luscious, 20
ตามหาความจริงที่อันตราย
ตื่นเช้ามาพ่อเลี้ยงก็หายออกไปจากห้องซะแล้ว
ส่วนผมก็ไม่รู้จะงอแงกับใครเลยลุกขึ้นไปอาบน้ำ
เมื่อเสร็จภารกิจทุกอย่างก็เดินออกจากห้องแล้วตรงไปยังห้องครัวทันทีเพราะตอนนี้ทั้งผมและก็ลูกรู้สึกได้ถึงความหิวสุดๆ
ไปเลย
ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวเหมือนปกติเพื่อรอเวลาให้พี่แหวนยกอาหารมาตั้ง…
“พี่แหวนวันนี้ทำอะไรให้ผมกะ…”
คำพูดทุกอย่างของผมหายไปในห้วงความคิดทันทีเมื่อคนที่ผมพบเห็นไม่ใช่พี่แหวนแต่กลับเป็นพ่อเลี้ยง
ผมรู้แล้วว่าทำไมถึงตื่นเช้ามาไม่เจอเค้าก็ตาแก่บ้าดันมาทำอาหารเช้าให้ผมกินยังไงละครับ?
คิดเหรอว่าจะหายงอน
เรื่องเมื่อคืนก็ส่วนหนึ่งแต่เช้ามาไม่เกี่ยว!!!
“ไม่ทำงานเหรอถึงมีเวลาว่างมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้”
ประชดไปซะเลย…
พ่อเลี้ยงวางถ้วยข้าวต้มที่ถืออยู่ในมือลงตรงหน้าผมก่อนจะเดินไปหยิบแก้วน้ำกับยามาให้
เค้าไม่ยอมตอบคำถามของผมแถมสีหน้าก็อธิบายไม่ถูกเลยด้วย
“การดูแลเมียกับลูกเค้าไม่เรียกว่าไร้สาระหรอกนะ
กินซะละไม่ใช่เอาแต่ประชด”
ฮึย! ตาพ่อเลี้ยงบ้าทำไมต้องพูดจาตอกหน้ากันแบบนี้ด้วยรู้ไหมว่ามันจุกจนไปต่อไม่ไหว
ตอนแรกกะว่าจะประชดสักหน่อยแต่เจอคำพูดนี้ไป
จุก!!!
“…” ผมนั่งกินข้าวต้มไปไม่ยอมสนใจพ่อเลี้ยงที่นั่งมองอยู่ตลอดเวลา
จนผมกินเสร็จเค้าก็ส่งน้ำกับยามาให้
“พี่ไปดูสวนปาล์มก่อนละกัน”
แค่ก แค่ก
ถึงกับสำลักน้ำที่กินอยู่จนพ่อเลี้ยงต้องหันหลังกลับมาดู
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเค้าแทนตัวเองว่าพี่กับผม…
“เป็นอะไร?”
