luscious, 23
ทุกอย่างเพราะรัก…
เดือนสิบสอง
ผมแทบจะพุ่งเข้าไปหาพ่อเลี้ยงทันทีเลยเมื่อเห็นว่าเค้าล้มพับลงไปตรงหน้าห้องฉุกเฉิน
เท่าที่จำได้ก่อนจะออกมาจากสถานการณ์ตรงนั้นพ่อเลี้ยงถูกยิงนี่ครับ พอหลังจากที่พี่แหวนพาผมกลับบ้านก็ได้เจอกับไอ้จาท่าทางของมันดูเป็นกังวลไม่ต่างไปจากผมเลยก็แน่ละสิสามีมันไปด้วยนี่
ตอนนี้ผมกับมันมาถึงโรงพยาบาลด้วยกันหลังจากที่พี่เทพโทรมารายงานสถานการณ์เราแยกกันแล้วเพราะไอ้จาต้องไปดูแลสามีมันส่วนผมกับพี่แหวนก็กำลังเดินเข้าไปหาพ่อเลี้ยงแต่กลับไม่ทันเพราะเค้าถูกพาตัวไปข้างในเรียบร้อยแล้ว
“พี่เซย์พ่อเลี้ยงเป็นอะไรครับ
แล้วทำไมเพิ่งเข้าไป…” ผมถามขึ้นมาทันทีหลังจากที่เดินมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน
พี่เซย์กับพี่เทพมองหน้ากันก่อนจะจ้องมาที่ผม
“โรคสำออยอยากอ้อนเมียมั้ง” พี่เซย์พูดเบาจนผมไม่ได้ยินเลยทีเดียวแต่พอถูกผมจ้องหน้าอย่างไม่ลดละพี่แกเลยพูดอีกครั้ง
“ตอนแรกก็ไม่เป็นอะไร แต่จู่ๆ ก็ล้มพับไปทันทีท่าทางจะแย่มาก” พี่เซย์พูดจาแปลกๆ
จนผมต้องหันไปมองหน้าพี่เทพ
“แต่ก่อนหน้านี้เค้าถูกยิงนี่ครับ”
“ครับ, คงเพราะอยากทำตัวเป็นฮีโร่”
พี่เทพตอบคำถามผมนิ่งๆ ฮีโร่บ้าอะไรโดนยิงแท้ๆ
แทนที่จะให้หมอดูดันยืนอยู่ได้ตั้งนาน
-_-‘
ผมว่าพ่อเลี้ยงทำตัวแปลกๆ นะครับรวมไปถึงคนอื่นๆ
ด้วยแต่ก็ช่างเถอะ ผมหวังนะครับว่าพ่อเลี้ยงกับคนอื่นๆ จะปลอดภัย
เวลาผ่านไปคุณหมอท่านก็ออกมาบอกว่าพ่อเลี้ยงพ้นขีดอันตรายแล้วก่อนจะย้ายเค้าให้ไปอยู่ที่ห้องพิเศษผมก็เลยเดินตามไปดู
ท่าทางคนป่วยแต่ทำไมสีหน้าไม่เห็นเป็นอะไรเลยดูเหมือนคนที่สบายดีซะมากกว่า
แต่ก็ช่างเถอะเพราะเรื่องแย่ๆ คงผ่านพ้นไปแล้วสินะ… ตอนแรกที่ผมเห็นพ่อเลี้ยงถูกยิงผมตกใจมากๆ
แต่พอมาเห็นเค้ายืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินก็แปลกใจบางทีที่พี่เทพพูดอาจจะเป็นความจริงก็ได้มั้ง
“เดือนสิบสองงั้นพี่กับทุกคนขอกลับบ้านก่อนละกัน
เย็นๆ จะกลับมาอีกที” เสียงของพี่เซย์ดังขึ้นมาผมหันไปมองก่อนจะพยักหน้าให้
พี่เซย์ พี่เทพและก็พี่แหวนกลับบ้านกันไปแล้วในห้องก็เหลือแค่ผมกับพ่อเลี้ยงเท่านั้น… ผมนั่งมองหน้าคนที่หลับอยู่ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วยื่นหน้าเข้าไปมองใกล้ๆ
“พ่อเลี้ยงเมื่อไหร่จะฟื้นสักที เค้าเหงา”
ผมย่นจมูกใส่เค้าก่อนจะยื่นมือไปบีบปลายจมูกของพ่อเลี้ยงบ้าง
สีหน้าดูสดใสเชียวคนป่วยอะไรขนาดหลับยังหล่อ
“…” เงียบ! ก็แน่ละสิพ่อเลี้ยงยังไม่ตื่นนี่ครับ
“ตอนนี้ผมนะงงมากๆ เลย
เมื่อไหร่พ่อเลี้ยงจะฟื้นมาอธิบายให้ฟัง ทั้งเรื่องนายคมแล้วก็…”
ก๊อก ก๊อก
เสียงประตูห้องถูกเคาะซะก่อนที่ผมจะพูดจบ
ผมเลยต้องผละตัวออกห่างจากพ่อเลี้ยงแล้วหันไปมองที่ประตูก็เห็นไอ้จามันเดินเข้ามาพร้อมกับสามีสุดหล่อ
“พ่อเป็นยังไงบ้าง?”
