วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

luscious, 25




luscious, 25
ความรู้สึกเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก



จอมพล
ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมตอนนี้เดือนสิบสองถึงมีสีหน้าบึ้งตึงและไม่ยอมสบตาผมจะอะไรซะอีกละถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ในห้องทำงานของผมในตอนนี้ด้วย!
ผมขอพูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้หน่อยละกันครับเพราะหลังจากที่เดือนสิบสองกลับมาอยู่กรุงเทพฯ มันก็ผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น ผมไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าจัดการเรื่องไอ้คมและนายอรุณจนทุกอย่างมันผ่านไปได้ด้วยดี ไอ้คมหายและออกจากโรงพยาบาลมาทำงานให้ผมอย่างเดิมส่วนนายอรุณก็ติดคุกไปตามระเบียบแต่เรื่องสร้อยฟ้ายังหาข้อสรุปไม่ได้เลย
หลังจากเคลียร์เรื่องยุ่งๆ ที่ตรังเสร็จผมก็เดินทางมากรุงเทพฯ โดยขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของเดือนสิบสองและดูเหมือนไทเปจะยอมช่วยอย่างว่าง่ายเลยทีเดียว และแน่นอนกว่าเผชิญหน้ากันของพวกเราหลังจากห่างกันหนึ่งอาทิตย์ผมก็แค่ใช้นิสัยเดิมแต่ดูเหมือนเดือนสิบสองจะใช้กับผมแค่นิดหน่อยเพราะเท่าที่รู้มาจากจานิสัยของเดือนสิบสองก่อนหน้ามันไม่ใช่แบบนี้
ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะเด็กดื้อเป็นคนพูดเรื่องลูกเอาไว้เองผมถึงได้มีสิทธิ์ดูแลเค้าด้วยก็เท่ากับว่ายิงปืนนัดเดียวได้ดูแลทั้งลูกแล้วก็แม่ของลูกเลยแม้ว่าจะพูดให้ดูเหมือนห่วงลูกมากกว่าก็ตาม แต่ขอบอกเลยว่าแม่ของลูกก็สำคัญไม่งั้นคงไม่มาตามกลับบ้านหรอก
อ่า, แต่ตอนนี้ผมกำลังเจอปัญหาและดูเหมือนเดือนสิบสองคงไม่ยอมกลับตรังง่ายๆ แน่นอน
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ผมเอ่ยถามหลังจากที่เงียบอยู่นาน เดือนสิบสองให้เวลาผมเข้าประชุมแค่ชั่วโมงเดียวผมก็พยายามแล้วนะแต่ก็ไม่ทันจริงๆ จนต้องขอเลื่อนไปอีกครึ่งชั่วโมงแต่ที่ไหนได้ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมาเจอกันอย่างจังแบบนี้

“วันนี้ กลับมาถึงไทยก็ตรงมาหาคุณ” จะพูดยังไงดีละครับแต่คงไม่โกหกหรอกเพราะผมเคยคบกับผู้หญิงคนนี้มาก่อนแต่เราสองคนก็ตัดสินใจเลิกรากันไปและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้และแน่นอนผมแอบรู้มาว่าเธอกำลังจะแต่งงาน

“แล้วมีอะไรให้ฉันช่วย” ผมถามแต่สายตาก็คอยมองเดือนสิบสองอยู่เป็นระยะถึงเราสองคนจะนั่งใกล้ๆ กันแต่เดือนสิบสองกลับไม่มองมาที่ผมเลยทีเดียว

“ก็เรื่องที่ตกลงกัน ฉันว่าจะเลื่อนวันแต่งงานเข้ามาหน่อยนะ”
พรึบ!
แทบจะทันทีที่เดือนสิบสองหันมามองหน้าผมสายตาบอกได้อย่างชัดเจนว่าโกรธมากๆ เร็วเท่าความคิดคนข้างๆ ก็ลุกพรวดขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้องทันทีผมจะเอ่ยปากเรียกยังไม่ทันเลยครับ
ปัง!
เสียงประตูที่คิดว่าดังแบบสุดๆ ไม่รู้ว่าโมโหหึงหรือโมโหที่ผมไม่ยอมพูดอะไรให้กระจ่างกันแน่

“ฉันต้องไปง้อเมีย ส่วนเรื่องงานแต่งและสถานที่คุยกับเซย์ได้เลย” ผมว่าก่อนจะลุกตามออกไปแต่เสียงของณิชาก็ดังขึ้นมาซะก่อน