“เปล่า, แค่สำลักน้ำ แต่ตอนนี้โอเคแล้ว”
ผมว่าแต่ไม่กล้าสบตากับพ่อเลี้ยงเพราะเขินกับสรรพนามเมื่อกี้ของเค้า
“แน่นะ”
“แน่สิ รีบไปทำงานเหอะ”
ก่อนที่ผมจะเขินจนหน้าแดงไปมากกว่านี้ >///////<
พ่อเลี้ยงหยุดนิ่งอยู่สักพักก่อนจะเดินออกไป พอพ่อเลี้ยงเลยหายไปแล้วผมก็เอียงคอไปมองถอนหายใจซะเฮือกใหญ่เลยทีเดียว
“คนบ้า! ไม่ให้ตั้งตัวบ้างเลย”
J
รู้สึกดีมีความสุข
บ่าย
เท่าที่จำได้ชีวิตผมหลังจากนี้ก็มีแค่กินกับนอนคงเพราะกำลังท้องอยู่มั้งครับผมถึงรู้สึกเพลียได้ตลอดเวลาที่ว่าง
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยอาละวาดไม่ใช่อะไรหรอกครับแต่ผมกลัวว่าลูกจะได้รับอันตรายไปด้วย…
ยิ่งเวลาผ่านไปร่างกายผมก็ยิ่งเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ผมเองคงจะท้องได้เกือบสามเดือนแล้วแถมอีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดนัดเพื่อให้หมอตรวจครรภ์
แต่ที่เปลี่ยนไปคงจะเป็นคุณหมอนึกแล้วก็คิดถึงหมอนนท์
คนอะไรน่ารักที่สุดนี่ขนาดรู้จักกันในผับนะ
แต่ในคำพูดพวกนั้นเหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่ก็ไม่รู้สิครับแต่อย่าไปสนใจเลย
นี่ถ้าไม่ติดที่พ่อเลี้ยงป่านนี้นิสัยเดิมๆ ของผมคงยังไม่หายแน่นอน
“ตื่นนานแล้วเหรอค่ะ”
เสียงของพี่แหวนดังขึ้นมา
ผมลุกขึ้นนั่งก่อนจะหันไปมอง ผมไม่ได้นอนหลับในห้องแต่กลับออกมานอนด้านนอกซึ่งคล้ายๆ
กับตัวบ้านเล็กๆ แยกออกมา ไม่มีอะไรปิดกั้นเอาไว้มีแค่หลังคา
แต่กลับมีเตียงวางเอาไว้เพื่อการพักผ่อนรับลมเย็นๆ สบายเลยทีเดียวครับ
“ครับ”
“พี่แหวนเอาอาหารกับผลไม้มาให้ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
ผมว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนแต่ร่างกายเหมือนกำลังจะเซล้มลงไปดีนะครับที่พี่แหวนวิ่งเข้ามารับผมไว้ได้ทัน
“เกือบไปแล้วไหมค่ะ เดี๋ยวพี่พาไปดีกว่า”
“ก็ดีเหมือนกันครับ คงเพราะลุกขึ้นเร็วไปหน่อย”
ผมว่ายิ้มๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านตรงไปยังห้องน้ำ ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำแค่ไม่นานก็เดินออกมาเจอพี่แหวนยืนรออยู่
ผมยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่แหวนก็เลยพยุงผมพาเดินกลับไปนั่งด้านนอกเพื่อนกินของว่างตอนบ่าย
“ช่วงนี้ได้ออกกำลังกายบ้างไหมค่ะ”
“ไม่เลยแค่นั่งๆ นอนๆ”
“งั้นพรุ่งนี้เช้าพี่แหวนว่าเราไปออกกำลังกายที่สวนข้างๆ
บ้านกันดีกว่าค่ะ” พี่แหวนบอกยิ้มๆ ผมเองก็พยักหน้าเห็นดีด้วย
อย่างน้อยร่างกายผมจะได้ไม่อ่อนปวกเปียกแบบนี้
นี่ขนาดท้องไม่กี่เดือนนะครับถ้าใกล้คลอดผมคงเดินไม่ไหวแน่นอนเพราะไม่ยอมออกกำลังกายเลย
ผมนั่งกินของว่างอยู่ส่วนพี่แหวนก็ออกไปทำงานต่อแล้ว
หลังจากที่กินเสร็จผมก็นั่งเล่นอยู่ด้านนอกต่อเพราะบรรยากาศมันสบายสุดๆ ไปเลย
ผมนั่งยิ้มกับตัวเองสูดลมหายใจเข้าปอดหันซ้ายหันขวาไปเรื่อยๆ
ก่อนที่สาตาจะไปพบเจอกับใครบางคนที่เดินผ่านไปท่าทางน่าสงสัยมากๆ และดูเหมือนคนๆ
นั้นจะไม่รู้ด้วยว่าอยู่ในสายตาของผม
“ใครนะ?”
ผมอุทานขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นยืน
เดินลงไปด้านล่างก่อนจะตามบุคคลปริศนานั้นไปเพราะเจ้าตัวสวมหมวกผมถึงไม่รู้ว่าใคร
ผมเดินตามมาเรื่อยๆ ก็เห็นว่าผู้ชายคนนั้นกำลังหยุดคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ
กับสวนด้านหลังถ้าเดินไปอีกนิดหน่อยก็จะถึงสวนปาล์มฝั่งแนวชายป่าซึ่งติดเขา
“ครับนาย…คืนนี้ผมว่าจะจัดการอีกรอบ…รับรองว่าคราวนี้ไม่เหลือซากจนต้องยอมขายให้นายแน่นอนครับ”
อุ๊บ! ผมยกมือขึ้นปิดปากตัวเองด้วยความตกใจกับคำพูดพวกนั้นที่ได้ยิน
ผมไม่รู้ว่าหมอนั่นหมายถึงใครแต่ที่แน่ๆ
ทุกคำที่เอ่ยออกมามันไม่ดีต่อพ่อเลี้ยงแน่นอน ผมรีบหลบทันทีเมื่อมันคุยโทรศัพท์เสร็จและนั่นก็ทำให้ผมเห็นทันทีว่าคนที่คุยโทรศัพท์อยู่เมื่อกี้คือใคร
คม!
นี่พ่อเลี้ยงจะรู้บ้างไหมว่าถูกคนที่ไว้ใจหักหลังเข้าให้แล้ว
ผมมองร่างของคมที่เดินจากออกไปจนสุดสายตาก่อนจะค่อยๆ โผล่ออกมาจากที่ซ้อนตัวอยู่…ผมสาวเท้ายาวๆ
เดินตามคมไปแต่ทำตัวเป็นปกติที่สุดเมื่อมาถึงตัวบ้านก็เอ่ยเรียกเค้าทันที
“คม”
เสียงของผมทำให้ร่างสูงที่กำลังเดินอยู่หยุดชะงักและหันกลับมามอง
รอยยิ้มกลบเกลื่อนจ้องมองมาทางผม
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่า,
แค่แปลกใจว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง”
ผมว่าก่อนจะเดินเข้าไปหาคมจับผิดสีหน้าของหมอนี่แต่ดูเหมือนจะหาตัวจับได้ยากซะเหลือเกินครับ
“พอดีพ่อเลี้ยงสั่งให้ผมมาเอาของนะครับ”
“งั้นเหรอ? แล้วได้ของไปหรือยังละ”
“ไม่มีนะครับ
คงต้องกลับไปบอกแล้วออกไปซื้อในเมือง” ท่าทางของคมเป็นปกติมากๆ
ทำเอาผมต้องถอนหายใจและยอมแพ้ นี่ถ้าจับไม่ได้จังๆ คมคงไม่ยอมรับแน่นอน
แต่ช่างเถอะถือว่าปล่อยไปก่อนละกัน
“งั้นผมขอตัวนะครับ”
“อืม, ไปเถอะ”
ผมกอดอกมองคมที่กำลังเดินจากไป รู้สึกคิดหนักมากๆ จะทำยังไงดี…ผมควรจะบอกพ่อเลี้ยงดีไหม? แล้วถ้าคืนนี้คมลงมือทำอะไรขึ้นมาจริงๆ
ไม่แย่เหรอครับ
แล้วอีตาพ่อเลี้ยงทำไมยังไม่กลับมาอีกเนี่ย จะเข้าไปหาที่สวนปาล์มก็ไม่ได้กลัวโดนดุอีก
L
ตกเย็น
“พี่แหวนทำไมพ่อเลี้ยงยังไม่กลับมาอีก”
ผมร้องถามหลังจากที่ปล่อยให้เวลามันผ่านไปนาน
ผมไม่สามารถเดินเข้าไปหาเค้าได้เพราะคำสั่งแถมต้องมานั่งเป็นห่วงอยู่แบบนี้อีก
ให้ตายสิเมื่อไหร่จะกลับมา
“เดี๋ยวคงกลับมาค่ะ”
“แต่นี่จะมืดแล้วนะ”
ผมเดินวนไปวนมาอยู่ในบ้านด้วยหัวใจที่เต้นแรงทุกวินาทีเพราะนึกเป็นห่วงพ่อเลี้ยงแถมยังอึดอัดอีกต่างหากผมกลัวว่าความฝันของตัวเองก่อนหน้านี้มันจะเป็นความจริงแล้วถ้าเป็นแบบนั้นผมก็แย่นะสิครับ
TwT
งื้ออออออออ! เมื่อไหร่จะกลับมาเนี่ยเป็นห่วงแล้วนะเดี๋ยวก็ไปตามซะหรอก
“รออีกหน่อยเถอะค่ะ”
“รอมานานแล้วนะ…”
กริ๊งงง งง ง!!!
พอคำพูดของผมจบลงเสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้นมาทันทีพี่แหวนมองหน้าผมสลับกับโทรศัพท์คงเพราะกลัวว่าผมจะไม่รอพ่อเลี้ยงสินะ
แต่เชื่อเถอะพอพี่แหวนเดินไปรับโทรศัพท์เท่านั้นแหละครับผมก็รีบวิ่งออกมาทันที
ให้รออยู่แบบนี้มีหวังบ้าตายกันพอดี!!!!
“ขอโทษนะครับพี่แหวน”
ผมว่าก่อนจะวิ่งไปทางสวนปาล์มบอกไม่ถูกเลยว่าตอนนี้รู้สึกยังไงแต่ที่แน่ๆ
อยากเจอหน้าพ่อเลี้ยงแล้ว
เป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก ขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นก็แล้วกันครับ…
จอมพล
วันนี้ผมเจอเรื่องที่ไม่น่าคาดคิดมาก่อน ทั้งๆ
ที่ผมตั้งรับไว้แล้วแต่มันกลับไม่ทันการเพราะพวกมันไหวตัวทันกว่าที่คิดไปเยอะและลงมืออย่างรวดเร็วมากเลยทีเดียว
ผมนึกเป็นห่วงเดือนสิบสองยังไงก็ไม่รู้สิครับแถมตอนนี้ก็กลับบ้านไม่ได้อีกเพราะต้องจัดการกับพวกที่เข้ามาลอบกัด
“ฝากจัดการทางนี้ก่อนนะฉันจะโทรไปที่บ้านหน่อย”
ผมบอกกับเทพก่อนจะแยกตัวออกมาคุยโทรศัพท์ แต่สิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้นเมื่อแหวนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับผมแต่ว่าเดือนสิบสองกลับหายไป
“แหวนขอโทษค่ะพ่อเลี้ยง”
เสียงของแหวนดูจะตกใจไม่ต่างไปจากผมด้วยเช่นกัน
“ช่างเถอะรีบไปตามหาฉัน เดี๋ยวทางนี้ฉันจะช่วยหาอีกแรงเผื่อจะมาที่สวนปาล์ม”
ผมกดวางสายก่อนจะเดินกลับไปที่เทพบอกให้หมอนี่คอยช่วยคนงานดับไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ส่วนตัวเองก็รีบวิ่งออกมาเพื่อตามหาเดือนสิบสอง
อย่าให้รู้นะว่าใครคือคนบงการทั้งหมดผมจะไม่มีวันยกโทษให้เลย!!!
ปัง!
ระหว่างที่ผมกำลังวิ่งตามหาเดือนสิบสองอยู่นั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นมาจากอีกฝั่งหนึ่งของสวนปาล์มซึ่งมันติดกับแนวทิวเขาด้านซ้าย…ความรู้สึกเป็นห่วงเล่นงานผมอย่างจังเลยทีเดียวนี่ถ้าเดือนสิบสองกับลูกเป็นอะไรขึ้นมาผมจะไม่มีวันยกโทษให้ตัวเองเลย
“ปล่อยฉัน!”