เสียงไอ้จาเอ่ยถามก่อนจะมองมาที่ผม
“ยังไม่ฟื้นเลย”
ผมว่าก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆ กับเตียงคนป่วย
ไอ้จาเดินเข้ามาหาผมแล้วก้มลงไปมองหน้าพ่อเลี้ยงใกล้ๆ อย่างที่ผมทำเมื่อสักครู่
“งั้นเหรอ แต่ทำไม…อ๊ะ!” ไอ้จาเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ถูกสามีมันลากออกไปซะก่อน
“อาวุธเจ็บนะ”
“พี่ขอโทษ แต่เรากลับบ้านกันก่อนดีกว่าค่อยกลับมาเย็นๆ
พี่อยากพัก”
สีหน้าสามีของไอ้จาตอนนี้ดูเหมือนคนป่วยมากกว่าพ่อเลี้ยงซะอีกแถมน้ำเสียงอ้อนๆ
เมื่อกี้ขอบอกว่าน่ารักชะมัดยาก ท่าทางไอ้จาจะไปไหนไม่รอดแล้วครับ
“ก็บอกให้นอนโรงพยาบาลไม่ยอม พี่อยากดื้อเองทำไม”
เริ่มเถียงกันแล้วครับแต่น้ำเสียงไอ้จาฟังก็รู้ว่าเป็นห่วง
“พี่อยากนอนกอดจามากกว่า”
“อาวุธ!”
ไอ้จาถึงกับเขินจนต้องขึ้นเสียงกลบเกลื่อนผมเลยต้องยิ้มขำมันไป “มันไม่ขำนะไอ้คุณหนู”
“โทษทีๆ พอดีท่าทางมึงมันฟ้อง” ผมพูดออกไปทั้งๆ
ที่ตัวเองยังขำอยู่
“เดือนสิบสอง ไอ้…”
“จาวา!” นั่นไงโดนสามีขึ้นเสียงดุซะแล้ว
แต่ถ้าพ่อเลี้ยงฟื้นผมก็คงโดนไปด้วยเพราะเมื่อกี้ผมพูดจาหยาบคายไปแนะ
ความเคยชินจะให้ทำยังไงละ?
