วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

luscious, 22




luscious, 22
วินาทีเฉียดตาย!!!



“สวัสดีเด็กน้อย! ไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งนะ...หึ!

“คุณ!!!” ชื่ออะไรแล้วเนี่ยจำไม่ได้แต่ที่แน่ๆ เป็นพ่อของยายป้าสร้อยฟ้า ผมไม่คิดว่าเข้าจะทำแบบนี้ได้ลงคอเพราะท่าทางในตอนนั้นเค้าไม่น่าสงสัยเลย แม้ว่าพ่อเลียงจะบอกผมมาบ้างว่าเค้าก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการที่ดินของพ่อเลี้ยง

“หึ! จำฉันได้สินะ ว่าแต่ไอ้เด็กนั่นจะมาเมื่อไหร่นะเนี่ย” ผมเกลียดตาแก่นี่มากๆ เลย ว่าแล้วทำไมช่วงนี้ยายป้านั้นหายไปหรือว่าจะเกี่ยวข้องด้วย ที่มาหาพ่อเลี้ยงบ่อยๆ เพราะเรื่องนี้หรือเปล่านะ

“ทำแบบนี้เพื่ออะไร? คิดเหรอว่าคุณจะรอดพ้นน้ำมือของตำรวจไปได้” ผมขู่แต่ดูเหมือนเค้าจะไม่กลัวอะไรเลย

“อำนาจฉันมีล้นมือและอีกอย่างฉันก็แค่สร้างภาพและสร้างสถานการณ์ให้เหมือนกับพ่อเลี้ยงจอมพลตั้งใจขายทุกอย่างให้”

“หมายความว่ายังไง?”

“คนตายไม่มีสิทธิ์พูดความจริงได้ใช่ไหม!!!!!!” ผมเกลียดผู้ชายคนนี้ที่สุดเลยในเมื่อพูดแบบนี้เค้าก็จะเล่นไม่ซื่อสินะแล้วผมกับพ่อเลี้ยงก็คงไม่รอด “พาออกมา!
ไอ้คมเป็นคนเดินมาลากผมออกไปจากรถแล้วพาเดินตามลุงแก่คนนี้ไป สักพักแสงไฟจากรถที่มาใหม่ก็สว่างจ้าไม่ต้องทายหรอกครับเพราะคนที่มาใหม่คงจะเป็นพ่อเลี้ยงแน่นอน เมื่อมาถึงตอนนี้แล้วผมไม่อยากให้เค้ามาเลย
ผมไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้เค้าต้องเป็นอะไรไป ผมไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้สักหน่อย

“จอมพล!” ผมเรียกชื่อของเค้าแทบจะพุ่งเข้าไปหา พ่อเลี้ยงมาคนเดียวจริงๆ ด้วยแถมสีหน้าของเค้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเลยแม้แต่นิดเดียว

“ผมไม่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเป็นฝีมือคุณอรุณนะครับ!” น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงเหมือนกำลังฝืน แม้ว่าเค้าจะพูดกับคนข้างๆ ผมแต่สายตากลับไม่ละไปจากผมเลย

“ฉันเบื่อที่จะใส่หน้ากากเต็มทน ในเมื่อมีข้อเสนอดีๆ ไม่ชอบฉันก็คงต้องทำแบบนี้แต่ไม่ต้องกลัวไปหรอกเพราะทุกอย่างจะเรียบร้อย”
ผมเห็นว่าพ่อเลี้ยงกำมือไว้จนแน่นท่าทางเค้าจะโกรธมากๆ ที่ถูกหักหลังแบบนี้เพราะถึงยังนายคมก็เป็นคนงานที่อยู่ในความดูแลของเค้ามาตลอด นี่ยังไม่รวมคุณอรุณอีกท่าทางจะจุกพอตัว
“ฉันไม่อ้อมค้อมละกันเงินสดและโฉนดที่ดินละ”

“ปล่อยเดือนสิบสองไปก่อน!!!” เค้าเน้นทุกคำก่อนจะมองหน้าผม สายตาของพ่อเลี้ยงบอกได้อย่างชัดเจนว่าห่วงใยผมมากๆ ผมเองก็ไม่ต่างไปจากเค้าหรอกครับพอรู้แบบนี้ผมไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวจนถูกจับมาได้เลย
T_T

“แล้วคิดว่ามีสิทธิ์ต่อรองไหม?”

“อื้อ!!!” ผมถูกกระชากออกมาจากนายคมด้วยฝีมือของชายแก่ข้างๆ แถมมือสากๆ ของตาแก่นี่ยังบีบคอของผมซะแน่นจนรู้สึกเจ็บอีกต่างหาก ผมแทบจะหายใจไม่ออกเลยทีเดียวและดูเหมือนว่าพ่อเลี้ยงกำลังจะพุ่งเข้ามาหาผมแต่กลับถูกล็อกแขนทั้งสองข้างเอาไว้จนของที่เค้าถืออยู่หล่นลงพื้นทันที

ปัง!!!
เสียงปืน! แล้วใครเป็นคนยิงกัน
“จอมพล!!!” ขาทั้งสองข้างของผมแทบทรุดเมื่อเห็นว่าหน้าท้องของพ่อเลี้ยงมีเลือดไหลออกมา น้ำตาก็ไหลตามมาติดๆ เลยทีเดียว ถึงมันจะมืดแต่ผมก็มั่นใจว่าคนที่โดนยิงคือพ่อเลี้ยง

“นี่มันอะไรกันไอ้คม!!!” ผมรู้แล้วว่าใครเป็นคนยิงและผมแทบอยากจะฆ่ามันไปอีกคน พ่อเลี้ยงทรุดฮวบลงไปกับพื้นดินทันทีผมอยากจะวิ่งเข้าไปหาเค้าแต่กลับทำแบบนั้นไม่ได้จะด้วยอะไรก็ตามแต่เพราะผมถูกไอ้คมล็อกตัวอยู่นะสิ

“ผมจำเป็นครับนาย ผมว่านายรีบไปหยิบของมาจะดีกว่าเพราะถึงยังไงนายก็ตั้งใจจะให้พ่อเลี้ยงตายอยู่แล้ว”

“หึ! แกนี่มันเลวจริงๆ ไม่เสียแรงที่ฉันเลือกให้ทำงานนี้” ดูเหมือนว่าตาแก่จะพอใจกับสิ่งที่เห็นแม้ตอนแรกจะแอบตกใจอยู่บ้าง ส่วนผมก็ถูกลากกลับมาที่รถตู้เหมือนจะถูกจับยัดเข้าไปด้านในอีกครั้งตามมาด้วยไอ้เลวที่ยิงพ่อเลี้ยง