แค่เสียงผมก็จำได้แล้วว่าใครและนั่นทำให้ผมรีบวิ่งเข้าไปก่อนจะหยุดและก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
เพื่อมองภาพตรงหน้า…
เดือนสิบสองถูกชายฉกรรจ์สองคนล็อกแขนเอาไว้ส่วนอีกคนผมไม่เห็นหน้ามันครับเพราะมันยืนหันหลังอยู่แต่ท่าทางเหมือนคุ้นเคยซะเหลือเลย
“ไอ้เลว ไอ้เวรเสียแรงที่พ่อเลี้ยงไว้ใจ”
เสียงของเดือนสิบสองยังคงอาละวาดเรื่อยๆ
จนผมนึกสงสัยขมวดคิ้วจ้องมองภาพตรงหน้าเรื่อยๆ
อยากเข้าไปใกล้กว่านี้แต่ก็กลัวว่าถ้าพวกมันเห็นผมเดือนสิบสองจะได้รับอันตราย
“ปากดีจริงๆ เลยนะครับ”
“บัดซบ! ไอ้คม!”
เสียงของผมทำให้พวกมันทั้งสามคนตกใจและรวมไปถึงเดือนสิบสองด้วยเพราะผมเดินออกไปจากที่หลบซ่อนก่อนจะมองไปยังพวกมัน
เพราะแค่เสียงของมันผมก็จำได้แล้ว
ผมเคยนึกสงสัยมาตลอดแต่เพราะทุกครั้งมันไหวตัวได้ทันแต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่
ผมหลงไว้ใจคนผิดสินะ!!!
“พ่อเลี้ยง” เดือนสิบสองดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดจากการจับกุมแต่ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยครับ
“หยุดสิโว้ย!”
เสียงของชายฉกรรจ์ที่รั้งแขนเดือนสิบสองเอาไว้ตะโกนโวยวายแต่ดูเหมือนเด็กดื้อของผมจะไม่ยอมแล้วดิ้นไปเรื่อยๆ
จนผมกลัวว่ามันจะทำอะไรเดือนสิบสอง
“เดือนสิบสองอย่าดิ้น ได้โปรด!”
ผมร้องห้ามด้วยความเป็นห่วงทำเอาเด็กดื้อยอมหยุดและดูเหมือนจะพึ่งคิดว่ามั้งครับว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่ตนแต่ยังมีใครอีกคนด้วย
ผมยิ้มให้กำลังใจก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้คมต่อ
“กูหลงไว้ใจ แต่มึงกลับทรยศกันได้ลงคอ!”
“หึ, ถ้าฝั่งไหนมันให้เงินเยอะกว่าผมก็คงต้องไป”
มันยกยิ้มที่มุมปากจ่อปืนมาทางผม
คิดจะสู้ก็คงไม่ได้ถึงผมจะพกปืนมาแต่คงสู้พวกมันสามคนไม่ได้แถมเดือนสิบสองจะได้รับอันตรายไปด้วย
“หึ! แล้วมึงไม่คิดบ้างเหรอถ้าหมดประโยชน์เมื่อไหร่ก็ตายเยี่ยงหมารับใช้”
ผมว่าทำเอาไอ้คมโกรธชักสีหน้าไม่พอใจเลยทีเดียว
“ถ้าไม่ติดที่ว่ามึงยังต้องขายไร่พวกนี้และที่ดินทั้งหมดให้นายกูละก็
คนที่ต้องตายอย่างหมาคงเป็นพ่อเลี้ยงจอมพล!!!!”
ผมกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้มาก “เฮ้ย! พามันไปขึ้นรถ”
เดือนสิบสองถูกลากออกไปจากที่ตรงนี้ผมกำลังจะวิ่งตามไปแต่ไอ้คมกลับยิงปืนออกมาซะก่อน
ทำเอาหลบแทบไม่ทัน
บรืน…
รถแล่นออกไปแล้ว
ความรู้สึกของผมตอนนี้ทั้งแย่และเป็นห่วงมากๆ แต่ทำอะไรไม่ได้สักอย่างให้ตายสิครับ
“พ่อเลี้ยงเป็นอะไรหรือเปล่าครับผมได้ยินเสียงปืน”
เสียงของเทพดังขึ้นมาตามด้วยพวกคนงานสามสี่คน
“ฉันไม่เป็นอะไรแต่ไอ้คมมันจับเดือนสิบสองไปแล้ว
รีบไปเอารถออกซะ” ผมหันไปสั่งคมแต่ดูเหมือนว่าหมอนี่จะไม่ยอมทำตาม
“ไปสิ!”
“ผมคงทำตามที่พ่อเลี้ยงบอกไม่ได้หรอกครับ”
“ทำไม? หรือคิดจะหักหลังฉันอีกคน”
“นายเทพไม่คิดจะหักหลังพ่อเลี้ยงหรอกครับ
แต่เพราะตอนนี้มันมืดแล้วถ้ามันจับตัวคุณหนูไปจริงๆ
เดี๋ยวมันก็ต้องติดต่อกลับมาครับ”
เทพไม่ใช่คนตอบแต่กลายเป็นคนงานคนหนึ่งที่วิ่งตามมาด้วยพูดขึ้นมาแทน
และนั่นก็ทำให้ผมคิดได้บ้าง
“ใช่ครับ! ถึงตามไปตอนนี้พวกเราก็ไม่รู้ว่าคุณหนูอยู่ที่ไหนรอให้มันติดต่อกลับมาดีกว่า”
“แต่ฉันเป็นห่วงเดือนสิบสองกับลูก!!!”
ผมโผล่งออกมาแทบจะทันทีที่เทพพูดจบทำเอาคนงานที่ยืนอยู่พากันตกใจ
ก็ของมันแน่ในเมื่อเดือนสิบสองเป็นผู้ชายแล้วจู่ดันท้องได้อีกต่างหากเป็นใครไม่ตกใจนี่สิแปลก
“เฮ้อ! ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อนที่ฉันจะช่วยเดือนสิบสองกลับมาได้ก็แล้วกัน”
ผมกลับมาบ้านด้วยความรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูกแม้ว่าไฟที่ไหม้จะไม่มากนักแถมตอนนี้ก็ดับหมดแล้วด้วย
แต่ไฟในใจผมนี่สิยังดับไม่หมดเพราะความเป็นห่วงผมกลัวว่าเดือนสิบสองกับลูกจะได้รับอันตราย
มันแย่มากๆ แย่กว่าครั้งไหนๆ
เพราะผมอยู่ไม่ได้หรอกนะหากไม่มีพวกเค้าสองคน!!!!!
ผมทั้งรัก
ทั้งหวงแต่ที่ไหนได้ไอ้เวรนั่นดันมาจับตัวไปต่อหน้าต่อตาโดยที่ตัวผมเองช่วยอะไรไม่ได้เลย
ปัง!!!
เสียงประตูห้องของผมถูกผลักเข้ามาอย่างจังแทบจะพังลงก็ว่าได้
ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับผู้มาเยือนวินาทีแรกที่ได้เห็นรู้สึกแปลกใจมากๆ
เลยทีเดียวก่อนจะเบือนหน้าหนีเพราะความรู้สึกบอกว่าดวงตาผมมันแดงกร่ำอยู่นะสิ
“พ่อ!” จาวาเรียกผมก่อนจะวิ่งเข้ามาหา “พ่อร้องไห้เหรอ?”