“ชิส์! แค่ลืมตัว”
มันว่าก่อนจะเชิดหน้าใส่แล้วเดินออกจากห้องไป
ผมก็ได้แต่มองหน้าสามีมันแล้วยักไหล่ให้อยากบอกมากว่าไอ้จาเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเองพอๆ
กับผมนั่นแหละครับ
“รีบตามไปเถอะครับเดี๋ยวมันจะงอน”
ผมบอกจนได้เห็นรอยยิ้มหวานของคุณอาวุธมาเฟียสุดหล่อก่อนที่เจ้าตัวจะเดินตามไอ้จาออกไปด้านนอก
สุดท้ายก็เหลือแค่ผมกับพ่อเลี้ยงสองคนอีกตามเคย
ผมนั่งเฝ้าพ่อเลี้ยงอยู่จนรู้สึกเพลียๆ
ก็เลยนอนพักตรงโซฟากะว่าจะงีบสักครู่แต่ไม่รู้ทำไมร่างกายมันเหนื่อยที่สุด…
‘อยากนอนกอดพ่อเลี้ยงแล้วสิครับ’
จอมพล
หลังจากที่แกล้งสำออยก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที
พอคุยหมอเห็นว่าผมไม่เป็นอะไรก็แปลกใจแต่เพราะถูกผมขอร้องเข้าเท่านั้นแลหะครับท่านถึงยอมแต่ผมก็ถูกเจาะสายน้ำเกลือจนได้สินะ…แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะมันจะได้สมจริงเข้าหน่อย
เกือบพลาดเพราะก่อนหน้านี้เดือนสิบสองเห็นว่าผมถูกยิงแต่หวังว่าเซย์กับเทพจะช่วยเล่นละครไปกับผมด้วยนะ
ผมได้ยินทุกคำพูดของเดือนสิบสองเลยก็ว่าได้เพราะไม่ได้หลับจริงๆ
ตอนแรกอยากจะลืมตาแล้วกดจูบคนตรงหน้ามากๆ แต่ที่ไหนได้จากลับเคาะประตูแล้วเข้ามาซะก่อน
เหมือนจาจะสงสัยในพฤติกรรมของผมแต่ก็นะถ้าลูกเขยไม่ช่วยมีหวังแผนผมคงแตก
ตลอดเวลาที่นอนอยู่ผมก็แอบสังเกตเดือนสิบสองเวลาที่เผลออยู่เรื่อยๆ
แถมตอนนี้เด็กดื้อของผมยังนอนหลับไปแล้วด้วยท่าทางจะเหนื่อยแถมยังท้องอีกต่างหาก
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยเห็นเดือนสิบสองแพ้ท้องแล้วแต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้อยู่ดี…
ผมลุกจากเตียงผู้ป่วยก่อนจะเอื้อมไปหยิบขวดน้ำเกลือมาถือเอาไว้แล้วเดินไปหาเดือนสิบสองที่ยังคงหลับอยู่
จุ๊บ >//////////////<
ผมกดจูบเบาๆ
ที่หน้าผากก่อนจะส่งยิ้มไปให้แต่เดือนสิบสองคงไม่รู้หรอกครับเพราะยังหลับอยู่…ต่อไปนี้เรื่องร้ายๆ
ระหว่างพวกเราคงไม่มีอีกแล้วสินะ
ผมรู้สึกดีจังเลยเมื่อนึกถึงวันเวลาที่ผ่านมาของพวกเรา
ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะทำให้เดือนสิบสองร้องไห้อยู่เสมอ
พอๆ กับเด็กคนนี้ที่ผมเองยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงรักได้มากมายขนาดนี้แต่ถึงยังไงคำตอบก็มีให้ผมพิสูจน์ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว
อื้อ…
เสียงครางของเดือนสิบสองดังขึ้นมาทำเอาผมวิ่งกลับไปที่เตียงแทบไม่ทันเลยทีเดียว
ก๊อก ก๊อก…
ยังไม่จบแค่นี้นะครับเพราะเสียงที่ตามมาอีกทีก็คือประตูห้องถูกเคาะก่อนที่เสียงฝีเท้าจะก้าวเดินเข้ามาเรื่อยๆ
“อ้าวหลับอยู่เหรอ
กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหมเดี๋ยวพี่ดูพ่อเลี้ยงให้เอง” เสียงของเซย์ดังแว่วขึ้นมาทันทีที่จำได้เพราะน้ำเสียงของหมอนี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวครับ
“แต่ว่า…”
“กลับเถอะค่ะ
เดี๋ยวพี่แหวนพาไปอย่าลืมนะคะว่าต้องกินยา” เสียงของเดือนสิบสองเงียบไปสักพักครับ
พอเจอคำพูดแบบนี้ไปเด็กดื้อก็ต้องยอมทำตามอยู่แล้วเพราะว่าไม่ได้มีแค่ตัวเค้าคนเดียวแล้ว
“กลับก็ได้ครับ
แต่เดี๋ยวผมจะมานอนเฝ้าพ่อเลี้ยงละกัน” เดือนสิบสองพูดออกมาน้ำเสียงเบาหวิว
ชักอยากลืมตาแล้วสิครับ…
อยากกอดเมีย!!!