“คนนี้เหรอแม่ของลูกที่เล่าให้ฟัง น่ารักกว่าที่คิดและไม่ยักรู้ว่าพ่อเลี้ยงนิยมกินเด็กผู้ชาย”
ณิชาว่าด้วยน้ำเสียงขำแต่ในคำพูดพวกนี้ไม่มีอะไรมากหรอกครับเพราะก่อนหน้าที่ผมจะมากรุงเทพฯ เราติดต่อกันโดยเธอเป็นฝ่ายติดต่อเข้ามาหาผมก่อน เราสองคนก็เลยได้คุยกันยาวผมและเธอจึงเล่าความเป็นไปของแต่ละคนให้ฟังกัน

“กินเด็กเป็นอมตะ” ผมบอกและยิ้มให้ณิชาไป

“แต่เชื่อแล้วว่าเด็กคนนี้ทำให้คุณเปลี่ยนไปจริงๆ ถ้าตอนนั้นคุณง้อฉันอย่างนี้เราสองคนคงแต่งงานกันไปแล้ว”

“ฉันดีใจนะที่ไม่ง้อเธอและอีกอย่างตอนนี้เธอก็กำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่ดีกว่าฉัน”

“ชิส์! พูดจาน่าตบมากๆ เลยนะจอมพล แต่ก็เอาเถอะเพราะถึงยังไงตอนนี้ฉันก็เลิกรักคุณไปนานแล้ว”
ผมเชื่อครับว่าที่ณิชาพูดเป็นความจริงถ้าไม่ป่านนี้เธอคงตั้งหน้าตั้งตาขอคืนดีกับผมไปนานแล้ว แต่เพราะพวกเรารู้จักกันมานานและสนิทกันจนเกินไปจึงทำให้ความรู้สึกที่มีมันเอนเอียงไปทางเพื่อนซะมากกว่า

“ครับๆ งั้นฉันขอตัว” ผมบอกลาอีกครั้งก่อนจะรีบวิ่งออกมาแต่ก็ไม่เจอเดือนสิบสองแล้วจึงรีบลงลิฟต์ไปเจอเจ้าตัวกำลังยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์พอดี ถือว่าพนักงานของผมทำหน้าที่ได้ดีมากเพราะกำลังกันไม่ให้เดือนสิบสองออกไปจากที่นี่

“เดือนสิบสอง” พอเจ้าของชื่อได้ยินเสียงผมก็รีบหันหน้ามามองทันทีก่อนจะเดินเข้ามาหาสีหน้าแววตาและท่าทางโกรธมากๆ
เพี๊ยะ!
ให้ตายสิถูกเมียตบหน้าต่อหน้าพนักงานของตัวเองมันอธิบายไม่ถูกแต่ที่แน่ๆ ทุกคนกำลังตกใจ

“ผมนะนิสัยเสียมากๆ เลยด้วย ถ้าไม่อธิบายให้กระจ่างผมจะ” เชื่อแล้วว่านิสัยเสียแถมมือยังหนักอีกต่างหากแต่ขอเถอะไอ้คำพูดต่อจากนี้
จุ๊บ >/////////////<
ก็ขอไปแล้วไงเพราะเดือนสิบสองพูดไม่ทันจบผมก็คว้าใบหน้าของเดือนสิบสองเข้ามาใกล้ๆ พร้อมทั้งประกบปากจูบทันที หนึ่งอาทิตย์ที่ไม่ได้จูบแทบไม่อยากผละออกเลยแต่เพราะเกรงใจพนักงานแถมคนตรงหน้ายังเอาแต่ดิ้นอีกต่างหาก

“ถ้าตบอีกจะจูบ” พอเห็นว่ามือเล็กกำลังจะฟาดลงมาตรงหน้าผมก็รีบพูดจาข่มขู่ไปทันทีทำเอามือนั่นชะงักไปเลยทีเดียว เหมือนเดือนสิบสองกำลังเขินเลยครับเพราะแก้มแดงเห็นได้ชัดมากๆ เลยทีเดียว
“กลับบ้านกันอยากรู้อะไรจะเล่าให้กระจ่างเลยทีเดียว” เจ้าตัวไม่ทันตอบก็ถูกผมลากให้เดินตามออกมาซะดื้อๆ เชื่อเถอะว่าไม่กล้าหือเพราะกำลังเขินอยู่
พอผมลากมาถึงรถขึ้นนั่งได้ก็ไม่ยอมปริปากพูดสักคำส่วนผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกันก่อนจะรีบขับรถพาเดือนสิบสองกลับบ้าน ก่อนหน้านี้ผมก็โทรคุยกับพ่อแม่แล้วถือว่าทางสะดวกเพราะท่านสองคนจะไม่กลับบ้านก็ดีเหมือนกันผมกับเดือนสิบสองจะได้ทำสงครามกันไม่ใช่สิผมจะได้ง้อแบบจัดเต็มหน่อย J