“ปล่อยนะ ปล่อย”

“ผมว่าคุณอยู่นิ่งๆ จะดีกว่านะครับ” มันว่าแถมท่าทางเหมือนกำลังหนักใจ “ที่เหลือผมฝากด้วยนะครับ”
ทำไมมันถึงพูดแบบนี้ แล้วฝากที่ว่าคืออะไร?
พรึบ!!!
เท่านั้นแหละครับพอแว่นตาถูกถอดออกมาทำให้ผมได้เห็นใบหน้าของทั้งสี่คนผมแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองเลย มันเป็นเรื่องแย่ๆ ที่แฝงไปด้วยเรื่องดีๆ จนบางครั้งผมก็ชักจะงงกับสิ่งที่ได้เห็นแล้วสิ
“พี่เซย์ พี่แหวน พี่เทพแล้วก็คุณ” คนสุดท้ายสามีไอ้จามันครับทำไมมากันครบแบบนี้แล้วทำไมผมไม่เอ๊ะใจตั้งแต่แรกละว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่ด้วย ให้ตายสิพี่แหวนปลอมตัวได้เนียนมากๆ เลยทีเดียว
“นี่มันอะไรกันครับ ผมงงไปหมดแล้ว”

“เรื่องมันยาวนะ” พี่เซย์เป็นคนตอบคำถามของผม ตอนนี้เสียงปืนเงียบไปแล้วแต่เหมือนว่าด้านนอกกำลังมีคนคุยกันอยู่

“พ่อเลี้ยงละ? แล้วยังนายคมอีก”

“แหวนพาเดือนสิบสองกลับไปรอที่บ้าน”

“ค่ะ”

“เดี๋ยวสิครับ บอกผมก่อนผมไม่ไปหรอกนะถ้าพ่อเลี้ยงไม่ไปด้วยแถมเมื่อกี้เค้าก็ถูกยิงอีกต่างหาก” ผมว่าและเริ่มอาละวาดจนคนอื่นๆ พลอยหนักใจไปด้วย

“ทุกอย่างจะโอเค!” พวกเค้าสามคนเดินลงไปจากรถทันทีก่อนที่พี่แหวนจะขับรถพาผมออกมาจากที่ตรงนี้ ผมก็แปลกใจอยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่าทำไมพวกเค้าถึงดูแตกต่างนักแต่ก็ไม่คิดว่าจะมีการซ้อนแผนกันแบบนี้
น่าทึ่ง! และไม่น่าเป็นไปได้อย่างมากเลยทีเดียว


จอมพล
ให้ตายสิถึงจะวางแผนมาเป็นอย่างดี เล่นละครซะเนียนโคตรๆ แค่ไหนแต่พอเอาเข้าจริงทำไมมันจุกแบบนี้ถึงผมจะใส่เสื้อเกราะกันกระสุนมาก็ตามแต่ไม่อยากจะคิดว่าจุกได้ใจพ่อเลี้ยงไปเลยทีเดียว ผมคิดว่าหลายคนคงจะสงสัยกันแน่นอนว่าเรื่องมันพลิกมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง แต่ช่างเถอะตอนนี้ผมขอจัดการคนชั่วก่อนแล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังนะครับ
หมับ!
“ไม่ง่ายไปหน่อยเหรอไอ้แก่ชั่ว!
ผัวะ!!!
ผมก้มลงไปคว้ากระเป๋าที่ตกลงพื้นทันทีพร้อมทั้งซัดหมัดหนักๆ ใส่หน้าแก่ๆ ของผู้ชายที่ผมเคยนับถือ ผมคาดว่าตัวเองจะไม่รอดแฮะ
ปัง ปัง!!!
แต่เปล่าหรอกเพราะผมพาพวกมาเยอะ(แค่สามคนที่เหลืออยู่)และแน่นอนว่าเสียงปืนที่ดังอยู่นั้นก็มาจากลูกเขยของผมเองแหละ ไม่เสียแรงที่พามาเฟียมาด้วยแม่นยังกับจับวางเลยทีเดียว
“โอเคไหม” เซย์ถามก่อนจะช่วยพยุงผม ส่วนเทพก็กำลังเอาปืนจ่อหัวนายอรุณอยู่ ผมอุตส่าห์นับถือมานานวันนี้คงต้องจบสิ้นกันสักที

“จุก! แล้วไอ้คมละ?”

“ผมอยู่นี่ครับ” ผมไม่รู้ว่ามันหายไปไหนมาแต่ที่แน่ๆ ถ้าไม่มีไอ้คมผมก็คงไม่รอดแต่เชื่อเถอะว่ามันเองก็ไม่ได้ดีเสมอไป เรื่องแย่ๆ ผมจะเล่าให้ฟังทีหลังละกันครับ

“นี่มึงหักหลังกูเหรอ?” เสียงของนายอรุณดังขึ้นมาหลังจากที่เห็นไอ้คม ก็แน่ละสิขนาดผมยังเคยโดนมาเลย

“ถึงผมจะเคยพลาดที่เห็นเงินสำคัญกว่าบุญคุณและเผาสวนปาล์มของพ่อเลี้ยงแต่ถ้าไม่มีพ่อเลี้ยงแม่ผมที่กำลังป่วยอยู่ก็คงไปตายนานแล้ว” อย่างที่มันว่านั่นแหละครับผมกับเทพเริ่มจับพิรุธไอ้คมได้ตั้งนานแล้วพอดีกับตอนนั้นที่เดือนสิบสองไปได้ยินมันคุยโทรศัพท์ด้วยแต่ไม่เห็นหน้า แล้วทำไมผมจะจำเสียงไม่ได้ในเมื่อมันอยู่กับผมมาตั้งนาน
ผมไม่รู้ว่าช่วงหลังๆ มันมีปัญหาอะไรถึงไม่ยอมมาปรึกษาผมและเกิดทำตัวผิดพลาดไป แต่ในเมื่อมันยอมกลับใจผมก็ยอมให้อภัยและถ้าไม่ได้มันช่วยเล่นละครป่านนี้ลูกกับเมียผมก็คงแย่ไปแล้วเหมือนกัน

“นี่มึง!