“โอ๊ยสภาพแบบนี้ปล่อยให้ตายไปเลยดีกว่า”
เสียงของเซย์พูดขึ้นมาลอยๆ แต่ที่แน่ๆ
ผมได้ยินชัดเจนเลยทีเดียวเพราะหมอนี่เดินมายืนอยู่ใกล้ๆ
ผมตั้งแต่เข้ามาในห้องแล้วละครับส่วนเดือนสิบสองก็นั่งอยู่ที่โซฟา
“เมื่อกี้พี่เซย์ว่าอะไรนะครับ”
“อ่อ! พี่บอกว่ารีบๆ
กลับมานะเดี๋ยวพ่อเลี้ยงจะรอจนแก่ตายซะก่อน… แหวนรีบพาเดือนสิบสองกลับไปเถอะ”
บอกตามตรงตอนนี้อยากฆ่าเซย์มากๆ
เพราะคำพูดแต่ละคำของหมอนี่มันน่าคิดซะเหลือเกิน
ขนาดผมหลับตาอยู่ยังนึกสีหน้าของเดือนสิบสองออกเลยเวลาที่ฟังคำพูดจากปากของเซย์
เสียงประตูห้องปิดไปแล้วครับเหมือนว่าผมจะอยู่แค่กับเซย์สองคนเท่านั้น
แต่ไม่ยักอยากจะลืมตาเพราะขี้เกียจทะเลาะกับหมอนี่หรืออีกนัยหนึ่งไม่อยากฟังน้ำเสียงประชดจากปากเซย์นั่นเอง
“นี่พ่อเลี้ยงเดือนสิบสองนะไปแล้ว
รู้นะว่าฟังอยู่ตั้งแต่ต้น…” หมอนี่มันจะฉลาดไปไหน
“…” ไม่ยอมลืมตาครับ
“ขอให้เดือนสิบสองจับได้ ขอให้…”
“อยากหางานใหม่เหรอ?”
ผมรีบลืมตาก่อนจะลุกขึ้นนั่งจ้องหน้าเซย์ที่ยืนกอดอกมองผมอยู่ก่อนแล้ว
หมอนี่ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะยักไหล่ใส่ผมแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา
ให้ตายสิถ้าไม่ติดที่ว่าเซย์คือคนเดียวที่ทำประโยคให้กับบริษัทผมและเป็นคนเดียวที่รู้ใจผมมากที่สุด
เพื่อนก็เพื่อนเถอะครับ!!! ตาย…
“พ่อเลี้ยงไม่ทำหรอกครับได้แค่คิดก็เท่านั้นเอง!”
เยาะเย้ยอีกแล้วครับ ท่าทางแบบนี้น่าตบซะจริงๆ เลย
ก๊อก ก๊อก
เสียงประตูห้องถูกเคาะอีกครั้งก่อนที่จาจะเดินเข้ามาโดยมีเทพตามหลังมาติดๆ
ตั้งแต่ผมมานอนที่โรงพยาบาลห้องนี้มีแขกตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ แต่ที่แน่ๆ
จาเพิ่งกลับไปไม่ใช่เหรอ?
“ลูกเพิ่งกลับไปนี่”
ผมเอ่ยถามจามองหน้าผมก่อนจะยิ้ม ลูกกำลังจับผิดผมอยู่สินะ
“พ่อนี่แสบจริงๆ
ว่าแล้วตอนนอนทำไมดูไม่เหมือนคนป่วย แถมตอนนั้นพ่อก็ไม่ได้หลับด้วย”
นั่นไงลูกผมฉลาดเหมือนพ่อ ผมไม่มีทางปกปิดคนพวกนี้ได้หรอกครับเพราะพวกเราอยู่ด้วยกันมานาน
“แล้วลูกเขยพ่อละ”
“อย่าเปลี่ยนเรื่องสิพ่อ
แต่ก็นะอาวุธหลับผมเลยให้พี่เทพพามา…เจอเดือนสิบสองด้วยสีหน้าหมอนั่นเป็นห่วงพ่อมากๆ
คิดดีแล้วเหรอครับ” จาเหมือนกำลังขู่ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างเตียงของผม
ส่วนเซย์ก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟา
“พ่อเก่งจบนะครับ”
ผมขยี้หัวจาก่อนจะตั้งคำถามกับเทพต่อ “ไอ้คมละ?”