“ใครอนุญาตให้เข้าบ้าน” พอเห็นว่าผมจะเดินตามเข้าไปด้านในด้วยเดือนสิบสองก็รีบหันกลับมาพูดทันทีท่าทางน่าจับจูบมากเลยทีเดียว

“อย่าลืมสิว่าบ้านนี้ของฉัน” แต่ผมยกให้เดือนสิบสองไปแล้ว

“คุณยกให้ผมแล้ว” นั่นไงพูดไม่ทันจบเดือนสิบสองก็ทวงสิทธิ์ซะแล้ว แต่ช่างเถอะเพราะคนอย่างพ่อเลี้ยงจอมพลถ้าอยากเข้าใครจะขัดได้

“แล้วไง อย่าคิดว่าฉันจะสนใจ” เจอประโยคนี้ไปเด็กดื้อถึงกับเงิบเถียงไม่ออกเลยทีเดียวผมเลยถือจังหวะนี้เดินเข้าบ้านซะงั้น

“พ่อเลี้ยงออกไปเดี๋ยวนี้นะ”

“ฉันจะออกต่อเมื่อเราคุยกันเสร็จและฉันได้กินข้าวกับลูกแล้ว” ยกลูกมาอ้างซะเลยเพราะผมจะได้อยู่ที่นี่นานๆ “อ่อ, ลืมบอกไปว่านิสัยเดิมฉันนะไม่ยอมใครถึงจะเป็นเมียก็ตาม”
โกหกไปงั้นแหละครับเพราะผมนะยอมเมียสุดๆ แล้ว แต่อยากทำตัวร้ายกาจดูบ้างเผื่อจะได้เข้าใกล้เมียง่ายๆ หน่อย
เดือนสิบสองอยากให้พวกเราสองคนเริ่มจากศูนย์แต่สำหรับผมถึงมันจะอยู่ที่ร้อยก็ไม่มีวันลดน้อยลงหรอกครับ เพราะผมรักใครรักจริงเชื่อเถอะว่ารักสุดๆ แล้วสำหรับเด็กดื้อเอาแต่ใจตัวเองคนนี้

“ใครเป็นเมียไม่ทราบ”

“ยืนหัวโด่อยู่นี่ไง แถมยังอุ้มท้องลูกของฉันอยู่อีกด้วยหรืออยากพิสูจน์ก่อนคุยก็ได้นะ” ผมว่าแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เดือนสิบสองฉุนขาดเลยทีเดียวนึกแล้วขำเวลาได้ยั่วโมโหเด็กคนนี้

“คนบ้า ตาแก่โรคจิต!” ท่าทางจะเถียงผมไม่ออกแล้วแน่นอนถึงได้ด่าออกมาแบบนี้และเดินนำไปนั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่นผมก็เลยเดินตามไปคุย

“อยากฟังเรื่องไหนก่อน?” ผมขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ ก่อนจะกระชับเอวของเดือนสิบสองเข้ามาหาตัวเอง ถ้าไม่กอดไว้แน่นๆ เดี๋ยวมือไวตบผมอีกแล้วจะเจ็บ

“ทำไมต้องกอดด้วยเล่า! อยากพูดเรื่องไหนก่อนก็แล้วแต่คุณสิ” ออกแรงผลักผมให้ออกห่างแต่ขอบอกว่าไม่ได้ผลหรอกครับเพราะผมกอดไว้แน่นมากจนสุดท้ายเดือนสิบสองก็ยอมแพ้และนั่งนิ่งๆ ให้ผมกอด

