีๆ
ที่เคยสร้างไว้และคิดว่าไม่น่าสร้างรีสอร์ทเลย”
“พี่เลี้ยงนี่หัวโบราณจริงๆ เลย”
“อย่างน้อยก็เปลี่ยนใจเมียคุณหนูให้ยอมมาอยู่ป่าเขาแบบนี้ได้ก็แล้วกัน”
“ครับๆ ไม่เถียง”
“แต่ขออย่าง…”
ผมว่าแล้วรั้งเอวเล็กเข้ามากอดเอาไว้จนแน่น
“อย่าทำตัวป่าเถื่อนแบบฉันก็พอ
เดี๋ยวพี่จะกำราบไม่อยู่ ฮา”
“แก่บ้า”
“นี่ด่าว่าแก่เหรอ อุตส่าห์อัพให้ดูเด็กลงนะเนี่ย”
“เด็กตรงไหน ชิส์! เดี๋ยวเหอะ”
“ฮาๆๆๆๆๆ ครับๆ แก่ก็อร่อยนะไม่งั้นคงไม่ท้อง”
“นี่!!!”
สุดท้ายเราก็ดีกันแถมดูเหมือนจะรักกันเรื่อยๆ
ด้วยสิครับ… ผมชอบจังเวลาที่เดือนสิบสองโกรธแต่สีหน้ากลับเหมือนกำลังอ้อนอย่างตอนนี้ไง
ไม่ได้ตั้งใจโกรธแต่กำลังเขิน
จุ๊บ >////////////<
ขโมยหอมแก้มซะเลย คนนี้รักแทบบ้าแล้วครับ…
______________________________
ครบ
พ่อเลี้ยงเจ้น่ารักเสมอออออออออออ
ยอมเมีย!!!!!!!
พ่อเลี้ยงเจ้น่ารักเสมอออออออออออ
ยอมเมีย!!!!!!!
จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆ
กรี้ดดดดดด มาแล้วๆๆๆๆ
ตอบลบเจิมรอจ้า
ตอบลบรออ
ตอบลบซวยแล้วพ่อเลี้ยง เมียงอลลลล 5555
ตอบลบคนท้องก็งี้ เอาใจเค้าหน่อย
ตอบลบ555 รีบเคลียเลยนะพ่อเลี้ยงอารมคนท้องด้วยนะไม่ปลอดภัย รอค้าาา
ตอบลบรออออออ. อ
ตอบลบรออัพๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบอยากอ่านแล้วๆ รออยู่นะจ๊ะ
ตอบลบเดือนสิบสิองน่ารัก ชอบมากด้วย♡♡♡
กรี๊ดดด สมน้ำหน้าพ่อเลี้ยง นั่นใคร ? แม่ของลูกใช่มั้ย ? ตอบ !!! 555555
ตอบลบกริ๊ด!!! เปงไงล่ะพ่อเลี้ยงเมียน้อยใจน่ะเห็นมั้ย!!
ตอบลบเดือนสิบสองเค้าแค่อยากให้พ่อของลูกเค้าเอาใจใส่บางไม่ใช่ทำแต่งานนะ...
รอยุนะคะมาต่อไวๆน้าาาา
รอ
ตอบลบเมียกำลังท้องนะตามใจมากๆหน่อยสิ
ตอบลบน้องอ้อนเก่งจัง^^
ตอบลบกรี้ดดดดดด พ่อเลี้ยงงง เมียงอนนนนแล้วววว >.,<
ตอบลบรอง่าาาาาาาา พ่อเลี้ยงอย่าดื้อดิ คนท้องเค้าอ้อนอะ
ตอบลบซวยแล้ว 55555
ตอบลบคนท้องนี่แปรปรวนดีเนอะ 555555 รอที่เหลือจ้าา
ตอบลบงอแงอีกแล้ว พ่อเลี้ยงง้อด่วน
ตอบลบอัพต่อออออออ
น่ารักมากเลยค่ะ เค้ารอยู่นะ
ตอบลบรอค่าาาาา พ่อเลี้ยงอ่ะะ ทำงี้ได้ไงงงงงงง
ตอบลบอย่าขัดใจมนุษย์เมียสิพ่อเลี้ยงงงงงงงงง
ตอบลบอารมณ์ล้วน ๆ คนท้องอ่ะนะ เข้าใจกันหน่อย
ตอบลบเข้าใจๆๆ คนท้อง
ตอบลบพ่อเลี้ยงใจร้าย
ตอบลบเค้าสงสารเดือนสองอ่ะ:(
ก็เดือนสิบสิงอยากอ้อนอ่าาาา
ตอบลบพ่อเลี้ยงนิสัยไม่ดีเลยอะ
เดือนสิบสองเอ๋ยก็นะ.....
ตอบลบน้องงอนแล้วนะ พ่อเลี้ยงงงง ทำไมไม่รีบไปง้อ
ตอบลบรอค่ะ
ตอบลบรอค่ะอย่างอนนานนะรีบมาง้อเลย
ตอบลบคุณแม่อย่าน้อยใจน่ะค่ะ
ตอบลบรีบง้ออเลยยย
ตอบลบสนุกมากค่ะ
ตอบลบรอ ร๊อ รอ อ่านต่ออยู่นะค่ะ สนุกมาก
ตอบลบพ่อเลี้ยงใจร้ายยยยยง่าาาา T^T
ตอบลบกริ๊ดดด ดีกันแล้วว
ตอบลบคุณหนูน่ารักกกกกกกกกกกกกกกก
ตอบลบชอบเวลาที่คุณหนูกับพ่อเลี้ยงแทนตัวเองว่าเค้าอ่ะ
มันดุน่ารักงุ้งงิ้งมุ้งมิ้งดี555555555555555
เอิ๊กๆๆ น่ารัก เดือนสิบสอง จอมพล >.<
ตอบลบ"แก่ก็อร่อยนะไม่งั้นคงไม่ท้อง" โอ้มายยยยยยย คุณพระ!!!!!!!!
ตอบลบคุณหนูก็น่ารักขึ้นเยอะนะ
ตอบลบมาแล้วๆน่ารักมาก คุณหนูเดือนสิบสอง
ตอบลบน่ารักอ่ะ โกรธกันไม้่นาน5555
ตอบลบฟิน^/////^
น่ารักมากๆเลย
ตอบลบเขินเลยยย
ตอบลบอ้ากกกก น่ารักสุดๆ
ตอบลบมุ้งมิ้งน่ารักอ่ะ ริมทะเล สายลม สองเรา เหมาะแก่การปรับความเข้าใจผุดๆ
ตอบลบกรีดดดดดดดดดดดดน่ารักอ่ะ เขิลลลลลลล (>/////<)
ตอบลบพ่อเลี้ยงมุ้งมิ้งขึ้นทุกวันๆ น่ารักดี
ตอบลบน่ารักจังในทีสุดก็ดีกัน
ตอบลบจะหวานกันไปไหนนนนนน โอ๊ยยยยยยย มุ้งมิ้งเว่ออออ
ตอบลบ