“พ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่ยังไม่ฟื้น”
ผมพยักหน้าก่อนจะขยับเปลี่ยนท่าทางคงเพราะนอนอยู่กับที่นานเกินไปมั้งครับถึงได้รู้สึกเมื่อยแบบนี้
บางทีการเล่นละครเป็นผู้ป่วยก็ไม่ได้ดีเสมอไป
-_-‘
“ส่วนเรื่องคุณสร้อยฟ้า
ตอนนี้เรายังไม่พบเธอเลยครับเหมือนจะไม่ได้อยู่ที่ตรังแล้ว”
คำพูดประโยคนี้ของเทพน่าคิดได้หลายอย่าง สร้อยฟ้าไม่ได้อยู่ที่ตรังแล้วเธอไปไหน?
“เป็นไปได้ไหมว่าเธอจะรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว”
ผมว่าก่อนจะมองหน้าเทพ
“แต่ผมว่าเธออาจจะไม่รู้อะไรก็ได้หรือบางทีเธออาจจะถูกบอกให้ไปที่ไหนไกลๆ”
เซย์ที่นั่งฟังอยู่ก็แสดงความคิดเห็นขึ้นมาบ้าง
“พ่อก็ลองเช็คดูสิครับว่าช่วงหลังๆ
คุณสร้อยฟ้าเธอไปไหนบ้าง?”
ผมหันกลับมาจ้องหน้าจาทันทีเพราะประเด็นที่จาพูดมาก็น่าสนใจดีเหมือนกัน
บางทีเธออาจจะไม่รู้เรื่องหรืออาจจะถูกพ่อของตัวเองหลอกให้ไปไหนก็ได้…
“งั้นเทพช่วยไปเช็คให้หน่อย
ถ้าเธอไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ มันก็ดีไปแต่ถ้ารู้ฉันคงไม่อยากละเว้น…”
ถึงตอนนี้จะหาข้อสรุปอะไรไว้ไม่ได้แต่อย่างน้อยผมอยากมั่นใจว่าทุกๆ
คนที่อยู่รอบตัวของผมจะปลอดภัย
บางทีพวกนายทุนคนอื่นๆ
อาจต้องการที่ดินของผมไม่ต่างไปจากนายอรุณหากแต่พวกเค้าไม่ได้ลงมือทำก็เท่านั้นเอง!
หลังจากที่พวกเราลงความเห็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเวลาก็ผ่านไป
ผมชักจะเบื่อแล้วสินะ…แล้วนี่เมื่อไหร่เดือนสิบสองจะกลับมา
“พ่อหิวไหม?”
“ไม่ละ? เซย์โทรตามเดือนสิบสองให้หน่อยสิ” ผมตอบคำถามจาก่อนจะพูดกับเซย์ต่อ
“อะไรกันนี่มันผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมงเลยนะ”
เซย์บอกแต่ก็ยอมทำตาม
“พ่อนี่ร้ายจริงๆ ผมไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเดือนสิบสองจับได้อะไรจะเกิดขึ้น
พ่อไม่รู้หรอกว่าเวลาไอ้คุณหนูมันโกรธจริงๆ อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง”
จาบอกผมแต่ทุกคำที่พูดออกมาเหมือนกำลังขู่ซะมากกว่า
ส่วนผมนะเหรอไม่เคยเห็นเหมือนกันว่าตอนที่เดือนสิบสองโกรธจริงๆ จะเป็นยังไงบ้าง
“ฮาๆ พูดซะน่ากลัวเชียว” ผมหัวเราะขำแต่ใจจริงๆ
กำลังกลัวอยู่ครับ
“เดือนสิบสองไม่รับสาย”
เซย์พูดแทรกขึ้นมาก่อนจะยักไหล่ให้ ผมกับจามองหน้ากันอีกครั้ง
“คงไม่ได้ยินมั้ง”
จาบอกผมเลยพยักหน้ารับก่อนที่สายตาจะหันไปเห็นลูกเขยยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง
มาตั้งแต่เมื่อไหร่แต่เหมือนจะมานานแล้วมั้งครับ
“อ้าวลูกเขยเข้ามาสิ”
เสียงพูดชักชวนของผมทำให้ทุกคนในห้องหันไปมองที่หน้าประตู ร่างสูงของลูกเขยผมค่อยๆ
เดินเข้ามาแต่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือ…
เมียมาด้วยแถมยืนอยู่ด้านหลัง
ลูกเขยบังซะมิดเชียว!