“เทพเรียกตำรวจซะ!” ผมรีบออกคำสั่งก่อนจะจ้องหน้าชายแก่ที่ยังคงความยโสอยู่เหมือนเดิม “คุณโง่เองที่ไม่คิดให้ลึกกว่านี้

“หึหึ, ฮาๆ ใครกันแน่ที่โง่กูหรือมึง
หืม!!!
ปัง ปัง ปัง!
เวรแล้วไง มาจากไหนอีกเนี่ยเท่าที่จำได้ก็จัดการไปหมดแล้วนี่ผมและคนอื่นๆ แทบจะหาที่หลบกันแทบไม่ทันและแน่นอนดูเหมือนลูกเขยผมกำลังแย่แฮะเพราะโดนยิงไปที่แขนเข้าจังๆ เลยทีเดียวจนผมต้องรีบวิ่งไปช่วยและโยนกระเป๋าเงินให้เซย์ไป

“ไหวไหม?” ผมถามก่อนจะช่วยพยุง
ปัง!
แต่ลำบากสุดๆ ตรงที่ต้องยิงปืนไปด้วยนี่ครับ แถมไอ้แก่ชั่วยังหนีออกไปได้อีกต่างหากเหมือนเหตุการณ์มันจะยิ่งแย่ลงแถมชลมุนกว่าเดิมอีกต่างหาก

“แผลแค่นี้ไกลหัวใจผมหรอกครับ”

“เหอะปากดี ตายขึ้นมาจาได้ฆ่าฉันพอดี” ผมเชื่อว่าไกลหัวใจเพราะถึงยังไงหมอนี่ก็คงอยู่ในดงปืนมามากกว่าผมอยู่ดี แต่ก็เอาเถอะในเมื่อเราลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องช่วยกันสินะ
ผมพยุงไอ้ลูกเขยมาหลบกับทุกคนแต่ไหงเซย์หายไปละครับ?

“เทพแล้วเซย์” ผมถามแล้วนึกเป็นห่วงเพราะหมอนั่นยิงปืนไม่ค่อยเป็นสักเท่าไหร่แต่ก็ยังซ่าตามมา

“เฮ้ย! ไอ้บ้าพ่อเลี้ยงช่วยฉันด้วย!!!” เสียงมาแต่ไกลเลยทีเดียวจนพวกผมสามคนต้องมองหน้ากัน

“ฝากยิงคุ้มกันให้หน่อย”

“ครับ”
ปัง ปัง ปัง!!!
ผมวิ่งหลบกระสุนปืนเหมือนในหนังแอ็คชั่นเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามต้องวิ่งไปให้ถึงเซย์ก่อนที่จะโดนยิงตายแล้วไม่ได้กลับไปหาเมีย

“เฮ้ย! พ่อเลี้ยงระวัง”
ปัง!
ตุบ!
ผมไม่ใช่คนที่โดนยิงแต่ที่แน่ๆ ผมนี่แหละที่ล้มลงไปกองกับพื้นเพราะโดนผลัก พอหันไปมองก็เห็นว่าคนที่โดนยิงคือไอ้คม ผมไม่รู้ว่ามันโผล่มาจากไหนแต่คนที่ตั้งใจจะยิงผมคือนายอรุณ
“ไอ้คม!” ผมรีบลุกไปหามันก่อนจะช่วยพยุง ไอ้บ้านี่โดนยิงเข้าที่หลังเต็มๆ ท่าทางเหมือนกำลังแย่เลยทีเดียว

“ไม่เป็นอะไรนะครับพ่อเลี้ยง”

“บ้าเอ้ย! ห่วงตัวเองก่อนเถอะถ้ามึงตายเราได้เห็นดีกัน” ตอนนี้ผมเริ่มหัวเสียอีกแล้วครับ เพราะถ้าไม่มีมันเรื่องคงไม่ง่ายแบบนี้แน่นอนและอีกอย่างผมจะมีหน้าไปบอกแม่ของไอ้คมว่ายังไงละครับ

“ผมไม่ อะอั่ก!” เหมือนมันจะกระอักเลือดเลยทีเดียวแต่ผมว่าไม่เหมือนหรอกครับมันใช่เลย

“ไม่ต้องพูดแล้ว” ผมบอกมันก่อนจะมองไปด้านหน้าเพราะตอนนี้นายอรุณกำลังเดินมาทางผมแถมปืนที่ถืออยู่ก็ยังจ่อมาที่พวกเราอีกต่างหาก
ให้ตายสิทำไมมันลำบากขนาดนี้! แล้วนี่เมื่อไหร่ตำรวจจะมา

“ส่งกระเป๋ามาดีกว่าถ้าไม่อยากตายเร็วไปกว่านี้” เสียงของนายอรุณดังขึ้นมาจ่อปืนมาที่หน้าของผม

“เซย์ส่งให้เค้าไป”

“แต่พ่อเลี้ยง” หมอนี่เหมือนจะลังเลจนผมต้องสั่งอีกครั้ง

“ส่งไป” สุดท้ายเซย์ก็ยอมส่งให้ นายอรุณรับไปอย่างพึ่งพอใจก่อนจะสั่งให้ลูกน้องมันสองคนจ่อปืนมาที่พวกเรา ท่าทางตอนนี้เทพกับลูกเขยผมคงแย่พอๆ กันนั่นแหละครับเพราะพวกของนายอรุณมีมากเกินไปสำหรับพวกเราห้าคน

แกร๊ก!
เสียงกระเป๋าถูกปลดออกก่อนที่มันจะถูกเปิดออกเรื่อยๆ เชื่อผมเถอะว่าเรื่องมันต้องแย่ลงกว่าเดิมแน่นอน
เศษกระดาษมากมายตกลงพื้นพร้อมทั้งกระดาษ A4 เย็บเข้าหากันมากมายตกลงพื้นด้วยพร้อมๆ กัน สายตาอาฆาตมองหน้าผมขบกรามแน่นเลยทีเดียว
“ไอ้พ่อเลี้ยง นี่คุณให้ผมแบกกระเป๋าที่ไม่มีอะไรไปมาเพื่อ?” คำถามของเซย์ทำเอาผมอดขำหมอนี่ไม่ได้ มีแค่ผมกับลูกเขยเท่านั้นที่รู้ว่าด้านในมันคืออะไรส่วนคนอื่นๆ ก็ถูกต้มเหมือนอย่างนายอรุณนั่นแหละครับ

“นี่มึงกล้าหลอกกูงั้นเหรอ?”