“เอาเรื่องที่ตรังก่อนก็แล้วกันทุกอย่างมันเป็นแผนนะจำตอนที่เราอยู่ในสวนปาล์มกันได้ไหมถ้าจำได้ตอนที่เราได้ยินเสียงใครบางคนคุยโทรศัพท์นะแค่ฟังไม่กี่คำฉันก็รู้แล้วว่าใคร” พอผมเริ่มเล่าเดือนสิบสองก็ตั้งหน้าตั้งตาฟังมากๆเลย
“ฉันเข้าไปคุยกับไอ้คมตอนแรกก็ขู่มันไปนิดหน่อยจนมันยอม พวกเราก็เลยร่วมมือกันเล่นละครเรื่องนี้มีแค่ฉันกับเทพเท่านั้นที่รู้ ส่วนเรื่องลักพาตัวก็ด้วยมันอยู่ในแผนแต่ง่ายกว่าที่คิดตรงที่มีเด็กดื้อบางคนไม่ยอมอยู่เฉย” พอเล่าถึงตอนนี้เดือนสิบสองก็เบือนหน้าหนีสายตาผมทันที
“แต่บอกไว้ก่อนนะว่าความรู้สึกทุกอย่างคือของจริง ทั้งเป็นห่วงและกังวลสุดๆ เพราะมันเสี่ยงมากที่ทำแบบนี้ถ้าแผนไม่สำเร็จเดือนสิบสองกับลูกอาจจะไม่ปลอดภัย”

“ว่าแล้วทำไมนายคมไม่เห็นทำอะไรเลยแถมยังพูดจาแปลกๆ อีกต่างหาก” เดือนสิบสองเริ่มออกความเห็นบ้าง
“แล้วนายคมทำไปเพื่ออะไร?”

“มันต้องการเงินแต่เพราะไม่กล้าบอกกับฉันเลยหลงผิดไปเชื่อคนไม่ดีเข้า แต่ฉันก็พูดจนมันยอมช่วยเลยยื่นข้อเสนอไปว่าจะไม่เอาเรื่องและจะดูแลครอบครัวของมันไปตลอด”

“แล้วมีคนอื่นร่วมด้วยไหม?” ผมชอบจังเวลาที่เดือนสิบสองตั้งคำถามด้วยความสงสัยและอยากรู้เพราะแววตาของเด็กคนนี้บ่งบอกแบบนั้นด้วยแถมน่าหลงใหลมากๆ เลยทีเดียว เหมือนเด็กไร้เดียงสาที่มีข้อสงสัยมากมายจนต้องตั้งคำถาม

“ไม่มี! ถึงคนอื่นจะอยากได้ที่ของฉันแต่คงไม่มีใครกล้าทำอย่างนายอรุณหรอก พอพวกนายทุนคนอื่นๆ รู้พวกเค้าก็เลิกคิดเรื่องที่จะเปลี่ยนสวนปาล์มให้เป็นรีสอร์ทกันเลยทีเดียว”

“แล้วจอมพลเชื่อเหรอ” นั่นไงเรียกผมด้วยชื่ออีกแล้วยิ่งฟังยิ่งน่ารักจับใจ เดือนสิบสองกำลังอ้อนผมทางอ้อมชัดๆ

“เชื่อสิครับเพราะพวกเค้าแสดงเจตนารมณ์ให้ได้เห็น แต่ถ้าฉันเปลี่ยนใจนั่นคืออีกเรื่องหนึ่ง”

“จอมพลจะเปลี่ยนใจเหรอ?” ผมกระชับอ้อมกอดของเดือนสิบสองให้แน่นขึ้นกว่าเดิมพร้อมทั้งกดจูบเบาๆ ที่หางคิ้ว คราวนี้ไม่ดิ้นครับแถมไม่อาละวาดใส่ด้วย

“บอกไปแล้วนี่ว่าไม่” ผมยิ้มให้เดือนสิบสองก่อนที่พูดต่อ “ยังมีอีกประเด็นนะเผื่อยังสงสัยเรื่องที่จู่ๆ ทุกคนก็โผล่ไปช่วยนะลุ้นแทบแย่ว่านายอรุณจะสงสัยหรือเปล่าแต่ก็ไม่ ดีอย่างที่ได้ลูกเขยมาช่วยคิดแผน”

“เจ้าเล่ห์พอกันทั้งคู่” เหมือนเดือนสิบสองจะแอบแขวะผมก็ทำเป็นหูทวนลมซะงั้น “แล้วทำยังไงถึงบอกให้นายคมรู้”

“แอบส่งข่าวตอนที่มันออกไปซื้อของกินยังไงละ?”