“เดือนสิบสอง!”
ทุกคนต่างหันหน้าเข้าหากันอย่างพร้อมเพียงเลยทีเดียว
ส่วนผมนะเหรอกลืนน้ำลายลงคอยากลำบากมากๆ
ให้ตายสิเมื่อกี้เดือนสิบสองคงไม่ได้ยินหรอกนะ
“สนุกมากสินะ…ก็สงสัยอยู่แล้วว่าถูกยิงแต่ทำไมเพิ่งเข้าไปห้องฉุกเฉิน”
น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเยือกเย็นจนน่ากลัวสุดๆ ไปเลย ผมตีสีหน้าสำนึกผิดแทบไม่ทัน
“พ่อซวยแล้ว” จายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
ก่อนจะกระซิบข้างหูของผม
“ผมแวะไปคุยกับคุณหมอมาด้วย”
ลูกเขยเดินเข้ามายืนใกล้ๆ จาส่วนผมก็นั่งมองหน้าเดือนสิบสองอยู่บนเตียง
เด็กดื้อยืนมองผมอยู่ที่หน้าประตูห้องแววตาว่างเปล่าไร้อารมณ์โคตรๆ
มันน่ากลัวกว่าที่จาขู่ซะอีก
“งั้นเหรอ?” พูดแทบไม่ออก
“แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับเพราะคุณหมอพูดเท่าที่พ่อเลี้ยงสั่ง…เก่งนะครับ! หึ!”
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!
อยากจะทึ่งหัวตัวเองทิ้งซะเหลือเกิน
เพราะน้ำเสียงที่แสยะยิ้มเมื่อกี้มันฟังดูไม่เป็นมิตรเลยทีเดียว
“…”
ทุกคนในห้องนี้เงียบกันหมดรวมไปถึงผมด้วยมีแค่เสียงของเดือนสิบสองเท่านั้นที่พูดออกมา
แต่ขอบอกว่าน้ำเสียงแบบนี้ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยทีเดียว
“พ่อเลี้ยงคงสนุกมากสินะ แต่ผมนะเป็นห่วงสุดๆ
ไปเลย…”
อยากร้องไห้ครับเพราะตอนนี้เดือนสิบสองกำลังร้องอยู่แม้น้ำเสียงจะเข้มแข็งมากแค่ไหนก็ตาม
แต่น้ำตามันก็ไหลเพราะรู้ความจริงเรื่องที่ผมโกหกไป
ตอนแรกผมคิดแค่ว่าอยากจะอ้อนแต่ที่ไหนได้มันกลับแย่ลง…
“ขอโทษ” ผมเอ่ยออกมาเสียงแผ่วค่อยๆ
ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวขาไปหาเดือนสิบสองที่ยืนอยู่ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าเว้นระยะห่างพอสมควร
“เราเลิกกันดีไหม?”
“เดือนสิบสอง!!!”
ผมแทบจะไม่อยากเชื่อคำพูดของเดือนสิบสองเลยก็ว่าได้ พูดว่าเลิกกันงั้นเหรอ
พวกเราสองคนรักกันไม่ใช่รึไงแถมตอนนี้ก็กำลังจะมีลูกด้วยกันอีก…
“ไม่ใช่ตลอดไปหรอกนะ
จนกว่าพ่อเลี้ยงจะคิดได้และไม่กล้าทำแบบนี้อีก…ผมไม่อยากเป็นคนเดียวที่รู้สึกทรมานเวลาถูกคนที่ไว้ใจหลอกลวง
ผมรักพ่อเลี้ยงนะแต่ไม่เข้าใจการกระทำ…ถ้าอยากให้ผมเป็นห่วงแค่พ่อเลี้ยงไม่ยอมกินข้าวเช้าผมก็ทรมานแล้ว
ผมนะเป็นห่วงพ่อเลี้ยงสุดๆ ห่วงมากกว่าตัวเองซะอีก”
น้ำตาของเดือนสิบสองไหลออกมาเรื่อยๆ
จนผมรู้สึกแย่
ทุกคนในห้องเงียบกันหมดคงเข้าใจอารมณ์ของเดือนสิบสองละมั้งรวมไปถึงพวกเราสองคนกำลังไม่เข้าใจกัน
จะโทษใครได้ในเมื่อผมสร้างปัญหาเอง!!!