“ขอโทษทีครับ แต่สมบัติผมคงไม่คู่ควรกับคนเลว!!!
วี้หว่อๆๆๆๆ
เสียงรถตำรวจดังขึ้นมาทำเอาทุกคนแตกตื่นรวมไปถึงนายอรุณด้วย

“นายครับตำรวจมา”

“เออกูได้ยินแล้ว”

“ไปเถอะครับนาย”

“ก่อนไปกูคงต้องจัดการมันไม่งั้นคงหนีแบบไม่สงบ!!!” ไกปืนที่กำลังถูกเหนี่ยวจ่อมาที่ผมด้วยสายตาที่อาฆาตแค้นมากๆ ผมก็ได้แต่แค่นยิ้มแล้วจ้องหน้านายอรุณกลับไปอย่างท้าทาย หัวใจผมเต้นแรงมากราวกับว่ากำลังกลัวแต่ไม่ใช่หรอกเพราะผมมั่นใจว่าตัวเองไม่ตายหรอกถ้ามันเลือกยิงที่หัวใจ
ก็ผมฝากไว้ที่เดือนสิบสองแล้วนี่!! (ใช่เวลาเล่นไหมพ่อเลี้ยง) -_-‘
ปัง!
เสียใจ อย่าตกใจ เพราะเสียงปืนที่ดังขึ้นไม่ใช่ของนายอรุณและผมก็ไม่ใช่คนที่ถูกยิงด้วย
“จะยืนหล่ออีกนานไหมครับพ่อตา!” ให้ตายสิถ้าไอ้ลูกเขยมันจะพูดจายียวนกวนประสาทแบบนี้
หึหึ!
ผมส่ายหัวไปมาพร้อมทั้งยิ้มขำสุดท้ายมันก็จบสินะ! นายอรุณถูกยิงเข้าจังๆ ที่ด้านหลังผมมั่นใจว่ามาเฟียแม่นพอที่จะจับจุดเป็นจุดตายของศัตรูได้ลูกน้องของเค้าถูกตำรวจจับได้แต่บางคนก็หนีเอาตัวรอดและตายไปบ้าง ส่วนพวกผมก็พากันบาดเจ็บไปตามๆ กันแต่ลืมไปอย่างหนึ่งว่าเมื่อกี้ไอ้คมมันถูกยิง

“รถพยาบาลละ” ผมร้องถามทันทีก่อนจะก้มลงไปมองหน้าลูกน้องของตัวเองซึ่งตอนนี้แน่นิ่งไปเรียบร้อยแล้ว

โรงพยาบาล
ทุกอย่างเหมือนจะยุ่งไปกันหมด ผมไม่ได้เป็นอะไรมากแค่เจ็บเล็กน้อยแต่ขอบอกว่ายังจุกที่ถูกไอ้คมยิงอยู่เลย แม้ว่าพวกเราจะซ้อมกันมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตามแต่พอเอาเข้าจริงลูกปืนมันไม่เข้าใครออกใครเลยทีเดียว
ตอนนี้นายอรุณเองก็ถูกนำตัวมารักษาเนื่องจากถูกลูกเขยผมยิงเข้าให้อย่างจังและถูกตำรวจควบคุมไว้ด้วย ผมไม่รู้ว่าสร้อยฟ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยไหมแต่ดูเหมือนเธอจะหายไปหลังจากงานวันเกิดของพ่อตัวเอง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหายไปไหนแต่ที่แน่ๆ ผมหวังว่าจะไม่เกิดอะไรร้ายๆ กับเธอ
ไอ้คมถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ส่วนลูกเขยผมก็ถูกพาไปทำแผลที่โดนยิง เทพและเซย์ไม่ได้เป็นอะไรมากนอกจากรอยฟกช้ำเท่านั้นผมไม่รู้เหมือนกันว่าแผนการในครั้งนี้มันเริ่มต้นจากตรงไหนแต่อย่างน้อยผมสามารถรักษาคนที่ตัวเองรักไว้ได้ก็พอ แต่ไอ้ความรู้สึกก่อนหน้านี้ยอมรับว่ามันมาจากใจจริงแม้จะบิ้วอารมณ์อยู่นานก็ตาม ผมก็แค่นึกไปว่าหากต้องเสียเดือนสิบสองไปจริงๆ ผมจะทำยังไงแค่นี้น้ำตามันก็ไหลแล้วครับ
เฮ้อ!
ปัญหาสุดท้าย อยากอ้อนเมียบ้างต้องเล่นละครต่ออีกหน่อยละกัน
“โอ๊ย!

“พ่อเลี้ยง” เสียงของผมร้องดังขึ้นมาหลังจากนึกอะไรสนุกๆ ออก เซย์กับเทพแทบจะถลาเข้ามาช่วยกันไม่ทันเลยทีเดียว

“เป็นอะไร?”

“เดือนสิบสองมา” ผมแอบหันไปเห็นเมื่อกี้นี่เองไม่งั้นการแสดงคงไม่ออกแบกระทันหันหรอกครับ ดีนะที่เลือดยังไม่แห้งไปหมดไม่งั้นการแสดงนี้ไม่เป็นผล

“แล้ว?”

“อยากอ้อนเมีย” ผมฉีกยิ้มกว้างก่อนจะทำหน้าตาเหมือนจะตายจริงๆ ให้ได้ทั้งๆ ที่ตอนนี้เดือนสิบสองยังเดินเข้ามาไม่ถึงเลย
เดี๋ยวการแสดงของผมจะไม่เนียน!!!

“ขอให้ตายจริงๆ หมอครับช่วยด้วย” เซย์แช่งผมด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ก่อนที่จะร้องเรียกหมอ สุดท้ายผมก็ถูกห้ามเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกคน
เมียจ๋า! ไม่ได้ตั้งใจแต่ขอนิดนึงนะครับ








จบปิ้ง!!! ครบ...
งงกันรึเปล่าเนี่ย? อย่างงเลยเพราะคนแต่งก็คาดเดาไม่ถูก 5555
#แต่งไปได้ไงเนี่ย สับสนดีแท้

เดากันได้ตามสเต็ป มีให้ลุ้นอีกหลายเรื่อง หึหึ!!!

อย่างง!!!
เดี๋ยวจะมาอธิบายให้ทีเดียว เพราะตอนนี้พ่อเลี้ยงสร้างปัญหาให้ตัวเองอีกแล้ว
เอาเป็นว่าความจริงจะกระจ่างเมื่อพ่อเลี้ยงต้องง้อเมีย!!!!
555555555555







วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

luscious, 21






luscious, 21
เมียกูใครก็ห้ามแตะ!!!