“เปล่า”
โกหกไปก็เท่านั้นเพราะผมชักจะรู้สึกแล้วสิว่าน้ำตามันอยากจะไหลออกมา
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ผู้ชายที่เข้มแข็งที่สุดทำไมจะร้องไห้ไม่ได้ในเมื่อปกป้องคนที่ตัวเองรักถึงสองคนไม่ได้
“โกหกหน้าตายเลยนะ ก็จาเห็นอยู่ว่าตาพ่อเลี้ยง”
“ช่างเถอะว่าแต่เรากลับมาได้ยังไง
ตอนที่พ่อไปรับทำไมไม่กลับมา” ผมสลัดความเศร้าออกไปก่อนจะหันกลับมามองหน้าจาวา
พอถูกตั้งคำถามแบบนี้เจ้าตัวกลับทำหน้าเศร้าใส่ผมซะงั้น
“ทำไมพ่อไม่บอกจาละว่าเค้ามีลูกแล้ว
แถมเค้ายังเป็นมาเฟียอีกต่างหาก…พ่อไม่เป็นห่วงจาเหรอถึงปล่อยให้ไปอยู่กับพวกเค้า”
น้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่เล็กทำเอาพ่อเลี้ยงอย่างผมไปไม่ถูกเลยทีเดียว
“พ่อไม่รู้หรอกนะว่าเค้ามีลูกหรือเปล่า
แต่ที่พ่อยอมเพราะหมอนั่นบอกว่า…ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกนะที่จะปล่อยให้เมียของตัวเองตกอยู่ในอันตราย”
จาจ้องหน้าผมแก้มทั้งสองข้างแดงระเรื้อขึ้นมาดูก็รู้ว่าเขิน
“แต่พ่อนี่สิที่แย่
ปล่อยให้เดือนสิบสองกับลูกต้องตกอยู่ในอันตราย”
“พ่อเมื่อกี้พ่อบอกว่าไงนะ แล้วลูกไหน?”
น้ำเสียงของจาก็เหมือนจะตกใจที่ได้ยิน
ไอ้ผมก็ลืมไปซะสนิทว่าจายังไม่รู้เรื่องที่เดือนสิบสองท้อง
“เดือนสิบสองท้องนะ”
“เฮ้ย! ไอ้คุณหนุเนี่ยนะแต่มันเป็นผู้ชาย”
“ก็ใช่! แต่ท้องไปแล้วตอนแรกที่รู้พ่อก็แปลกใจแต่ก็ดีใจสุดๆ
เหมือนกัน” ผมขยี้หัวจาที่จ้องหน้าด้วยความรู้สึกงงงวย
แต่ช่างเถอะถึงยังไงก็ท้องไปแล้วนี่
“เฮ้อ! น่าเป็นห่วงไปกันใหญ่”
“พ่อจะทำยังไงดี”
นี่คือคำพูดของคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อเลี้ยงจอมพลงั้นเหรอ
สุดท้ายก็ต้องมานั่งเศร้าเมื่อไม่รู้ว่าลูกกับเมียจะเป็นยังไงบ้าง
“รอ! จาเชื่อว่าพวกมันจะยังไม่ทำอะไรไอ้คุณหนูแน่นอนเพราะถึงยังไงก็ต้องเอามาต่อรองกับพ่ออยู่ดี”
“พ่อยอมแลกทุกอย่าง ขอแค่เดือนสิบสองกับลูกปลอดภัยก็พอ”
“พ่อรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา
แลกทุกอย่างก็เท่ากับว่าทุกๆ อย่างที่พ่อมีและที่พวกมันต้องการ”
“สิ่งนั้นมีค่าและสำคัญมากก็จริง
แต่พ่อก็ต้องเลือกสิ่งที่มีค่าและสำคัญกว่านะจา…พ่อไม่อยากเสียเดือนสิบสองกับลูกไป”
“จาเข้าใจแล้วว่าความรักมันเป็นยังไง?
มันทำให้คนเรายอมแลกทุกอย่างได้จริงๆ สินะครับ”
ผมไม่รู้หรอกว่าลูกต้องการจะสื่ออะไรแต่ถ้าจะให้ผมตอบก็คือใช่
สำหรับผมแลกได้แม้กระทั่งชีวิตถ้ามันทำให้สองคนที่ผมรักมีความสุขและมีชีวิตรอด
ผมก็คงต้องรออย่างที่จาบอก…รอว่าเมื่อไหร่มันจะติดต่อกลับมา?