“ต่อต้านได้ไหม?” ผมตั้งคำถามก่อนจะยื่นมือไปเกลี่ยน้ำตาให้แต่เดือนสิบสองกลับเบือนหน้าหนี
“…”
เดือนสิบสองไม่ตอบแต่กลับหันหลังให้ผมและเหมือนว่าจะเดินหนี
หมับ!
ผมฉวยโอกาสก่อนที่เดือนสิบสองจะเดินออกไปรั้งเอวเล็กเข้ามากอดเอาไว้ซะแน่น
เดือนสิบสองไม่ได้ดิ้นหรือทำอะไรทั้งสิ้นนอกจากจะยืนนิ่งอยู่กับที่
“พี่ขอโทษ มันอาจจะแย่แต่…”
“ผมจะกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่…เข้าใจผมใช่ไหม?”
เดือนสิบสองพูดแทรกขึ้นมาซึ่งแน่นอนว่าผมยังแก้ตัวไม่เสร็จแล้วแบบนี้ผมจะขัดอะไรได้ในเมื่อผมไม่อยากให้ไปแต่เจ้าตัวอยากจะไป
“ไม่เข้าใจหรอกนะแต่ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่”
ผมพูดเหมือนคนหมดอะไรตายอยากก่อนจะปล่อยมือที่กอดเอวเดือนสิบสองอยู่ออก
“ผมอยากกลับมาใช้นิสัยแบบเด็กๆ เหมือนเดิม…เราสองคนน่าจะลองกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมดูบ้าง…อย่างตอนที่เรายังไม่ได้เจอกันแต่ผมไม่ลืมหรอกนะว่ายังมีลูกที่ต้องดูแล…แค่อยากให้เราสองคนได้คิดเท่านั้นเอง”
ไม่อยากจะเถียงเลยว่าทั้งคำพูดและการกระทำของเดือนสิบสองตอนนี้มันผู้ใหญ่สุดๆ
ผมซะมากกว่าที่ทำตัวเป็นเด็ก
อยากอ้อนเค้าแต่สุดท้ายเหมือนการกระทำคือสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ
“เราจะไม่เลิกกันจริงๆ ใช่ไหม? ถึงจะบอกให้กลับไปอยู่แบบเดิมมันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว…แต่จะไม่ยอมให้เป็นแบบนี้นานๆ
หรอกนะ ฉันก็อยากกลับไปใช้นิสัยเดิมเหมือนกัน นิสัยของฉันก่อนที่เราจะได้เจอกัน”
เดือนสิบสองหันมามองหน้าผมก่อนจะส่งยิ้มให้
ผมไม่รู้หรอกว่ามันคือรอยยิ้มที่กำลังบ่งบอกอะไร แต่ที่แน่ๆ รอยยิ้มนี่ทำให้หัวใจผมแผ่วไปเลยทีเดียว
“ขอบคุณครับ” เหมือนคำพูดจากลา…แต่มันไม่ใช่หรอก
พวกเราก็แค่กลับไปคิดเท่านั้นเอง
ผมรู้ดีว่าการที่เดือนสิบสองตัดสินใจแบบนี้มันทรมานแค่ไหน
พวกเราเคยลองพยายามมาครั้งหนึ่งแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ…ครั้งนี้ผมก็อยากลองพยายามอีกเหมือนกัน
นิสัยเดิมๆ งั้นเหรอ?
หึ! รู้อะไรไหมในคำพูดนั้นของเดือนสิบสองกำลังบอกผมว่า…
พวกเราสองคนไม่ต้องพยายามทำอะไรมากหรอก
แค่อยู่ด้วยกันและใช้นิสัยของตัวเองเข้ามาปรับ
การห่างไม่ใช่เรื่องแย่แต่เป็นการแก้ปัญหาจากต้น
เราสองคนก็แค่กลับไปเริ่มจากศูนย์อีกครั้ง…และถ้านิสัยเดิมของผมขอบอกว่า
เป็นเมียพ่อเลี้ยงแล้ว
อย่าคิดว่าจะหนีได้!!! J
ส่วนเดือนสิบสองนะเหรอ?
ผมว่านิสัยเดิมของเด็กคนนี้มันน่ารักมากๆ เลยแถมยังพยายามจะจับผมให้ได้อีกต่างหาก…เดี๋ยวก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น?