“แล้วทำไมไม่แอบบอกให้ซื้อของอร่อยๆ มาให้กินบ้าง รู้ไหมอยู่ในห้องนั้นโคตรอึดอัดเลยแถมยังมืดและอับอีกต่างหาก”

“ไม่งั้นจะสมจริงเหรอ?” ผมว่าแล้วขยี้หัวเดือนสิบสอง

“รวมถึงเรื่องถูกยิงด้วยสินะ” พอพูดถึงเรื่องดีน้ำเสียงเริ่มแข็งขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ขยับตัวหนี

“ใส่เสื้อเกราะกันกระสุนนะ มันก็แค่จุกนิดหน่อยเอง”

“แต่ผมเป็นห่วง” พอเดือนสิบสองพูดแบบนี้ผมก็เริ่มรู้สึกผิดอีกแล้วสิครับ

“ไม่ขอโทษแล้วนะ แต่ตอนนั้นแค่อยากอ้อนไม่ได้ตั้งใจจะทำให้รู้สึกแย่รู้อะไรไหมเดือนสิบสองถึงพวกเราสองคนจะอยากเริ่มจากศูนย์กันมากแค่ไหน ลองมาคิดดูแล้วฉันคงทำไม่ได้” เดือนสิบสองจ้องหน้าผมแววตาสั่นระริกเลยทีเดียวแต่ก็ยังยอมนั่งเฉยๆ ไม่ดิ้น


“ที่ทำไม่ได้เพราะฉันมันเริ่มจนไปถึงร้อยแล้วไม่ต้องกลัวหรอกนะเพราะมันจะไม่ลดน้อยลงแต่จะมีเพิ่มขึ้นฉันนะรักแค่เดือนสิบสองคนเดียวและจะรักแบบนี้ไปทุกวันแต่ต่อไปความรักมันอาจจะถูกแบ่งนะ”

“แบ่ง?” แววตาสงสัยเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน

“แบ่งให้ลูก, ถ้าไม่รักลูกให้เหมือนอย่างที่รักแม่ของลูกมีหวังถูกงอนแย่” เมื่อคำพูดของผมจบลงรอยยิ้มที่เริ่มหายไปก็เผยออกมาทันที “จอมพลกลับไปเป็นคนเดิมไม่ได้หรอกนะ ลองพยายามแล้วแต่มันไม่ได้จริงๆ”
ผมอยากกลับไปใช้นิสัยเดิม แย่ๆ แถมบางครั้งอาจจะดูเลวไปด้วยซ้ำแต่ขอบอกว่าทำไม่ได้แล้วนะสิ

“ทำไมละ? แต่เดือนสิบสองก็ทำไม่ได้อาละวาดเยอะก็ไม่ดีเดี๋ยวลูกจะได้รับอันตราย” เด็กดื้อบอกกับผมย่นจมูกให้ได้เห็นท่าทางน่ารักมากเลยทีเดียวครับ

“จะกลับได้ยังไงในเมื่อชีวิตตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม มันเปลี่ยนไปตั้งแต่มีเด็กเพี้ยนๆ เข้ามาในชีวิตแล้วละอยากจับฉันกดแต่ที่ไหนได้กลับไม่มีแรงมากพอจะทำจนสุดท้ายก็ต้องตกเป็นเมียพ่อเลี้ยงจอมพลตามระเบียบ”

“ชิส์! ไหนตอนแรกไม่ยอมรับ” มือเล็กฟาดเบาๆ ที่แขนของผม จะว่าไปที่เดือนสิบสองพูดมันก็ถูกแต่ตอนนั้นมันเอือมระอาจริงๆ นี่ครับแถมยังไม่พร้อมจะมีพันธะ

“ถ้ารู้ว่าสุดท้ายจะเป็นแบบนี้ จับแต่งงานด้วยตั้งแต่ตอนนั้นซะเลยก็ดีสิ” ผมรั้งเอวเดือนสิบสองเข้ามากอดไว้จนแน่น

“พ่อเลี้ยงมันอึดอัดนะ”
จุ๊บๆๆๆๆ
ไม่พอครับผมยังรั้งใบหน้าเล็กเข้ามากดจูบซ้ำไปซ้ำมาอยู่ที่แก้มทั้งสองข้างอยู่อย่างนั้นจนเจ้าตัวต้องดิ้นและตีแขนผมแล้วลุกหนี
“หื่น!” เดือนสิบสองว่าแล้วจะวิ่งหนีจนผมต้องรีบพุ่งเข้าไปหาแล้วรั้งเอวไว้จากด้านหลังพร้อมทั้งยกจนร่างเล็กตัวลอยขึ้นเลยทีเดียว