ทรมาน!!!!!
นี่ละมั้งสิ่งที่หัวใจกำลังตอบผม การรอคอยทำไมมันถึงได้แย่ขนาดนี้นะแย่สุดๆ ไปเลย ป่านนี้แล้วเดือนสิบสองกับลูกจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ แถมเมื่อคืนผมยังนอนไม่หลับอีกต่างหากแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ผมนะครับเพราะจาวาเองก็ด้วยท่าทางของลูกผมจะดูแย่ไม่ต่างกันเลย
“แหวนตั้งโต๊ะนะคะ” เสียงของแหวนดังขึ้นมาผมหันไปสบตาก่อนจะตอบคำถาม

“ฉันไม่หิวตั้งให้จาเถอะ”

“จาก็ไม่หิว” ตอบเสร็จก็ก้มหน้าก้มตาต่อ จาวาดูแย่มากๆ หรือจะรวมทุกคนเลยก็ว่าได้เพราะสีหน้าของแต่ละคนดูแย่ไปซะหมด
ผมเหนื่อย! แต่ผมกลับท้อไม่ได้เพราะผมยังมีเดือนสิบสองกับลูกรอให้ไปช่วยอยู่

“เฮ้อ! เดินเข้ามาในบ้านยังกับเดินอยู่ในป่าช้าเงียบสงบดูเศร้าไม่ต่างกันทั้งพ่อทั้งลูกเลยนะ” ผมลืมบอกไปว่าเทพออกไปรับเซย์ที่สนามบินตอนแรกผมก็ไม่อยากให้มาหรอกแต่ในเมื่ออยากมาผมก็ไม่อยากขัด ส่วนพ่อกับแม่ของเดือนสิบสองผมก็โทรไปบอกท่านแล้วดูพวกท่านจะกังวลมากๆๆ แต่ผมก็รับปากไปแล้วว่าจะพากลับมาให้ได้ทั้งสองคน

“สวัสดีครับพี่เซย์” จายกมือไหว้ก่อนจะลุกออกไปแต่แล้วกลับมีเสียงร้องตะโกนดังขึ้นมาซะงั้น
“มาทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้นะ! ผมดูจะแปลกใจนิดหน่อยก่อนจะลุกตามออกไปดู เท่านั้นแหละครับรู้เลยว่าลูกผมอาละวาดเพราะอะไร ทั้งๆ ที่ใจจริงคงจะคิดถึงเค้าแต่พอเจอหน้ากลับไล่

“พี่ขอโทษ” ผมไม่รู้ว่าหมอนี่เชื่องตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองคนคงจะทะเลาะกันมั้งครับจาถึงได้หนีกลับบ้านมาแบบนี้ ทั้งๆ ที่ตอนแรกผมไปรับไม่ยอมกลับ

“เข้ามาก่อนสิ” ผมออกปากเชิญจนพ่อลูกเขยมาเฟียยิ้มออกแล้วเดินตามเข้ามาในบ้าน ดูท่าจาจะไม่พอใจผมนะครับถึงได้เดินตามมาแล้วก็เดินหนีกลับเข้าห้องไปทันที

“มีอะไรหรือเปล่าตอนผมขับรถเข้ามาเห็นจะวุ่นวายนะครับ” ลูกเขยออกปากถามอย่างน้อยมีมาเฟียมาร่วมวงคงจะเบาแรงได้สักหน่อย

“เกิดเรื่องนิดหน่อย เมียฉันถูกจับตัวไปนะรอก็แค่พวกมันติดต่อกลับมา”

“มีอะไรให้ช่วยก็บอกละกันครับ”

“คงจะได้ช่วยแน่นอน มาเหนื่อยๆ ไปพักเถอะห้องจาอยู่ตรงมุมสุด”

“ครับ”
ผมว่าจาคงอยากให้เข้าไปง้อซะมากกว่าเพราะถึงยังไงลูกผมก็นิสัยเหมือนเดือนสิบสองอยู่แล้วแค่ไม่รู้ตัวเองก็เท่านั้นเอง
ปากแข็ง ปากไม่ตรงกับใจอย่าได้ทำเชียวเพราะสุดท้ายก็รักอยู่ดี!!!

ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาผมกับเซย์มองหน้ากันแบบลุ้นสุดๆ เพราะเบอร์ที่โทรเข้าเป็นเบอร์ส่วนตัวแต่ผมก็ไม่มีเวลาคดอะไรมากนอกซะจากจะกดรับสายทันที
“สวัสดีครับ”
“เร็วกว่าที่ผมคิดนะครับพ่อเลี้ยง”
“ไอ้คม!!!” ผมจำเสียงมันได้และแน่นอนว่าน้ำเสียงของมันกำลังเยาะเย้ยผมอยู่ ผมอยากจะฆ่ามันมากๆ เลยที่กล้าหักหลังผมแบบนี้
“มึงต้องการอะไร?”
“พูดไม่สุภาพเลยนะครับพ่อเลี้ยง แต่ในเมื่อไม่อ้อมคอมผมก็อยากบอกตรงๆ ว่าทุกอย่างที่มันสามารถทำเงินได้เพื่อแลกกับเมียคุณ” ผมกำหมัดแน่นแทบอยากจะฆ่ามันเหลือเกินแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ายอม
“กูจะมั่นใจได้ยังไงว่าเดือนสิบสองจะปลอดภัย”
“หึ, เฮ้ยพาเข้ามา” ไอ้คมมันแสยะยิ้มผ่านสายโทรศัพท์ก่อนที่เสียงของมันจะดังขึ้นเหมือนกำลังสั่งลูกน้องให้พาเดือนสิบสองเข้ามาหา
ตึกๆ ตักๆ
ผมรออย่างตั้งใจมากๆ พอๆ กับที่หัวใจของผมมันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว
“จอมพล” ผมแทบจะนั่งไม่ติดเมื่อได้ยินเสียงของเดือนสิบสองเรียกชื่อผมแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าไอ้คมมันทำอะไรเด็กดื้อไปบ้างหรือเปล่าแต่ถ้าแตะเมียผมแม้แต่นิดเดียวมึงตาย
“โอเคไหม”
“ไม่! อึดอัดจะแย่” ผมไม่รู้ว่าเดือนสิบสองกำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดแบบนี้แถมน้ำเสียงก็ไม่แสดงอาการกลัวแต่อย่างใด
“แล้ว” ผมเว้นคำพูดไว้แค่นี้เพราะถ้าผมพูดไปก็เท่ากับว่าเดือนสิบสองจะต้องระวังตัวมากขึ้น แต่ผมก็หวังว่าเดือนสิบสองจะเข้าใจในคำถามนี้
“จอมพลน้อย! เค้าโอเคหายห่วงแต่รีบๆ มาช่วยก็ดีนะ”
จอมพลน้อย! เมียผมคิดได้นะครับในสถานการณ์แบบนี้ยังจะพูดจาแปลกๆ ให้พวกมันได้ขำกันอีก ไม่รู้จะเศร้าหรือยิ้มดีแต่อย่างน้อยก็หายห่วงไปขั้นหนึ่งเพราะตอนนี้เดือนสิบสองยังปลอดภัยดี
“พากลับไปได้แล้ว” เสียงไอ้คมดังขึ้นมาเหมือนมันจะแย่งโทรศัพท์คืนจากเดือนสิบสองแล้ว ผมอยากฆ่าไอ้คนทรยศนี้จริงๆ เลยกล้ามากที่มาขัดจังหวะผมเนี่ย
“ถ้าเดือนสิบสองเป็นอะไรไป อย่าหวังว่าพวกมึงจะได้อะไรเลย”
“ยังมีหน้ามาพูดขู่เหรอพ่อเลี้ยง รีบๆ เตรียมทุกอย่างละโฉนดที่ดินทั้งหมด รวมไปถึงเงินสดยี่สิบล้านด้วยผมว่าแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับพ่อเลี้ยงจอมพล!!!” ผมสาบานได้เลยถ้าไอ้คมอยู่ตรงหน้าตอนนี้ผมแทบอยากจะเอาปืนจ่อปากมันแล้วยิงไม่ยั้ง
“เจอกันตอนทุ่มตรงที่ป่าแถวท่าเรือร้าง มาคนเดียว! แจ้งตำรวจเมื่อไหร่เตรียมรับศพเมียได้เลยครับพ่อเลี้ยง”
ตู๊ด!!!!!
“ไอ้คม! โธ่โว้ย!!!
ผมไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายกับความรู้สึกหัวเสียในตอนนี้ซะจริงๆ เลย ทำอะไรไม่ได้แต่อย่างน้อยรู้แค่ว่าเดือนสิบสองปลอดภัยก็พอแล้ว