“พ่อเดือนสิบสองไปแล้วนะยังยืนยิ้มอยู่ได้” จาเดินเข้ามาหาผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่าทำไมผมถึงยอม
“จานิสัยเดิมพ่อเป็นยังไง?”
ผมยิ้มและตั้งคำถามก่อนจะขยี้หัวลูกเล่น
“เซย์ฝากไปแจ้งคุณหมอหน่อยว่าฉันจะกลับบ้าน
เทพจัดการเรื่องไอ้คมกับสร้อยฟ้าด้วยนะ”
ผมสั่งเสร็จก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ในตู้ออกมาแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันที
“พ่อแต่ไอ้นิสัยเดิมเนี่ยมันโคตรๆ เลยนะ…”
จาตะโกนตามหลังผมออกมา และไอ้โคตรๆ ที่ว่ามันคืออะไรอย่าไปอยากรู้เลยครับ
แต่เดี๋ยวก็รู้ว่าการวิ่งหนีผมมันไม่ใช่เรื่องสนุกสักเท่าไหร่?
เมียก็เมียเถอะ!!!
______________________________
ครบ จบปิ้ง
^__________________^
พ่อเลี้ยงชอบสร้างปัญหาให้ตัวเอง -_-'
ตอนนี้ปั่นได้ยาวสุดที่แต่งมาแระ 555555
รักนะจุ๊บๆ
จอมพลคนหื่นจะทำยังไงเนี่ย?
ตอนนี้ปั่นได้ยาวสุดที่แต่งมาแระ 555555
รักนะจุ๊บๆ
จอมพลคนหื่นจะทำยังไงเนี่ย?
อยากอ่านตอนพ่อเลี้ยงงานเข้า คึคึ
ตอบลบอัพต่อเร็วๆนะ ^^
ตอบลบงานเข้าแล้วจะรู้สึกน่ะพ่อเลี้ยงงง 555555
ตอบลบพ่อเลี้ยงเจ้าเล่ห์
ตอบลบอัพๆๆ ด่วยเบยยย
ตอบลบงานนี้มีพ่อแง่แม่งอนยาวชัวร์ ^{}^)/ รีบๆ วางเลยค่ะพี่แป้ง
ตอบลบหายไปหลายวัน กลับมาอัพแล้วววว คิดถึงเดือยสิบสอง จอมพล
ตอบลบมาอัพต่อเร็วๆๆน๊าาาชอบสุดๆเลยละ
ตอบลบน่ารักอ่ะแต่งานจะเข้านะ5555555555555
ตอบลบงานจะเข้าพ่อเลี้ยงมั้ยนะ 55555555
ตอบลบเดือนสิบสอง
ตอบลบเป็นกำลังใจให้ค่ะ สนุกมากกก
ตอบลบเมื่อไรจะมาลงค่ะ สู้ๆคะ
ตอบลบอร้ายยยย พ่อเลี้ยงแผนสูงอ่ะ
ตอบลบแอร๊ยยยยย พ่อเลี้ยงน่ารักอ่ะ มาต่อเร้วเร้วนร้าาาาา :D
ตอบลบพ่อเลี้ยงจะทำยังไงต่อไปน๊า
ตอบลบ😆😁
อยากรู้ๆๆ
ตอบลบไอ้นิสัยโคตรๆเนี่ยมันยังไงนะอยากจะรู้จริงๆ
ตอบลบมีตอนต่อไปไหมคะ อย่างตอนพิเศษ เรื่องราวหลังจากตอนนี้น่ะคะ มีไหมคะ จะรอติดตามนะคะ
ตอบลบรอคร้าาาาาาา กรี๊ดดดดด ชอบพ่อเลี้ยง ฮ่าๆๆๆๆ เมียงอนหนีกลับบ้านแย้วววววววว
ตอบลบเหอๆๆ รีบตามเมียกลับเห้อะ
ตอบลบลุ้นต่อไป จะทำไรกัน????
ตอบลบพ่อเลี้ยงกลัวเมีย แอบน่ารักเนอะ คึคึ
ตอบลบพอ่เลี้ยงเจ้าเล่ห์
ตอบลบโคตๆๆอารายยยยย ฉันอยากรู้
ตอบลบ