“อย่าวิ่งสิท้องอยู่นะ”

“ก็พ่อเลี้ยงอยากหื่นใส่ทำไม แก้มเค้าจะช้ำไหมเนี่ย?” เดือนสิบสองจับแก้มตัวเองเมื่อแน่ใจว่าคนตรงหน้าจะไม่วิ่งอีกผมจึงยอมปล่อยแล้วรั้งให้หันกลับมามองหน้า
“ชิส์!” แต่สุดท้ายกลับโดนเด็กดื้อเชิดใส่อีกซะงั้น

“งอนมากๆ เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก”

“อย่างน้อยก็เด็กกว่าใครบ้างคน” ต่อปากต่อคำเก่งจริงๆ อยากจะรู้นักหากลูกคลอดออกมาจะนิสัยเหมือนเดือนสิบสองมากแค่ไหน

“แก่ก็ยังมีไฟนะ พี่ว่าเราไปลองกันดีกว่า” ผมอุ้มเดือนสิบสองขึ้นมาทันทีเมื่อพูดจบจนเจ้าตัวตกใจต้องยกแขนทั้งสองข้างมากอดคอผมเอาไว้จนแน่น แต่ที่แน่ๆ เมื่อกี้ผมแทนตัวเองว่าพี่
ช่างเถอะครับผมเบื่อจะเปลี่ยนตัวเองแล้วสิเอาเป็นว่าอยู่กันไปแบบนี้แหละดีแล้ว

“จอมพลคนหื่น” เดือนสิบสองแอบแขวะผมแต่ก็ไม่ได้ดิ้นแถมยังยอมให้ผมอุ้มขึ้นไปด้านบนอีกต่างหาก

“ว่าเค้าอิเหนาเป็นเอง” ผมเองก็ยั่วเดือนสิบสองกลับไปเหมือนกัน ขอบอกว่าไม่ได้กอดมานานมันรู้สึกอึดอัดจนอยากจะกินเข้าไปทั้งตัวได้แล้วละครับ
เสียงประตูที่ถูกปิดลงไปพร้อมๆ กับหัวใจที่เต้นแรงขอบอกว่ามันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียวจนผมรู้สึกประหม่าโคตรๆ แต่ก็ช่างเถอะเพราะตอนนี้เด็กน้อยกำลังยั่วผมอยู่แนะ

“จะเริ่มจากไหนก่อนดี” ผมตั้งคำถามก่อนจะนั่งลงข้างๆ คนที่นอนอยู่เดือนสิบสองยิ้มยั่วผมแล้วตะแคงข้างหันมามอง
พ่อเลี้ยงประหม่ามือสั่นใจสั่นเพราะ?

“อะไรกันจอมพล ทำไมตอนนี้ถึงทำตัวเหมือนเด็กเลย” เดือนสิบสองพูดจายั่วประสาทผมแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่งมือเล็กเอื้อมมาปลดกระดุมเสื้อให้แล้วค่อยๆ ถอดมันออกอย่างช้าๆ แต่สายตากลับยั่วผมซะงั้น
หมับ
สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายจับมือเดือนสิบสองเอาไว้เพื่อหยุดการกระทำนี่ เหมือนผมกำลังถูกเด็กนำทางทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นฝ่ายนำมาโดยตลอด

“เดี๋ยวถอดเอง” ผมบอกก่อนจะสลัดเสื้อผ้าของตัวเองทิ้งจนหมดแล้วขึ้นมานั่งบนเตียงจับเดือนสิบสองแก้ผ้าด้วยอีกคนไม่ขัดขืนครับเพราะถึงยังไงเด็กดื้อก็ต้องการไม่ต่างไปจากผมหรอก
“หืม, เพิ่งสังเกตว่ามันเริ่มนูนออกมาแล้ว” ผมนั่งมองหน้าท้องขาวๆ ของเดือนสิบสองซึ่งเมื่อก่อนมันแบนราบแต่ตอนนี้กลับเริ่มนูนออกมาให้ได้เห็น