“พ่อเลี้ยง” เสียงของเซย์ดังขึ้นมาก่อนที่หมอนี่จะเดินเข้ามาหาตบไหล่ผมเพื่อให้กำลังใจ

“เซย์เตรียมเงินสดยี่สิบล้านให้ฉันด้วย แล้วห้ามให้ตำรวจเข้ามายุ่งนะเพราะคืนนี้ฉันจะไปตามที่มันนัด”

“นายคิดดีแล้วใช่ไหม?” เซย์ถามผมน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่แต่สำหรับผมในตอนนี้มันยิ่งกว่าคิดดีอีกต่างหากครับ
สำหรับผมยอมแลกทุกอย่างถ้าเดือนสิบสองกับลูกปลอดภัย!!!

“ถ้าฉันจะไม่เหลืออะไร แต่อย่างน้อยหากสามารถรักษาครอบครัวเอาไว้ได้ฉันก็ยอม!!!
คำพูดที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก หากแต่มันออกมาจากใจของผมทุกคำผมไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่ามันจะมีวันนี้แต่ในเมื่อผมกำลังจะมีครอบครัวแต่เหมือนจะเสียไป แต่ถ้ามีทางเลือกให้เดินระหว่างสมบัติมากมายกับครอบครัว
ผมว่า ผมยอมเลือกครอบครัวดีกว่าเพราะอย่างน้อยถ้ายังไม่ตายเราก็สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ใหม่ไม่ยิ่งใหญ่แต่มีความรักช่วยสร้างความสุขก็มีอยู่รอบตัว !

“อืม, โอเค”

เดือนสิบสอง
ผมหิวสุดๆ ไม่ใช่แค่ผมแต่ลูกก็ด้วยอยากจะหยิ่งและไม่กินของที่พวกมันเอามาให้แต่ก็นะทำไม่ได้นะสิก็ผมเป็นห่วงลูกนี่รู้ไหมตอนที่ถูกจับตัวมากลัวแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็สามารถมั่นใจได้ว่าพ่อเลี้ยงยังปลอดภัยอยู่
ผมคิดถึงพ่อเลี้ยงจัง T_T
นอนไม่หลับเลยหรือเพราะขาดอ้อมกอดของเค้ากันนะ อยากจะบ้าตายนี่ถ้าหลุดไปได้จะฆ่าทิ้งให้หมดทำไมต้องจับผมมาด้วยเนี่ย
อาละวาดไม่ได้ เบื่ออออออออออ!
แต่ในความเบื่อนั้นพอได้ยินเสียงพ่อเลี้ยงกลับดีใจสุดๆ แต่กรี๊ดไม่ได้นะสิน้ำเสียงของพ่อเลี้ยงเศร้าจังนึกแล้วอยากกอด แถมคำถามของเค้าก็ทำให้ผมอดขำในคำตอบของตัวเองไม่ได้เพราะผมแทนคำว่าลูกเป็นจอมพลน้อย ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองท้องพอๆ กับพ่อเลี้ยงถึงได้ถามแบบนั้นแล้วก็เงียบไปอย่างน้อยลูกและผมต้องปลอดภัยแล้วรอเค้ามาช่วยสินะ
ผมคุยกับเค้าได้ไม่นานไอ้คมก็แย่งโทรศัพท์ไปเฉยเลยอยากกระโดดกัดหูมันมากๆ มาขัดจังหวะคนกำลังคุยกัน สุดท้ายผมก็ถูกลากกลับมาอยู่ในห้องมืดๆ อีกครั้ง
“ไอ้บ้าคม ไอ้” ด่าไปก็เท่านั้นครับเพราะมันไม่ได้ยิน เบื่อที่สุดกับห้องมืดแถมเหม็นอับอีกต่างหากอยากจะอ้วกแต่ต้องเก็บเอาไว้รู้สึกรักลูกเพิ่มขึ้นทุกวันที่ไม่ทำร้ายผมและปล่อยให้ผมอ้วกต่อหน้าคนอื่นไม่งั้นพวกมันได้สงสัยกันพอดี
“นี่ตัวเล็กเราจะรอดกันไหม?” ผมนอนแผ่อยู่บนเตียงลูบท้องตัวเองไปมา ไม่มีคนคุยด้วยอย่างน้อยก็ยังมีลูกอยู่กับผม
“รู้สึกเหมือนแม่จะคุยคนเดียว” นึกแล้วขำแถมยังเขินอีกต่างหากที่แทนตัวเองว่าแม่ ใครจะไปคิดละว่าจะท้องไม่เคยคิดเลย ดีนะที่ไม่เคยเสียประตูหลังให้ใครมีแต่ตาแก่หื่นจอมพลนี่แหละขนาดผมอยากจะกดเค้าดันพลาดท่าไปซะได้สุดท้ายเป็นไงได้ทั้งสามีและก็ลูกเลย
คุ้ม!
เพราะสามีผมรวย ไม่เกี่ยวหรอกครับถึงเค้าไม่รวยผมก็มั่นใจว่าจะรักได้เพราะลึกๆ แล้วพ่อเลี้ยงเป็นคนที่อบอุ่นมากแถมยังอ่อนโยนอีกต่างหากแม้ว่าบางครั้งเค้าจะทำเหมือนไม่สนใจและดุก็ตาม แต่ที่จริงแล้วเค้านะโคตรจะเป็นห่วงเลยละครับ
น่ารักแบบนี้ใครไม่รักก็บ้าแล้ว อีกอย่างใครอยากได้ก็ไม่ยกให้หรอกเพราะคนนี้ของเดือนสิบสองคนเดียว!!!
           
ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้กำลังนอนอยู่แถมยังคุยกับลูกอีกต่างหากแล้วทำไมตอนนี้ผมถึงเดินอยู่ละครับ มันไม่คุ้นเคยเลยเหมือนที่ไหนสักแห่งแต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี
นี่แนะๆ อิอิ อย่าแกล้งเค้าสิเสียงเด็ก!
ผมพยายามมองไปยังภาพตรงหน้าและเห็นเด็กสองคนกำลังนั่งเล่นกันอย่างสนุกสนามแถมท่าทางเหมือนกำลังมีความสุขอีกต่างหากครับจนผมละสายตาไปจากพวกเค้าไม่ได้เลยทีเดียว
ฮือๆ พี่แกล้งเค้าอีกแล้ว แถมจู่ๆ เด็กคนที่กำลังนั่งอยู่เกิดร้องไห้โดยมีเด็กอีกคนยืนมอง ผมไม่รู้ว่าทำไมแต่ใจลึกๆ อยากเดินเข้าไปหาแล้วอุ้มเด็กคนนั้นขึ้นมาและแน่นอนว่าผมทำอย่างนั้นจริงๆ
นี่เด็กน้อย ร้องไห้ทำไมครับ ผมว่าก่อนจะก้มลงไปอุ้มเด็กคนที่ร้องไห้ขึ้นมา ส่วนอีกคนก็ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาผม
ฮือๆ พี่เค้าแกล้งผม
ผมไม่ได้แกล้งน้องนะฮะแม่
แม่!

“เฮ้ย! ตื่น” ให้ตายสิไอ้บ้าคนกำลังฝันแล้วใครที่ไหนมันมาปลุกผมละเนี่ย พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นไอ้อ้วนร่างยักษ์กำลังยืนจ้องหน้าผมอยู่ความฝันเมื่อกี้นี้มันอะไรกันแต่ผมมั่นใจว่าเด็กคนนั้นเรียกผมว่าแม่

“อะไร?” ผมลุกขึ้นนั่งมองหน้ามันไม่พอใจ

“กินข้าว อีกหนึ่งชั่วโมงจะได้เวลาออกไปแล้ว” จานข้าวถูกวางกระแทกลงตรงหน้าก่อนที่มันจะปิดประตูดังปังแล้วหายไป ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ยแถมตอนนี้ก็ใกล้เวลาแล้วด้วย แต่มันก็ยังคาใจเรื่องความฝันอยู่ดี
ระหว่างที่นั่งกินข้าวไปมือของผมก็คอยแต่กุมหน้าท้องของตัวเอง ผมเริ่มกลัวแล้วสิครับ

“หนูจะไม่ทิ้งแม่ไปใช่ไหม?” มันคือคำถามที่ผมเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะค่อยๆ กินข้าว ผมไม่ค่อยหิวหรือจะพูดให้ถูกเพราะความฝันทำให้ผมกลัวจนไม่อยากกินข้าวเลยด้วยซ้ำไป อย่างน้อยขอให้มันเป็นฝันดีสำหรับผมและพ่อเลี้ยงก็แล้วกันครับ
“แม่จะรอ รอวันที่เราจะได้เจอกัน
ผมไม่อยากพูดหรือทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ แต่ที่แน่ๆ ผมควรจะให้กำลังใจตัวเองสินะเพราะอย่างน้อยมันสามารถทำให้ผมมีแรงที่จะก้าวเดิน ผมจะไม่ท้อหรอกเพราะผมรู้ว่าพ่อเลี้ยงกำลังพยายามมาช่วยผมกับลูก

หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ผมไม่รู้ว่าพวกมันกำลังพาผมไปที่ไหนเพราะเส้นทางแถวนี้สำหรับผมมันไม่คุ้นเคยเอาซะเลย ผมไม่ใช่คนที่นี่และแน่นอนหัวใจผมเต้นแรงทุกวินาทีที่รถเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ผมชักอยากจะเจอหน้าพ่อเลี้ยงเร็วๆ แล้วสิครับ
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับเดี๋ยวคุณก็จะได้เจอพ่อเลี้ยงแล้ว” เสียงของไอ้คมดังขึ้นมาแต่ท่าทางของมันทำให้ผมนึกกลัว ผมเกลียดน้ำเสียงมันจริงๆ เลยครับแถมท่าทางของมันยังทำให้ผมหวั่นใจอีกต่างหาก

“ไม่ต้องมาพูดดีหรอกไอ้คนทรยศ!” ผมเน้นทุกคำแต่มันกลับไม่พูดอะไรต่อได้แต่แสยะยิ้มที่มุมปาก ดูน่ากลัวไม่สิเหมือนมันจะเศร้ามากกว่า
“ตามจริงพ่อเลี้ยงก็ดีกับนาย แต่ทำไม

“หยุดพูดเถอะครับเราใกล้จะถึงที่นัดหมายแล้ว” ผมอยากถามแต่ในเมื่อมันสั่งให้หยุดผมก็ต้องหยุดสินะ
ครืด ครืด
ผมนั่งเงียบๆ อย่างที่หมอนี่บอกสักพักเสียงโทรศัพท์ของมันก็ดังขึ้นมา