ขออย่างเดียวให้เดือนสิบสองกับลูกปลอดภัยก็พอ!!!!!
_________________________________
ครบ%
ตัวช่วยโผล่มาแบบไม่ได้ตั้งใจ...ไม่รู้จะมาให้ยุ่งกว่าเดิมหรือเปล่า
พ่อเลี้ยงร้องไห้ มันทำให้เจ้ชื่นหัวใจ!!!!!
ฮาาาาาาาาาา
รอติดตามตอนต่อไป...
พ่อเลี้ยงร้องไห้ มันทำให้เจ้ชื่นหัวใจ!!!!!
ฮาาาาาาาาาา
รอติดตามตอนต่อไป...
ง่ะ.... อยากอ่านแล้วอ่ะ
ตอบลบเค้าอยากอ่านแล้วน้า ^^
ตอบลบจะรอนะคะ จุ๊บๆๆ
ตอบลบอยากฟินแล้ว
ตอบลบอยากอ่านนนนนนนนนนน ง่า ><
ตอบลบเฮียอบอุ่นดีจัง
ตอบลบจะยังไงต่อละเนี่ยลุ้น!!!!!
ตอบลบรอคะ
ตอบลบลุ้นนนนนนนนนน
ตอบลบงื้อแล้วพ่อเลี้ยงจะเป็นไงบ้างเนี่ย อยากรู้แล้วอ่ะ
ตอบลบเดือนสิบสองระวังตัวนะลูก
ตอบลบอยากให้หวานกันอีกจัง เป็นห่วงพ่อเลี้ยง สู่ๆๆจร้า
ตอบลบอยากอ่านแล้วว่ามันจะเป็นยังไง
ตอบลบอัพไวๆน๊าาาาาาาาาาาาาา
เกิดรัยขึ้น???? มาต่อเร็วๆน่ะ รออยู่!!!!
ตอบลบต่อโดยด่วน
ตอบลบรออ่านนะคะ ระวังตัวด้วยนะเดือนสิบสอง
ตอบลบค้างอย่างแรง -[]-
ตอบลบเดือนสิบสองจะเป็นอะไนไหมเนี่ย พ่อเลี้ยงโทรมาแน่เลย ความฝันจะเป็นจริงหรอ 😭😭😭😭😭
ตอบลบลุ้นแทนเดือนสิบสอง
ตอบลบพ่อเลี้ยงจะเปนไรป่าวนะ?
ตอบลบเดือนสิบสองจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม??
ตอบลบรออ่านอยุ่นะ~ ^^
ตอบลบเดือนสิบสองของชานนนนน
ตอบลบอัพต่อออออออออออออ ^^
แล้วเมื่อไรจะติดต่อมา!!!!!
ตอบลบเดือนสิบสองจะเป็นไรไหมอ่าาาา แง้ๆๆๆ สงสารพ่อเลี้ยงจังทำอะไรไม่ได้เลยตอนนี้นอกจากรอ
ตอบลบว่าแต่จาวากลับมาไงเนี่ย สามีไม่มาตามกลับหรอ
ต่อโดยด่วน ต่อเถอะ พลีสสส
ตอบลบมาต่อน้าาาาาาา ต่อด่วนนนนนนนนนนน
ตอบลบโง้ยอย่าทำอะไรเดือนสิบสองนะะะะะ
ตะไมไม่เรียกลูกเขยมาช่วยเล่าาาาาาาาาาาา
ลูกเขยเป็นมาเฟียแปบเดียวก็เจอแบ้ววววว
ลุ้นนนนนน ตกลงจาวาไปอยูกะใคร
ตอบลบไอ้คมบ้าแกตายแน่่ เกียจแก่
ตอบลบ