“พ่อเลี้ยงอย่าจ้องนานสิ” มือเล็กรั้งใบหน้าของผมให้เงยขึ้นไปสบตาก่อนจะดันร่างผมให้นอนราบไปกับเตียงแล้วเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
“ก่อนเริ่มตอบคำถามหน่อยสิ” เดือนสิบสองจ้องหน้าผมแต่มือกลับอยู่ไม่เป็นที่เลื่อนไปมาตามหน้าท้องของผมจนสุดท้ายไปจับเข้าให้กับของสำคัญจนผมกระตุกไปเลยทีเดียว เชื่อเค้าเลยว่าเก่งนักเรื่องชอบยั่วให้ผมอยากขึ้นเรื่อยๆ

“คำถาม อ่ะ,” ให้ตายสิพ่อเลี้ยงกำลังถูกกำราบ

“ผู้หญิงคนนั้น” ใบหน้าเล็กขยับเข้ามาหาผมก่อนจะกดจูบเบาๆ ที่ซอกคอแต่คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าตอนนี้เด็กดื้อกำลังทำตัวเป็นเจ้าของผมอยู่ ยอมครับให้แค่คนนี้คนเดียวเท่านั้นแหละแถมท่าทางจะหวงของอีกต่างหาก

“ก็อื้อ” ไม่ทันได้ตอบก็ต้องร้องครางออกมาเมื่อแรงกระตุ้นมันมีมากขึ้นปลายลิ้นร้อนไล่ต้อนไปตามยอดอกของผมอย่างกับเด็กน้อยที่ได้กินขนมที่ชื่นชอบแนะครับแถมท่าทางมันยั่วแบบสุดใจขาดดิ้นไปเลยทีเดียว

“ว่าไง?” เกลียดนักอยากจับกดซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยทีเดียวแต่เหมือนกำลังถูกไล่ต้อนให้จนมุมเพราะถ้าคำตอบไม่ถูกใจคนถามผมก็จะถูกกระตุ้นหนักขึ้น

“แฟนเก่า” ผมตอบแล้วยิ้มยียวนก่อนจะรั้งใบหน้าของเดือนสิบสองขึ้นมาสบตากัน สีหน้าสงสัยเผยให้ได้เห็นพร้อมกับแววตาไม่พอใจ “เลิกกันไปนานมากๆ แถมตอนนี้ก็เป็นแค่เพื่อนกัน”

“ไม่เชื่อ” น้ำเสียงแข็งกร้าวเอ่ยออกมาพร้อมทั้งดันอกผมให้ออกห่างจากตัวเอง

“หึ, โกรธ โมโห ไม่พอใจ หึงหรือว่าหวง” ผมตั้งคำถามก่อนจะก้มลงไปหาจนใบหน้าเราใกล้กันแค่นิดเดียว

“ทุกอย่าง อื้อ!” เมื่อคำตอบจบลงผมก็กดจูบลงบนริมฝีปากสวยนี้ทันทีบดขยี้อย่างกับกระหายเลยทีเดียวจนคนตรงหน้าสั่นสะท้านไปทั้งตัวก่อนจะค่อยๆ รั้งให้ร่างเล็กนอนราบลงไปกับเตียงกว้าง
เดือนสิบสองไม่ได้แค่เดินตามแต่บางครั้งกลับเป็นฝ่ายนำและเหมือนจะต่อสู้ไม่ยอมให้ผมได้นำนานจนเกินไปริมฝีปากสวยกัดเข้าให้ที่เปลือกปากของผมซะเต็มแรงก่อนจะดูดกลืนขบเม้มอย่างนึกสนุกสุดท้ายก็เป็นฝ่ายสอดลิ้นเข้ามาก่อน
เชื่อเค้าเลยนี่แหละเดือนสิบสอง >/////////////<
“คนนี้ของเดือนสิบสองนะ” ผละออกจากใบหน้าผมก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผมยิ้มขำแล้วกดจูบเบา ที่ปลายจมูกนึกรักใคร่มากขึ้นเรื่อยๆ

“คนนี้ก็ของจอมพลเหมือนกันครับ”
>//////////////////////< เมื่อคำพูดของผมจบลงใบหน้าเล็กก็ยื่นเข้ามาหาพร้อมทั้งกดจูบซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นอีกครั้งและอีกหลายๆ ครั้ง






________________________
ตอนนี้แป้งอัพรวดเดียวครบ...
อยากรู้ว่าจะได้อ่านเม้นไหม?
หึหึ!!!!!

ไม่เม้น ไม่อัพต่อ
ขอบอก จะโหด
ก๊ากกกกกกกกกกกกก...
ตอนหน้ามีลุ้น #ซับเลือดๆ
ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้มันแย่นะขอบอกๆ