“ครับนาย” นายนี่คงไม่ใช่พ่อเลี้ยงแน่นอนแต่เป็นคนที่สั่งการทุกอย่างสินะ ผมไม่ได้ยินเลยเพราะเหมือนนายคมจะระวังตัวตลอดเวลา
“นายจะมาเองเหรอครับได้ครับ ผมนัดเจอมันตามที่นายสั่ง ตอนนี้ผมกำลังจะถึงที่นัดหมายครับครับนาย” มันกดวางสายไปแล้วก่อนจะหันมาสบตากับผมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมละอยากรู้จริงๆ ว่านายที่มันพูดถึงคือใครทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย
กลัว
เป็นห่วง
ถ้าเกิดความฝันของผมเกี่ยวกับพ่อเลี้ยงก่อนหน้านี้เป็นจริงขึ้นมาแล้วผมจะทำยังไง แถมยังความฝันก่อนจะออกมาอีกทำไมผมถึงสับสนแบบนี้นะเนี่ยทุกอย่างมันตีกันหมดจนอยากจะอ้วกแตกแล้วเนี่ย
(T_T)

“ลงมาได้แล้วครับ” ผมไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนแต่มีเรือจอดอยู่เต็มไปหมดเหมือนจะมันจะร้างด้วยครับแถมท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าครามแล้วด้วย น่ากลัวเป็นบ้าแล้วนี่พ่อเลี้ยงมาหรือยัง
ผมมองไปรอบๆ ด้านหน้าเป็นป่าด้านหลังเป็นทะเลและเหมือนจะเป็นท่าเรือร้างด้วยครับ ไอ้คมพาคนมาเยอะแยะไปหมดจนผมนึกกลัวถ้าพ่อเลี้ยงมาคนเดียวก็เท่ากับเอาชีวิตมาทิ้ง
ฮือออออออ! แบบนี้พ่อเลี้ยงเสียเปรียบชัดๆ

“นี่แล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงหากแกได้ทุกอย่างไปแล้วพ่อเลี้ยงจะปลอดภัย” ผมสะบัดแขนที่ถูกจับอยู่ก่อนจะจ้องหน้าไอ้คม หมอนี่ก้มลงมามองหน้าผมก่อนจะแสยะยิ้มเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ชะมัด

“ผมว่าคุณน่าจะเป็นห่วงตัวเองนะครับ”

“อย่าทำอะไรพ่อเลี้ยงนะ” ผมร้องขอแต่เหมือนจะไม่ได้ผลอยู่ดี

“เชื่อใจพ่อเลี้ยงไม่ดีกว่าเหรอครับ”

“พูดอะไร?”

“พาไปหลบก่อน รอพ่อเลี้ยงมันมา” ผมตั้งคำถามแต่กลับไม่ได้คำตอบก่อนจะถูกลากออกมาหลบในรถตู้อีกคันแถมด้านในยังมีคนอยู่ประมานสามถึงสี่คนมองแล้วไม่น่าไว้ใจแถมยังน่ากลัวอีกต่างหาก แต่ถึงยังไงผมก็มองหน้ามันไม่ชัดอยู่ดีเพราะพวกมันสวมแว่นทุกคน

บรื้นนนนนน !
ผมได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาแทบอยากจะพุ่งออกไปจากที่ตรงนี้มากเลยครับ แต่กลับถูกกระชากให้นั่งลงที่เดิมก่อนจะถูกสายตาดุๆ ผ่านแว่นดำจ้องมอง ผมไม่รู้หรอกว่าสายตามันดุจริงหรือเปล่าเพราะก็แค่เดาเอาจากสีหน้าและท่าทางเท่านั้นเอง
ขอบอกพวกที่อยู่กับผมสี่คนนี้ดูสุขุมมากกว่าพวกที่ผมนั่งรถมาด้วยในตอนแรกซะอีก
-_-‘ คิดอะไรอยู่เดือนสิบสอง!!!

“สวัสดีครับนาย”
หืม! นั่นมันเสียงไอ้คมนี่ครับแล้วนายนั่นใครไม่ใช่พ่อเลี้ยงหรอกเหรอนี่มันก็เลยเวลามาแล้วด้วยหรือเค้าจะไม่มาช่วยผมอะ ให้ตายสิตาแก่บ้าเมื่อไหร่จะมาอึดอัดแถมกลัวอีกต่างหาก

“มันยังไม่มาเหรอ?” ว่าแต่ทำไมเสียงคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินมาจากไหน แต่คงไม่ใช่หรอกครับเพราะบางทีผมอาจจะคิดไปเองก็เป็นได้

“ยังครับ”

“นี่มันคิดจะตุกติกกับฉันเหรอ?” เสียงไม่พอใจเอ่ยออกมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าพ่อเลี้ยงยังไม่มา

“ไม่หรอกครับเพราะเรามีคนของพ่อเลี้ยงอยู่”

“หึ, เด็กนั่นจะสำคัญจริงๆ จนมันยอมแลกทุกอย่างงั้นเหรอ?”

“แน่นอนครับนาย”

“ก็ดี! ฉันชักอยากจะเจอหน้าเด็กนั่นแล้วสิ นี่ถ้ามันยังไม่รีบมาภายในสิบนาทีฉันคงต้องส่งของขวัญไปให้ดูซะหน่อยแล้ว” เมื่อจะได้ยินเสียงเดินมาเลยครับ ผมนั่งลุ้นจนหัวใจเต้นทุกวินาทีเลยทีเดียว
ตึกๆ ตักๆ
ครืดดดดดดดด !!!
OMG!
เสียงประตูรถตู้ถูกเลื่อนออกมา ก่อนที่ผมจะได้พบสบตากับไอ้คนที่ไอ้คมมันเรียกว่านายให้ตายสิครับสิ่งที่พ่อเลี้ยงเคยพูดไว้กับผมมันคือเรื่องจริงงั้นเหรอ ผู้ชายคนนี้มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย

“สวัสดีเด็กน้อย! ไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งนะ...หึ!








______________________________
ครบ 100%

เฮ้ย! ทำค้างซะงั้น
ขอโทษพลีสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!!!
ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะแต่งแบบนี้ แต่มันเกิดคิดออกว่าให้ลุ้นน่าจะสนุกกว่า
ฮาาาาาาาาาาาาาาาาา

เย้ เย้...
ใกล้จะจบเข้ามาทุกทีแล้ว
หวังว่าตอนหน้าคงจะได้บู้จริงๆ สักที

#ให้ทาย
คนที่พูดกับเดือนสิบสองคือใคร?

แป้งขออ่านเม้นเป็น #ภาษาใต้ บางสิค่ะ!!!!!!
น่าท่าว่าจะหรอยจังหู่ 5555'