38 ความคิดเห็น:

  1. ในที่สุดทุกอย่างก็คลี่คลายไปด้วยดี ผญ.คนนั้นก็แค่แฟนเก่าดีนะไม่เหมือนแฟนเก่านิยายทั่วไปที่มาแย่งแฟนคืน

    ตอบลบ
  2. มันช่างมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง กิงก่องแก้ว สุดติ่งกระดิ่งอะไรเยี่ยงนี้ ฟินแปป อ่ะเฮื่อ
    ถ้าไม่อัพต่อ คงขาดใจ T_T

    ตอบลบ
  3. พ่อเลี้ยงหื่น!!

    ตอบลบ
  4. น่ารัก น่าหื่น ทั้งสองคนเลย
    >\\\\\<
    อัพต่ออออออออ

    ตอบลบ
  5. ง้อกันได้หวานนนนนนมากกกกกกก

    ตอบลบ
  6. ฟิน น้ำมากกระจุย ฮ่าๆ

    ตอบลบ
  7. ''คนนี้ของเดือนสิบสองนะ'' น่ารักอ้ะ เขินอ้ะะ ลุ้นตอนหน้าาาๆๆ -////////-

    ตอบลบ
  8. โอ๊ยยยยยยเขิลลบ

    ตอบลบ
  9. อยากอ่านต่อแล้วสนุกน่ารักที่สุดเลย

    ตอบลบ
  10. ยืนหัวโด่อยู่นี่ไง กร้ากๆๆๆๆ พ่อเลี้ยงง้อได้ประทับใจมาก

    ตอบลบ
  11. น่ารักอัะ

    ตอบลบ
  12. อร๊ายฟินเวอร์ เดือนสิบสองน่าร๊ากกก

    ตอบลบ
  13. ฟินๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  14. ต่อตอนหน้าด่วนค่า

    ตอบลบ
  15. โอ๊ย อ่านไปเขินไป
    ชอบมาก น่ารักมาก ฟิน
    อิอิ(^O^)

    ตอบลบ
  16. โหยยยยลุ้นแทบแย่ นึกว่าจะงอนนานกว่านี้ซะและ

    ตอบลบ
  17. เขินๆๆๆๆ
    น่ารักกันจัง

    ตอบลบ
  18. ทำไมคลี่คลาย เคลียร์กันง่ายดีจัง แต่ก็ดีแล้ว อยากเห็นฉากหวานมากกว่าน้ำตานะ ว่าแต่ไรท์ไม่มี nc เหรอคะตอนนี้

    ตอบลบ
  19. ฟินมากพูดเลยย นึกไปถึงดาวอังคารเลย

    ตอบลบ
  20. โอ้ยย ค้างคาอ้ะ จะซับเลือดอะไร ทำให้ลุ้นนะ

    ตอบลบ
  21. พ่อเลี้ยงน่ารักก เดือนสิบสองน่าเลิฟ มาต่อไว้ๆนะพี่แป้ง

    ตอบลบ
  22. เขิลลลลลล น่ารักทั้งคู่เลย

    ตอบลบ
  23. อยากเห็นเด็กๆแล้วนะ

    ตอบลบ
  24. ง้อกัน.......หึๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  25. อยากเห็นจอมทัพ เจ้าจอมอ่ะ

    ตอบลบ
  26. จอมพลต้องยอมเมียคนเดียวนะ

    ตอบลบ
  27. ทั้งเดือนสิบสองกับจอมพล ชอบทั้งคู่เลย น่ารักมากๆ

    ตอบลบ
  28. ง้อได้น่ารักมากอะ พ่อเลี้ยง

    ตอบลบ
  29. อยากอ่านต่อเเล้วอ่าาาาาาาา อยากเห็นหน้าน้องอะ ต้องน่ารักแน่ๆๆเบย

    ตอบลบ
  30. น่ารักที่สุด

    ตอบลบ
  31. น่ารักกกก รอตอนหน้า #เตรียมทิชชู่รอซับเลือด

    ตอบลบ
  32. แอร๊ยยยยยยย น่ารักอ่ะ ><

    ตอบลบ
  33. เดือนสิบสองง้อแงแบบนี้จอมพลรักตายอ่ะ
    น่ารักมุ้งมิ้ง

    ตอบลบ
  34. หวานตลอดดดด ทะเลาะกันได้ไม่นานจริงๆๆ

    ตอบลบ